“ทักษิณ” โม้อีก กลับพ.ศ.นี้แน่! เสี้ยมสภาส่งสัญญาณถึงนายกฯ ขณะคนไทยสวนรีบมาคดีรออยู่เพียบ!
จากกรณีที่เมื่อวานนี้ (1 มี.ค. 65) นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ หรือพี่โทนี่ วู้ดซัม กล่าวในรายการ CARE Talk x CARE ClubHouse ในหัวข้อ “ไทยแลนด์แสนวิกฤต โควิดยังไม่ซา เอาอีกแล้วหว่ารัสเซีย-ยูเครน” ตอนหนึ่งกรณีการเลือกตั้งประธานกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และพรรคการเมือง ที่นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข ชนะนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐไป 1 คะแนนว่า
กรณีนี้เป็นเวกอัพคอลสำหรับสภาฯ ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ส่วนการปรับคณะรัฐมนตรีจะช่วยให้การเมืองดีขึ้นหรือไม่นั้น พล.อ.ประยุทธ์ไม่ค่อยชอบปรับ ครม. สังเกตดูท่านไม่ค่อยชอบปรับ ไม่เหมือนผม ผมขยันปรับ ส่วนที่พูดกันเรื่อง 260 เสียง เห็น ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคเศรษฐกิจไทย บอก 260 เสียงคงไม่ได้ไปรวมพรรคเศรษฐกิจไทยนะ เพราะพรรคเศรษฐกิจไทยไม่เอาด้วย
โดยช่วงหนึ่งผู้ร่วมรายการสอบถามว่าเมื่อไหร่คุณโทนี่จะกลับมา พี่โทนี่ ตอบว่า พ.ศ. นี้แน่นอน
และในช่วงท้าย โทนี่ได้กล่าวแสดงความเสียใจของผู้ที่จากไป ทั้ง พิชัย รัตตกุล, เศรษฐา ศิระฉายา และ แตงโม นิดา
โดยระบุว่า คุณแตงโม ถึงแม้ว่าจะขึ้นเวที ว่าผมว่าคุณปู ตอนหลังขอโทษมาที่เข้าใจผิด และฟังความข้างเดียวไม่รู้ว่าเป็นแบบนี้ ตอนก่อนปีใหม่ ก็ยังส่งไลน์มาขอโทษคนของโอ๊ค ก็ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวด้วย เขาเข้าใจแล้วก็มีเหตุมีผล เรื่องนี้เป็นข่าวใหญ่ดังมาก ผมเชื่อ ผบ.ตร.คนนี้ คือ ปั๊ด สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข เป็นผู้เก่งเรื่องสืบสวนมาโดยตรง ผมขอให้ทำเรื่องนี้ให้กระจ่าง เพื่อจะได้ยุติความเห็นว่าคนนู้นพูดนั้นนี้ ที่กำลังสงสัยในการเสียชีวิตของแตงโม จะได้หยุดสงสัย และบ้านเมืองไปต่อได้ หาก ผบ.ตร.มาเล่นเอง น่าจะจบและชัดเจน
ในขณะที่วันนี้ เฟซบุ๊กแฟนเพจ CARE คิด เคลื่อน ไทย เผยแพร่ คำพูด นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หรือ โทนี่ วู้ดซัม กล่าวในรายการ CARE Talk x CARE ClubHouse ในหัวข้อ “ไทยแลนด์แสนวิกฤต โควิดยังไม่ซา เอาอีกแล้วหว่ารัสเซีย-ยูเครน” ตอนหนึ่งว่า ถึงไม่กล้าประณามก็ต้องยืนหยัดในหลักการกฎบัตรสหประชาชาติ
จากการวางเฉยของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศไทยต่อกรณีรัสเซียบุกยูเครน โดยอ้างว่า “ทำตัวเป็นกลาง” พี่โทนี่จึงให้ความเห็นว่า
ไทยต้องวางตัวให้เหมาะสมว่าจะเอายังไง ถึงแม้ว่าไม่กล้าประณาม แต่ก็ควรจะต้องยืนหยัดในหลักการกฎบัตรสหประชาชาติ การเจรจาทางการทูตควรดำเนินการต่อไป ไม่ใช่สงคราม เพราะเมื่อเกิดสงคราม ผลตามมาคือ ความสูญเสีย คนพลัดถิ่น ความยากจนลำบาก
