รวยไม่เลิก! แจ็คหม่าขายหุ้นอาลีบาบา รับทรัพย์ 8.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ไม่กระทบบริษัทฯของขายดี มูลค่าตลาดยังพุ่ง

2044

“แจ็ค หม่า” ผู้ก่อตั้ง BABA: “อาลีบาบา กรุ๊ป”(Alibaba Group Holding Ltd) ยักษ์อีคอมเมิร์ซ 1 ใน 6 ของตลาดรีเทลเซลล์ของจีน ลดสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัทจาก 6.2% เป็น 4.8% คิดเป็นมูลค่า 8.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามราคาหุ้นในปัจจุบัน มูลค่าทางการตลาดของBABA คิดเป็น 705 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เกษียณแล้วมุ่งการกุศล

แจ็ค หม่าได้ประกาศลาออกจากตำแหน่งประธานกรรมการบริหารของบริษัทในเดือนกันยายน 2019 และยุติบทบาททางธุรกิจอย่างเป็นทางการ เพื่อหันไปทำงานด้านการกุศลเต็มตัว พร้อมกับการลดสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัทลงเหลือเพียง 6.2% ส่งผลให้ราคาหุ้นของบริษัทในขณะนั้นปรับตัวสูงขึ้นราว 50% แต่อาลีบาบาไม่ได้เปิดเผยราคาของหุ้นโดยเฉลี่ย ในส่วนที่แจ็ค หม่าขายไป

ทั้งนี้ ความเชื่อมั่นต่อราคาหุ้นของอาลีบาบายังคงแข็งแกร่ง จากคาดการณ์ผลกำไรของบริษัทที่ยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าเศรษฐกิจจีนจะชะลอตัวลงจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่ด้าน retail sales ผู้บริโภคก็ได้หันไปซื้อสินค้าและบริการทางออนไลน์ทดแทน ภาคธุรกิจใช้ระบบการค้าอี-คอมเมิร์ซมากขึ้น ส่งผลให้อาลีบาบาได้รับอานิสงส์ในสถานการณ์นี้ เช่นเดียวกับบริษัทไฮเทคโนโลยีทั้งหลาย

ช่วง 12 เดือนที่ผ่านมาทำยอดขายสินค้าทะลุ 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ดันกำไรสุทธิอาลีบาบาเพิ่มขึ้น 75% จากปีก่อนบนรายรับที่เพิ่มขึ้น 35% ฐานผู้ใช้ล่าสุดพุ่งขึ้นไปแตะ 700 ล้านคนซึ่งเทียบเท่าครึ่งหนึ่งของประชากรจีนทั้งประเทศ สถิติเหล่านี้ทำให้อาลีบาบายังมีความน่าเชื่อถือเต็มร้อย แม้ผู้ก่อตั้งอย่าง “แจ๊ค หม่า” จะเทขายหุ้นจนหุ้นในมือลดลงจาก 6.2% เหลือ 4.8% ก็ตาม

นอกจากนี้ “โจเซฟ ไซ” รองประธานกรรมการบริหารของอาลีบาบาก็ได้ลดสัดส่วนการถือหุ้นของบริษัทลงด้วย จาก 2.2% เป็น 1.6% โดยคิดเป็นมูลค่าราว 3,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยทั้งนายหม่าและนายไซลดบทบาทในบริษัทลง และส่งต่อให้ “ดาเนียล จาง” เป็นผู้สืบทอดตำแหน่งประธานกรรมการบริหารของอาลีบาบาในปีที่ผ่านมา

หลังลาออกจากตำแหน่ง ทั้งหม่าและไซได้หันมาดำเนินกิจกรรมการกุศลอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ต้นปี 2020 ทั้งสองคนได้บริจาคอุปกรณ์นิรภัยส่วนบุคคล (PPE) หลายล้านชิ้นผ่านหน่วยงานการกุศลส่วนบุคคล เพื่อบริจาคให้กับโรงพยาบาลทั่วโลก
ตามเอกสารที่ยื่นต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐอเมริกา (SEC) เมื่อเดือนเมษายน 2019 ระบุว่า แจ็ค หม่ามีแผนจะขายหุ้น 21 ล้านหุ้นภายในระยะเวลา 1 ปี เพื่อนำรายได้ดังกล่าวมาสนับสนุนการดำเนินงานด้านการกุศล

บริษัทข้ามชาติของญี่ปุ่น “SoftBank” คือผู้ถือหุ้นรายใหญ่ 24.9% มีแผนขายหุ้นบางส่วนซึ่งถืออยู่ประมาณ 1.25 หมื่นล้านเยน (11.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ)แต่ยังไม่่ได้แจงระยะเวลา

………………………………………………..
Cr:cnnbusiness,caixinglobal