จากเมื่อวันที่ 16 ต.ค. 2563 กลุ่มผู้ชุมนุมเริ่มทยอยเข้าร่วมการชุมนุมที่แยกปทุมวัน หลังจากที่คณะราษฎรได้แจ้งย้ายสถานที่ชุมนุมเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจปิดแยกราชประสงค์ เพื่อสกัดการชุมนุม
ทั้งนี้ ผู้ชุมนุมตะโกนเรียกให้กลุ่มผู้ชุมนุมที่ด้านบนสกายวอล์กให้มารวมกันที่บนถนน ผู้ชุมนุมบางส่วนเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวแกนนำคณะราษฎรที่ถูกจับกุม ขณะที่การจราจรเริ่มหนาแน่นไม่สามารถเคลื่อนตัวได้ ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ได้สลายการชุมนุมด้วยการฉีดน้ำใส่ผู้ชุมนุม และได้มีการจับกุมแกนนำรวม 12 คน
ต่อมา วันที่ 17 ต.ค. 2563 กลุ่มผู้ชุมนุมได้ออกมาประกาศยืนยันจุดหลักที่จะมีการชุมนุมคือ บริเวณห้าแยกลาดพร้าว อุดมสุข และ วงเวียนใหญ่ โดยนายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ ไมค์ หนึ่งในแกนนำ ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบเข้าจับกุม ข้อหาฝ่าฝืนข้อกำหนดฯ ตาม พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 นั้น
โดยมีรายงานว่า นายภาณุพงศ์ ได้ฝากข้อความถึงกลุ่มผู้ชุมนุมว่า “อย่าหวั่นไหวสิ่งใดที่เกิดขึ้น ทุกอย่างล้วนเป็นเกมของเผด็จการที่ต้องการขัดขวางกระบวนการประชาธิปไตย ขอจงสู้ต่อเราเดินมาไกลกว่าที่จะถอยหลังแล้ว
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ไมค์ ปากกล้าฝากจม.ถึงลูกก๊วน หลังโดนรวบ ปลุกปั่นอย่าลืมเป้าหมายของเราทุกคน
เกี่ยวกับเรื่องนี้ “กลุ่มคนรักษ์ระยอง” ได้ออกแถลงการณ์ระบุว่า จากที่มีบุคคลใช้ชื่อ “ไมค์ ระยอง” ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นทางการเมืองหลายต่อหลายครั้ง ซึ่งในบางครั้งใช้คำพูดคำจาที่ไม่เหมาะสมจาบจ้วง ล่วงเกินบุคคลทั้งที่เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ของบ้านของเมืองที่สร้างคุณประโยชน์ สร้างความสงบสุขให้กับพี่น้องปวงชนชาวไทยทั้งประเทศ แต่นาย “ไมค์ ระยอง” เป็นใครมาจากไหนไม่มีใครทราบแล้วอยู่ ๆ จะมาใช้คำต่อท้ายว่า “ระยอง” มาสร้างความเสียหาย ให้กับพี่น้องชาวระยองที่รักษ์สงบ ไม่เคยมีปัญหากับการเมืองทุกยุคทุกสมัย
พี่น้องชาวระยอง จึงขอแสดงความไม่เห็นด้วยกับการกระทำของนาย “ไมค์ ระยอง” ทุกกรณี ไม่ขอสนับสนุน ไม่มีส่วนร่วมในการกระทำต่าง ๆ และขอให้สื่อมวลชนทุกสำนัก กรณีที่จะออกสื่อขออย่าใส่คำต่อท้ายชื่อของนายไมค์ ว่าระยอง อีกต่อไป เพราะจะสร้างความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประชาชนชาวระยอง ที่รักสงบ