แม้เวลาล่วงไปกว่า 45 ปี..ย้อนภาพครั้งในหลวงร.10 เสด็จจ.อุบลฯ พร้อมพระราชบิดา วันนี้ที่เดิมยังตรึงใจพสกนิกรรอรับเสด็จ

4847

จากกรณีเมื่อวันที่ 27 ต.ค.63 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน ณ วัดหนองป่าพง อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี โดยมีข้าราชการ พสกนิกรทุกหมู่เหล่า เฝ้าฯ รับเสด็จ 

จากนั้นทรงพระดำเนินเยี่ยมราษฎรที่มาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จอยู่เป็นจำนวนมาก  และทรงรับของที่ราษฎรตั้งใจนำมาทูลเกล้าทูลกระหม่อม  เช่น  ผ้าไหมลายพื้นเมือง  ผลิตภัณฑ์พื้นบ้านต่าง ๆ  ทรงมีพระราชปฏิสันถารกับราษฎรอย่างใกล้ชิดและทรงเป็นกันเอง  ซึ่งราษฎรต่างเปล่งเสียงถวายพระพร “ทรงพระเจริญ” พร้อมกับโบกธงชาติไทย ธงพระปรมาภิไธย และธงพระนามาภิไธยตลอดเส้นทางที่ทรงพระดำเนินผ่าน ขณะที่พสกนิกรบางคนได้ส่งเสียง ในหลวง สู้สู้ ด้วย 

โดยราษฎร์ทางภาคอีสานมีขนบประเพณีในการรับเสด็จคือการ นำผ้าไหมผ้าแพรมาปูรองพระบาทตอนเสด็จพระราชดำเนิน ชาวบ้านกล่าวว่า
“พอฮู้ว่าในหลวงสิเสด็จ คนอุบลฯ กะหาผ้าไหม บ้างกะหาผ้าแพร มายอน้อมยื่นถวย (ถวาย)”
แปล: พอรู้ว่าในหลวงจะเสด็จฯ คนอุบลฯ ก็หาผ้าไหม บ้างก็หาผ้าแพร มาทูลเกล้าถวาย
บ้างก็ปูรองเป็นลาดพระบาท แล้วนำผ้านั้นกลับไปบูชา เพราะถือเป็นศิริมงคลกับชีวิต

ในขณะเดียวกัน มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้เปิดเผยภาพหายาก ซึ่งเป็นภาพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 และพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่9 พระราชบิดา ทรงเสด็จพระราชดำเนิน จ.อุบลราชธานี ในปี 2518 และทรงฉลองพระองค์คล้ายกับครั้งปัจจุบัน  โดยครั้งนั้นพระองค์มีพระชนมายุเพียง 23 ปี สร้างความปลาบปลื้มปิติให้กับผู้พบเห็นเป็นอย่างมาก

แม้การเสด็จพระราชดำเนินทั้ง 2 ครั้ง จะห่างกันถึง 45 ปี แต่พสกนิกรชาวจังหวัดอุบลราชธานี ยังทราบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณไม่เสื่อมคลาย 

ขอบคุณภาพจาก: สำนักประชาสัมพันธ์เขต 2 กรมประชาสัมพันธ์
ผู้ใช้เฟซบุ๊ก: Motozilla Kasinadhi