จีนนำวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่พัฒนาขึ้นเองออกแสดงเป็นครั้งแรก ในระหว่างงานแสดงสินค้าในกรุงปักกิ่งที่จัดขึ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมา(7-10 ก.ย.2563) มีทั้งของภาครัฐและเอกชนของจีน เป็นที่ฮือฮาทั้งโลก ข่าวดีนี้ส่งผลต่อบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้น และการฟื้นฟูธุรกิจท่องเที่ยวทั้งของจีนและประเทศเพื่อนบ้าน ขณะที่ททท.ประจำเซี่ยงไฮ้ส่งสัญญาณบวก โอกาสฟื้นตัวนักท่องเที่ยวทั่วโลกจะกลับมาเดินทางอีกครั้งหลังมีวัคซีนใช้
วัคซีนจีนทำสำเร็จแล้วใช้แล้วไม่มีผลข้างเคียงเตรียมแบ่งปัน-ขาย
วัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่นำออกเผยโฉมนี้ผลิตขึ้นโดยบริษัทของจีนสองแห่งคือ ชิโนแวค ไบโอเทคและชิโนฟาร์ม วัคซีนนี้ยังไม่ออกวางจำหน่าย แต่ผู้ผลิตคาดหวังว่า จะผ่านการรับรองให้สามารถใช้ได้หลังจากการทดสอบในระยะที่ 3 เสร็จสิ้น ซึ่งอย่างเร็วที่สุดคาดว่าจะเป็นปลายปีนี้
ตัวแทนของบริษัทชิโนแวค กล่าวว่า บริษัทสร้างโรงงานผลิตวัคซีนเรียบร้อยแล้ว ซึ่งสามารถผลิตวัคซีนได้ปีละ 300 ล้านโดส รายงานกล่าวว่า เมื่อวันจันทร์(7 ก.ย.) ประชาชนที่เข้าชมงานแสดงสินค้า พากันเข้าไปเยี่ยมชมบูธที่จัดแสดงวัคซีนกันอย่างแน่นขนัด วัคซีนที่จัดแสดงในจีนนี้เป็นหนึ่งในวัคซีนที่กำลังมีการพัฒนาอยู่เกือบ 10 ขนานทั่วโลก ที่เข้าสู่การทดสอบในระยะที่ 3 ซึ่งตามปกติแล้วจะเป็นระยะสุดท้ายก่อนที่จะมีการให้ความเห็นชอบให้สามารถใช้ได้ ในขณะที่ประเทศต่าง ๆ กำลังเร่งหยุดการระบาดและพลิกฟื้นเศรษฐกิจ
ในขณะเดียวกัน สำนักข่าวซินหัว ของทางการจีน รายงานวันนี้ว่า วัคซีนอีกขนานหนึ่งที่พัฒนาโดยนักวิทยาศาสตร์ของกองทัพจีน สามารถรับมือกับการกลายพันธุ์ในเชื้อไวรัสโคโรนาได้
บริษัทผลิตยาไชน่า เนชั่นแนล ไบโอเทค กรุ๊ป(CNBG)เปิดเผยว่าวัคซีนทดลอง 2 ชนิด ที่ฉีดให้คนหลายแสนภายใต้โครงการฉุกเฉินได้ผลดี และยังมั่นใจด้วยว่า จะสามารถคุ้มครองผู้ฉีดได้นานมากถึง 3 ปี
นายโจว ซ่ง เลขานุการของกรรมการตรวจสอบวินัยของบริษัทผลิตยาไชนา เนชั่นแนล ไบโอเทค กรุ๊ป ของรัฐบาลจีนชี้แจงว่า ชาวจีนหลายแสนคน ที่ได้รับวัคซีนทดลอง 2 ชนิด ที่บริษัทพัฒนาขึ้นเพื่อป้องกันโควิด-19 ภายใต้โครงการฉุกเฉิน ไม่มีใครติดเชื้อหรือแสดงอาการในเชิงลบอย่างเด่นชัดเลยแม้แต่คนเดียว อันเป็นหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่า วัคซีนของบริษัทได้ผล อีกทั้งวัคซีนทั้ง 2 ชนิด ยังมีแนวโน้มที่จะคุ้มครองคนที่ฉีดได้นานถึง 3 ปีอีกด้วย
วัคซีนทั้งสองชนิด ยังอยู่ระหว่างการทดลองเพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพในเฟสที่ 3 ในหลายประเทศ รวมทั้ง สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ บาห์เรน เปรู โมร็อกโก อาร์เจนตินาและจอร์แดน
โครงการฉีดวัคซีนฉุกเฉินของจีน เริ่มเมื่อปลายเดือน ก.ค. เพื่อให้กลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง รวมทั้งบุคลากรการแพทย์ นักการทูตและคนที่ทำงานในต่างประเทศได้เข้าถึงก่อน
โอกาสทองฟื้นอุตฯท่องเที่ยวใกล้เข้ามาถึง
นายเลิศชาย หวังตระกูลดี ผู้อำนวนการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ประจำสำนักงานเซี่ยงไฮ้ เปิดเผยข่าวดีของการผลิตและการทดสอบ วัคซีนของประเทศจีนทั้งของรัฐบาลจีนและบริษัทเอกชน สัปดาห์ที่ผ่านมา มีการเปิดเผยแสดงในงานเทรดโชว์ซึ่งมี 3 แบบ 2 บริษัท และได้ผ่านการรับรองจากองค์การอนามัยโลกแล้ว เน่องจากมีการทดสอบในประเทศที่มีผู้ติดเชื้อจำนวนมาก โดยไปทดสอบที่ตะวันออกกลางและอเมริกาใต้ และอัตรากำลังผลิตปีละ 300 ล้านโดส 2 บริษัทหมายถึงผลิตได้ปีละ 600 ล้านโดส ทั้งนี้ไดเนำไปฉีดแล้วสามารถป้องกันได้ 3 ปี ผู้จำเป็นเร่งด่วนและมีความเสี่ยงมีการฉีดแล้ว
การผลิตยืนยัน ปลายเดือนพฤศจิกายน ผลิตเพื่อจำหน่ายแน่นอน และในงานมีการสแกนคิวอาร์โคต มีประชาชนต่อคิวของรับการฉีดวัคซีนมากมาย
ดังนั้นโมเดลที่เราทำการป้องกันการระบาด ในการรับมือโควิด-19ในประเทศไทย อาจเปลี่ยนไปให้เหมาะสมกับสถานการณ์ใหม่ ถ้ามีผู้รับวัคซีนแล้วได้รับการยืนยันว่าปลอดภัยไม่เป็นผู้แพร่เชื้อแล้ว รูปแบบการท่องเที่ยวเดินทางน่าจะเปลี่ยนไปในทางที่ดี ธันวาคม 2563-มกราคม 2564 อาจมีผู้ฉีดวัคซีนมีภูมิคุ้มกันนับล้านคน ทำให้บรรยากาศแห่งความหวังของคนจีนและคนทั่วโลกในการเดินทางจะดีขึ้นอย่างมาก และชี้ว่า “โควิด-19 ที่ยืดเยื้อมานานอาจจบภายในปีนี้ ขอคนไทยสู้ๆ อีกไม่นานทุกอย่างจะกลับมาดีเหมือนเดิม”