สุดยอด!! ไทยรับรางวัลชนะเลิศ UNPSA 2021 จากผลงานสกัดกั้นโควิด-19

1557

ข่าวดีอีกแล้วสำหรับประเทศไทย นายกรัฐมนตรีแสดงความยินดีที่กรมควบคุมโรคได้รับรางวัลWinner ระดับประเทศของ  UNPSA จากผลงานการสกัดกั้นโรคโควิด-19 พร้อมขอบคุณบุคลากรทางด้านสาธารณสุขที่ช่วยสร้างความมั่นคงปลอดภัยทางด้านสาธารณสุขให้คนไทย จนประสบความสำเร็จเป็นที่ยอมรับของโลก

วันที่ 14 ธ.ค.2564 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ชื่นชมที่กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้รับรางวัล United Nations Public Service Awards หรือ UNPSA ในหัวข้อเรื่อง “Intelligent Sustainable in Public Health Emergency System in Thailand” เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2564 ที่ผ่านมา จากผลงานการสกัดกั้นโรคไวรัสโคโรนา 2019 ถือว่ารางวัลดังกล่าวสะท้อนถึงมาตรการ และการทำงานที่สำคัญอย่างยิ่งของกระทรวงสาธารณสุข ตลอดจนการดำเนินนโยบายของรัฐบาลที่ตอบโต้ภาวะฉุกเฉินอย่างมีประสิทธิภาพของจนทำให้เป็นที่ยอมรับในระดับโลก

โฆษกรัฐบาลกล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพและสาธารณสุขของพี่น้องคนไทยมาโดยตลอด นายกรัฐมนตรีได้มอบนโยบายให้กระทรวงสาธารณสุขขับเคลื่อนการทำงานตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ซึ่งเป็นกลไกสำคัญของไทยในการขับเคลื่อนกฎหมายและดำเนินการสร้างความเข้มแข็งทางด้านสาธารณสุขและระบบป้องกันควบคุมโรคให้ประเทศไทย ส่งผลให้การดำเนินการด้านสาธารณสุขของไทยมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ในระดับโลกมาอย่างต่อเนื่อง

นายกรัฐมนตรีขอขอบคุณและให้กำลังใจบุคลากรทางด้านสาธารณสุขทุกคนที่มีส่วนสำคัญในการเสริมสร้างประสิทธิภาพทางด้านสาธารณสุขและระบบป้องกันควบคุมโรคให้ประเทศไทย รวมทั้งพร้อมพัฒนา ปรับเปลี่ยนแนวทางการดำเนินนโยบายตามสถานการณ์เพื่อให้รับมือกับสถานการณ์ได้อย่างดีที่สุด และจะนำบทเรียนจากความสำเร็จครั้งนี้ไปเป็นแบบอย่างให้แก่หน่วยงานอื่น ๆ ที่ดำเนินการด้านการให้บริการสาธารณะของไทยต่อไป เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนหน่วยงานภาครัฐพัฒนาคุณภาพการให้บริการประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. 2564ที่ผ่านมา  นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์  อธิบดีกรมควบคุมโรค มอบหมายให้นายแพทย์อภิชาต วชิรพันธ์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค เข้ารับรางวัล United Nations Public Service Awards หรือ UNPSA จากผลงานการสกัดกั้นโรคไวรัสโคโรนา 2019 ณ เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์  โดยมีนายอังตอนียโอ มานูแวล ดึ ออลีไวรา กูแตรึช (António Manuel de Oliveira Guterres) เลขาธิการสหประชาชาติ เป็นผู้มอบรางวัล ภายในงานยังมีผู้แทนจากกลุ่มภูมิภาคต่างๆ ได้แก่ แอฟริกา เอเชีย-แปซิฟิก ลาตินอเมริกา แคริบเบียน ยุโรป เข้าร่วมรับรางวัลด้วย

 

นพ.โอภาส กล่าวว่า กรมควบคุมโรค ได้รับรางวัล Winner ระดับประเทศ ในหัวข้อเรื่อง “Intelligent Sustainable in Public Health Emergency System in Thailand” โดยผลการประเมิน จะใช้เครื่องมือดัชนีความมั่นคงทางสุขภาพโลก (GHS Index) โดยมีตัวชี้วัด ได้แก่ การป้องกัน การตรวจจับ การตอบสนอง ระบบสุขภาพ มาตรฐาน และความเสี่ยง ซึ่งตัวชี้วัดที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับระบบนั้น

ทั้งนี้ ไทยได้รับการจัดอันดับให้เป็นประเทศที่มีความเข้มแข็งด้านความมั่นคงด้านสุขภาพเป็นอันดับที่ 5 จากทั้งหมด 195 ประเทศ อีกทั้งเป็นประเทศกำลังพัฒนาประเทศเดียวที่ถูกจัดอยู่ในอันดับ Top 10 ของโลก และที่ 1 ของเอเชีย ที่มีความพร้อมในการรับมือการระบาดของโรคมากที่สุด ซึ่งมีเพียง 13 ประเทศทั่วโลกเท่านั้น 

นพ.โอภาส กล่าวต่อไปว่า พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ. 2558 เป็นกลไกสำคัญของระบบป้องกันควบคุมโรคในประเทศไทยในการขับเคลื่อนกฎหมาย การดำเนินงานตอบโต้ภาวะฉุกเฉินอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นที่ยอมรับของทั่วโลก จนนำการถอดบทเรียนความสำเร็จของกรมควบคุมโรคสู่การเป็นสถาบันต้นแบบการดำเนินงานให้กับประเทศภูมิภาคต่างๆ เพื่อนำไปสู่เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่นยืน(SDGs:Sustainable Development Goals) สำหรับปัจจัยความสำเร็จของการรับมือกับภาวะฉุกเฉิน ประกอบด้วย

1.ความชัดเจนและถูกต้องของคำสั่งการ (Single command)  

2.ทรัพยากรที่เพียงพอด้วย พ.ร.บ.โรคติดต่อ เป็นโครงสร้างด้านความร่วมมือกันในทุกภาคส่วน และกระจายอำนาจความรับผิดชอบ  

3.การสื่อสารที่รวดเร็ว ถูกต้อง และเข้าถึงง่าย ทำให้ประชาชนมีความรู้ในการป้องกันตนเอง

4.ระบบปฏิบัติการที่มีความยืดหยุ่น มีการปฏิบัติงานที่เฉพาะตามบริบทของแต่ละพื้นที่ทั่วประเทศ                 

5.ความเชี่ยวชาญจากประสบการณ์ตรง การปรับหลักสูตรการเรียนรู้เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้ไปสู่คนรุ่นหลัง     

6.ความร่วมมือกันทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาค ประชาชน ซึ่งเป็นปัจจัยหลักในการรับมือกับภาวะฉุกเฉินด้านสุขภาพที่สำคัญที่สุด

 

สำหรับรางวัล United Nations Public Service Awards หรือ รางวัล UNPSA เป็นรางวัลเชิดชูเกียรติระดับชาติ ที่จะมอบให้กับประเทศที่มีงานบริการภาครัฐที่เป็นเลิศ ทั้งในระดับท้องถิ่น ภูมิภาคและระดับประเทศเพื่อสนับสนุนการสร้างนวัตกรรมในการบริการภาครัฐในระดับนานาชาติ

สอดคล้องกับวาระและเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนในปี ค.ศ. 2030 (The 2030 Agenda for Sustainable Development and Sustainable Development Goals (SDGs)) ก่อให้เกิดการเปลี่ยนผ่านงานบริการภาครัฐ และการส่งเสริมการบริหารภาครัฐที่มีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล เกิดความโปร่งใส มีการบริหารราชการที่ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลางเสมอภาคทั่วถึงและเท่าเทียม