จากกรณีที่ทางด้าน “วลาดิมีร์ ปูติน”ออกมาชี้ชัด ว่าการที่ชาติตะวันตกคว่ำบาตรมอสโก หลังรุกรานยูเครนว่า คล้ายกับการประกาศสงครามกับรัสเซีย ท่ามกลางผลกระทบด้านเศรษฐกิจรุนแรง แม้กระทั่งประเทศจีนก็ส่งสัญญาณว่า ไม่เห็นด้วยกับการคว่ำบาตรรัสเซีย เพราะเชื่อว่า ทั้ง 2 ประเทศ ยูเครนและรัสเซียจะเจรจากันลงตัว เพียงแต่ต้องรอเวลา
ขณะที่มีรายงานระบุด้วยว่า แบรนด์ดัง ทั้งเสื้อผ้า ของใช้ต่าง ๆ ประกาศจะไม่หยุดกิจการในรัสเซียเด็ดขาด เดินหน้าสวนกระแสไม่หลงกลตามสหรัฐฯ เพราะให้เหตุผลว่าในยามนี้ ประชาชนต้องการใช้สิ่งของ ข้าวของที่จำเป็นเช่นกัน และชาวรัสเซียมีสิทธิที่จะใช้ชีวิตเหมือนกับคนอื่น ๆ
ล่าสุดมีรายงานว่า The Independent ยืนยันว่าเครือซูเปอร์มาร์เก็ตในยูเครน 2 แห่งจะไม่จะวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของ Coca-Cola อีกต่อไป เนื่องจากบริษัทยังคงทำธุรกิจในรัสเซีย
ด้านโฆษกของบริษัท Coca-Cola Hellenic ผู้บรรจุขวดของ Coca-Cola ที่ควบคุมการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ไปยังรัสเซียและประเทศอื่น ๆ กล่าวกับ TASS สำนักข่าวรัสเซียว่าการผลิตและโลจิสติกส์ของบริษัทในรัสเซียจะยังคงดำเนินงานตามปกติ บริษัทให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของพนักงานในรัสเซีย ขณะที่บริษัท Coca-Cola เองกล่าวเมื่อสัปดาห์ก่อนว่าจะบริจาคเงิน 1 ล้านยูโร เพื่อสนับสนุนสภากาชาดยูเครน โรมาเนีย ฮังการี สโลวาเกีย และโปแลนด์
สำหรับ McDonalds และ Pepsi ยังไม่ได้ออกแถลงการณ์อะไร แต่บริษัททำรายได้ในรัสเซียคิดเป็น 9% และ 7% ของรายได้ทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกคนที่จะเห็นด้วยกับการที่บรรดาบริษัทต่างชาติระงับการให้บริการในรัสเซีย อย่างการระงับของ Netflix ส่งผลกระทบผู้ใช้งานร่วม 1 ล้านคน ขณะที่ยังมีอีกหลายบริษัท เช่น Microsoft, Apple, Spotify, Volkswagen, Dell, Ikea, H&M, Nike, Adidas, Disney และ Warner Bros. ที่ประกาศระงับดำเนินการในรัสเซีย
แม้ว่าจะมีผู้เห็นด้วยจำนวนมาก แต่อีกส่วนหนึ่งมองว่าวิธีนี้กระทบต่อพนักงานชาวรัสเซียซึ่งไม่ใช่ความผิดของพวกเขาเลยและหวังว่าบริษัทจะชดเชยให้แก่พนักงานเหล่านั้น คนที่ถูกลงโทษจะกลายเป็นชาวรัสเซียไม่ใช่รัฐบาล