สถานการณ์ล่าสุดของแนวรบในยุโรปตะวันออกที่อิงกับ วิกฤตยูเครน ทางรัสเซียออกมาประณามอังกฤษแสดงตนอย่างโจ่งแจ้งต่อต้านรัสเซีย ขณะที่ผู้นำอังกฤษแยกเขี้ยวคำรามใส่รัสเซีย ดันกฎหมายคว่ำบาตรเข้าสภา หนุนทำศึกกับรัสเซียเต็มกำลัง ตามวาระวอชิงตันอย่างโจ่งแจ้งหลังเข้าพบปธน.สหรัฐฯ
ก่อนหน้านี้อังกฤษได้ส่งหน่วยรบพิเศษเอสเอเอส (SAS) เข้ายูเครน การผลักดันกฎหมายใหม่ก็ร้อนรนผิดขั้นตอนปกติ ทำส.ส.ทั้งพรรคตัวเองและพรรคฝ่ายค้านตำหนิระงม นายกฯอังกฤษอ้างว่ามีความเร่งด่วนที่สุดก่อนที่รัสเซียจะบุกยูเครน
ในเวลาเดียวกันที่รมว.ต่างประเทศอังกฤษพบเจรจากับรมว.ต่างประเทศรัสเซียผลออกมาคือฝ่ายอังกฤษแถลงข่าวขู่คว่ำบาตรรัสเซียผิดวิสัยการทูตอย่างโจ๋งครึ่ม
ออกอาการทั้งสหรัฐและอังกฤษ ว่าต้องการผลักดันสงครามเพื่อปิดบังภาวะปัญหาภายในประเทศ เศรษฐกิจดิ่งเหวและยังหาทางแก้ไม่ตกหรือไม่? ขณะที่ผู้นำยุโรปทั้ง 3 ประเทศคือฝรั่งเศส เยอรมนีและโปแลนด์ ชูธงสันติภาพพยายามระงับศึกสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนที่อาจลุกลามเป็นสงครามโลก โดยมียุโรปเป็นสนามรบ
วันที่ 10 ก.พ.2565 สำนักข่าวรัสเซียทูเดย์และสปุ๊ตนิก รายงานว่า เซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียตอบโต้ต่อการเคลื่อนไหวของสหรัฐฯและอังกฤษว่า การเจรจากับรมว.ต่างประเทศอังกฤษเหมือนไม่รับฟังฝั่งรัสเซีย เรียกร้องความต้องการให้รัสเซียทำตามวอชิงตันและลอนดอนฝ่ายเดียว
ลาฟรอฟกล่าวว่า”ดูที่แถลงการณ์สาธารณะของเรา ไม่ใช่ภัยคุกคามแม้แต่ครั้งเดียว รัสเซียต่างหากถูกข่มขู่คุกคาม รวมถึงคำปราศรัยล่าสุดของรัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ ลิซ ทรัซซ์ด้วย “
หลังจากการพบกันของสองรัฐมนตรีรัสเซียและอังกฤษ ทรัซซ์ ได้ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับการคว่ำบาตรโดยเรียกร้องให้รัสเซีย ลดระดับความรุนแรงโดยถอนทหารจากชายแดนติดยูเครน และเลือกเส้นทางของการทูต พร้อมเตือนว่าหากรัสเซีย ยังคงมีการรุกรานต่อยูเครนสหราชอาณาจักรและ พันธมิตรจะไม่ลังเลที่จะดำเนินการคว่ำบาตรอย่างเด็ดขาด คำพูดเดียวกันกับสหรัฐเปี๊ยบ?
ทรัซซ์ กล่าวว่า“ ขณะนี้ สหราชอาณาจักรสามารถคว่ำบาตรไม่เพียงแต่ผู้ที่เชื่อมโยงโดยตรงกับความไม่มั่นคงของยูเครนเท่านั้น แต่ยังรวมถึงหน่วยงานในเครือของรัฐบาลรัสเซียและธุรกิจที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจและเชิงกลยุทธ์ต่อรัฐบาลรัสเซีย เช่นเดียวกับเจ้าของ กรรมการ และผู้ดูแล ผลประโยชน์ของพวกเขาด้วย”
รัฐบาลอังกฤษเปิดเผยเอกสารการคว่ำบาตรในวันเดียวกับที่รัฐมนตรีต่างประเทศ ลิซ ทรัซซ์ (Liz Truss) เยือนมอสโกว์ ข้อเท็จจริงนี้ดูเหมือนจะสนับสนุนคำพูดของเซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียว่าการพบปะกันของรัสเซียและอังกฤษเป็นแบบคนหูหนวกพูดกับคนใบ้ เหตุเพราะมีธงมาล่วงหน้าอยู่แล้วนั่นเองว่า อย่างไรก็คว่ำบาตรรัสเซีย
การประกาศกฎหมายคว่ำบาตรรัสเซียใช้ระยะเวลาในการพิจารณาเร่งด่วน จนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอังกฤษไม่พอใจ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาเป็นวันทำการสุดท้ายของรัฐสภาก่อนปิดช่วงพัก ซึ่งหมายความว่า ส.ส. จะไม่มีเวลาพิจารณากฎหมายใหม่เลย แต่ต้องยกมือให้ผ่าน
สิ่งนี้กระตุ้นให้ส.ส.เดวิด แลมมี (David Lammy) กรรมาธิการด้านต่างประเทศและพัฒนาฝ่ายรัฐบาลกล่าวว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร “ สมควรได้รับโอกาสในการพิจารณามาตรการคว่ำบาตร ” ในขณะที่ ส.ส.คริส ไลแอนต์(Chris Bryant) สังกัดพรรคแรงงาน ซึ่งเป็นฝ่ายค้าน วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลเกี่ยวกับการกระทำที่ “ เผด็จการโดยสิ้นเชิง ” ตอบโต้อย่างคับข้องใจ “แต่ฝั่งรัฐบาลชี้แจงในสภาฯว่ารัฐบาลจำเป็นต้องดำเนินการอย่างรวดเร็วเพื่อให้สามารถ “ยับยั้งการรุกรานของรัสเซียได้”
ขณะเดียวกันเกนนาดี กาติลอฟ เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำสำนักงานสหประชาชาติ ณ กรุงเจนีวา ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวอาร์ไอเอ โนวอสติ (RIA Novosti) เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา กล่าวถึงปัญหาระหว่างมอสโกว์ วอชิงตัน และพันธมิตรอีกหลายประเทศในยุโรปว่า “ความกังวลอย่างร้ายแรงของรัสเซียคือ สหรัฐฯ และพันธมิตรกำลังทำให้สถานการณ์รุนแรงขึ้นจนถึงจุดที่เกมเดิมพันอาจกลายเป็นโศกนาฏกรรมที่แท้จริง”เขาเตือนว่า “ผู้ก่อเหตุกระตุ้นสงครามจะเป็นผู้กำหนดเกมอันตรายนี้ให้กับรัสเซียและชุมชนนานาชาติในภูมิภาคยุโรป”
นักการฑูตกล่าวเสริมว่า วิธีการแบบเบ็ดเสร็จหรือทั้งหมดเป็นที่รู้จักกันดีในด้านการเจรจาต่อรอง และ“มีการใช้หลายครั้งในประวัติศาสตร์ของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เขาหวังว่าวอชิงตันและพันธมิตรบางรายอาจไม่พร้อมที่จะต่อสู้กับรัสเซียในเวลานี้
ประกาศแบ่งฝ่ายแบบไม่คบกันอีกอย่างชัดถ้อยชัดคำอย่างนี้ สะท้อนภาพความจริงอย่างชัดเจนว่า สหรัฐและอังกฤษเป็นฝ่ายเอาการเอางานที่ต้องการสงคราม ไม่ได้ต้องการสันติภาพจริง การให้สัมภาษณ์ว่าต้องการให้แก้ปัญหาด้วยการทูตการเจรจาจึงเป็นเรื่องหลอกลวงสร้างภาพ
คงต้องติดตามกันต่อไปว่ารัสเซียจะรับมือกับเล่ห์กลนี้อย่างไร แต่ที่แน่ๆทั้งสองฝ่ายต่างเคลื่อนกำลังทหารและประจำการอาวุธทำลายล้างสูงในสมรภูมิประจันหน้าทั้งที่เปิดเผยและทางลับอย่างต่อเนื่อง??