จากกรณีที่สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเคียฟ ประเทศยูเครน ว่านายมิไคโล โพโดลยัก ที่ปรึกษาของประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน
และหนึ่งในสมาชิกคณะผู้แทนเจรจาระหว่างยูเครนกับรัสเซีย เรียกร้องการเจรจา “รอบพิเศษ” กับคณะผู้แทนของรัฐบาลมอสโก ที่เมืองมาริอูโปล ซึ่งเป็นเมืองท่าสำคัญทางตะวันออกเฉียงใต้ของยูเครน โดยยูเครนเสนอเจรจากับรัสเซีย สำหรับอพยพทหารและพลเรือนออกจากเมืองมาริอูโปล หลังจากคำขาดอยู่หรือตายของรัสเซียผ่านพ้นมาแล้วในวันพุธ (20 เม.ย.) ทำให้คนจำนวนมากยังติดอยู่ในโรงงานเหล็กแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นป้อมปราการหลักสุดท้ายของฝ่ายต้านทาน ในขณะที่ผู้นำทหารของพวกเขาออกมายอมรับว่าพวกนักรบอาจไม่สามารถยืนหยัดต่อสู้ได้นานกว่านี้อีกแล้ว
ล่าสุดนายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ ได้โพสต์เฟซบุ๊กถึงกรณีดังกล่าวด้วยว่า “ทำไมไม่ลุย ทหารรัสเซียทำไมถึงเล่นบทใจดี ไม่สั่งลุยหรือบดขยี้ต่อกำลังทหารยูเครนและอาซอฟที่ยังคงหลบซ่อนตัวอยู่ในโรงงานเหล็กในมาริอูโปล แต่ยอมขยายเวลาให้วางอาวุธและออกมามอบตัว รับประกันความปลอดภัย ทั้ง ๆ ที่ปิดล้อมไว้จนหมดและมีชาวบ้านได้รับการช่วยเหลือออกจากที่ซ่อนในห้องใต้ดินได้นับร้อยคน
ก่อนหน้านี้ ฝ่ายยูเครนพยายามหลายครั้งในการส่ง ฮ.มารับกำลังที่หลบอยู่ในมาริอูโปล คนขับฮ.ที่ถูกยิงตกยอมรับว่ามีคำสั่งให้มารับคนแต่ไม่รู้ว่าเป็นใครจากการตรวจค้นบางส่วนของห้องใต้ดินในโรงงานเหล็กที่เคลียร์แล้ว ทหารรัสเซียพบอาวุธ กระสุนและอุปกรณ์ทางทหารถูกทิ้งไว้เป็นจำนวนมาก แสดงว่า มีการหลบหนีอย่างฉุกละหุก จนไม่สามารถขนอาวุธกระสุนไปได้ นอกจากนี้ ฝ่ายรัสเซียเคยดักฟังการสนทนาของผู้บัญชาการทหารตะวันตกกับผู้บัญชาการกำลังที่มาริอูโปล ซึ่งยังไม่ทราบว่าเป็นใคร
จึงมีคำถามว่า การที่รัสเซียให้โอกาส ด้วยการปิดล้อมกดดัน ทิ้งใบปลิวให้มอบตัว อาจจะหวังได้ปลาตัวใหญ่ ตัวเป็น ๆ หรือเป็นห่วงความปลอดภัยของชาวบ้านที่ตกเป็นตัวประกัน ถึงยังไม่บดขยี้ให้สิ้นซาก”