ฝ่ายความมั่นคง ขอความร่วมมือ “งดประชุมกมธ.” ลุ้น มติแก้ไขรัฐธรรมนูญ จะไม่ดำเนินการได้ทันหรือไม่!?!

ฝ่ายความมั่นคง ขอความร่วมมือ ให้ฝ่ายนิติบัญญัติ งดการประชุมที่เกี่ยวข้องกับการเมืองไปก่อน ทำให้การลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น ไม่สามารถดำเนินการได้ทัน

จากกรณีที่เมื่อวานนี้ (14 ตุลาคม 2563) ได้มีการชุมนุมของกลุ่มคณะราษฎร ซึ่งได้มีการเคลื่อนกำลังไปบุกยึดทำเนียบรัฐบาล เพื่อเรียกร้องให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ท่ามกลางขบวนเสด็จของสมเด็จพระราชินี และ สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติฯ ได้ผ่านทางด้านแยกนางเลิ้ง ถนนพิษณุโลกนั้น ต่อมาทางด้าน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และพล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. แถลงว่า หลังนายกฯ มีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตกทม. นายกฯได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.เป็นผู้แก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน และมีคำสั่งแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นเจ้าพนักงาน เพื่อดำเนินการตามประกาศ สถานการณ์ฉุกเฉิน

ล่าสุด ทางด้านนายอัครเดช วงศ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการ(กมธ.) พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม ก่อนรับหลักการ เปิดเผยว่า ทางกมธ.ได้งดการประชุม 2 วัน คือ ในวันนี้ (15 ต.ค.) และวันพรุ่งนี้ (16 ต.ค.) เนื่องจาก ฝ่ายความมั่นคง ได้ขอความร่วมมือมา ให้ฝ่ายนิติบัญญัติ งดการประชุม กมธ. ที่เกี่ยวข้องกับการเมืองไปก่อน ดังนั้น กมธ.จะมีการประชุมกันต่อในสัปดาห์หน้า

หากเป็นเช่นนั้นจะทำให้ กมธ.ฯเหลือเวลาการประชุมเพียง3 นัดสุดท้าย  ซึ่งทางนายอัครเดชยังกล่าวว่า มั่นใจว่า กมธ.ฯ ยังสามารถพิจารณาได้ทันหากบ้านเมืองมีความสงบ โดยจะไม่ขอขยายระยะเวลาเพิ่ม ซึ่งกมธ.จะเพิ่มเวลาการประชุมในแต่ละวันเพื่อชดเชยการทำงานก็น่าจะเพียงพอ สำหรับ ข้อเรียกร้องที่ให้มีการเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญเพื่อลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น ไม่สามารถดำเนินการได้ทัน เพราะมีขั้นตอนของทั้ง ส.ส.หรือ ส.ว. ที่จะต้องลงชื่อกัน เพื่อเสนอต่อประธานรัฐสภา และยังมีขั้นตอนการทูลเกล้าฯพระราชกฤษฎีกาอีก ซึ่งต้องใช้เวลาดำเนินการ และตามกำหนด มีพระราชกฤษฎีกา เปิดประชุมสภาสมัยสามัญ ประจำปีครั้งที่ 2 ในวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้แล้ว จึงถือว่าใกล้ถึงเวลาประชุมสภาฯตามปกติแล้ว

อย่างไรก็ตาม ทางด้านนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.พรรคก้าวไกล ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีที่มีทหารกว่า 100 นาย ได้เข้าไปประจำการที่รัฐสภา ทั้งบริเวณด้านหน้าทางเข้า-ออก โดยระบุข้อความว่า

เช้านี้ (15 ต.ค.63) มีทหาร 100 กว่านาย ได้เข้าไปประจำการที่รัฐสภา ทั้งบริเวณด้านหน้าทางเข้า-ออก และเดินตรวจตราภายในลานจอดรถ โดยอ้างว่ามาเฝ้าระวังป้องกันรัฐสภา ทั้งๆที่ผู้ชุมนุมนัดหมายกันช่วงเย็นที่แยกราชประสงค์ ไม่ได้มีทีท่าว่าจะเคลื่อนย้ายมาแถวเกียกกายเลย

สถานการณ์เช่นนี้ คล้ายกับสถานการณ์ก่อนเกิดรัฐประหารปี 2557 ผมหวังว่าจะไม่มีคนคิดสั้นนะครับ

#ม็อป14ตุลา