หลังจากที่นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความประจำศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ออกมาเปิดเผยว่า ทางทีมทนายความได้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน และนายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ ไมค์ ในทุกคดีที่อยู่ในศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ซึ่งเป็นคดี 112 เเละคดีการชุมนุม โดยคำร้องประกันตัวนายจตุภัทร์ ยื่นไปว่า เนื่องจากบิดา-มารดา ของนายจตุภัทร์ ประสบอุบัติเหตุได้รับบาดเจ็บมารดาขาหัก จึงขอปล่อยชั่วคราวเพื่อไปดูบุพการี โดยศาลพิจารณาเเล้วอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว โดยกําหนดเงื่อนไขห้ามจําเลยทํากิจกรรมหรือกระทําการใด ๆ อาจกระทบต่อสถาบันพระมหากษัตริย์และ ศาลในทุกด้าน
รวมทั้งห้ามกระทําการใด ๆ อันเป็นการขัดขวางกระบวนพิจารณาคดีของศาล ห้ามจําเลย เข้าร่วมชุมนุมที่อาจก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง ห้ามจำเลยเดินทางออกนอก ราชอาณาจักรจนกว่าศาลจะมีคําสั่งเป็นอย่างอื่น ห้ามจําเลย ออกนอกเคหสถานในช่วงเวลา 18.00-06.00 น. ของวันรุ่งขึ้น โดยให้ติดอุปกรณ์ติดตามตัวอิเล็กทรอนิกส์ ให้ตั้งผู้กำกับ ดูแลจำเลย ตามที่จำเลยเสนอ เพื่อเป็นผู้กำกับดูแลให้จำเลย ปฏิบัติตามคำสั่งศาลโดยเคร่งครัด ให้จําเลย มารายงานตัวต่อศาลทุก 30 วัน ในระหว่างการปล่อยชั่วคราว และให้นายประกันพาจําเลย มาส่งตัวต่อศาลภายในวันที่ 9 มิ.ย. 2565
นายกฤษฎางค์ กล่าว่า อย่างไรก็ตามภายในวันนี้ ทั้งสองคนยังไม่ได้ปล่อยเนื่องจากนายจตุภัทร์ยังมีหมายขังคดีการชุมนุมที่ศาลจังหวัดภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ และศาลอาญากรุงเทพใต้ ทำให้ต้องลุ้นว่าจะได้รับการประกันตัวในวันที่ 10 ก.พ. 65 หรือไม่
ทั้งนี้ย้อนไปเมื่อเดือนธ.ค. 2564 ในทวิตเตอร์ของธิษะณา ชุณหะวัณ ว่าที่ผู้สมัครส.ส.ก้าวไกล ได้ทวีตข้อความ ระบุว่า “เมื่อวันก่อนเราพบคุณพ่อของไผ่จตุภัทร ที่ม็อบจะนะ สิ่งที่แกพูดกับเราคือ “มีคนบอกผมว่าผมเลี้ยงลูกอย่างไร ให้ติดคุก” และน้ำตาแกไหลออกมา แล้วเราทราบจากแม่เจี๊ยบว่าพ่อของไผ่เป็นมะเร็งขั้นที่สี่มาสักพักแล้ว เราได้ยินแล้วน้ำตาไหล คิดถึงพ่อตัวเองขอให้รัฐไทยและศาลเมตตา #ปล่อยเพื่อนเรา ด้วย”อย่างน้อยให้เขาได้ใช้เวลากับพ่อเขาด้วยเถิด เห็นอกเห็นใจคนอื่นบ้าง ในประเทศอื่นเขาคนออกมาประท้วงนโยบายรัฐไม่มีใครโดนจับติดคุกถ้าไม่ใช่รัฐเผด็จการบ้าอำนาจ
โดยครั้งนั้นว่าที่ผู้สมัครส.ส.ก้าวไกล ได้อ้างว่า ศาลขอปล่อยตัวไผ่ ให้เขาได้ออกมาดูแลพ่อ ได้ใกล้ชิดกันในช่วงระยะสุดท้าย แม้ว่าไผ่ จะเคยยืนกรานว่า จะไม่ขอประกันตัวอีกระหว่างที่สู้คดี เนื่องจากทนายเคยยื่นหลายครั้งแล้วศาลไม่อนุมัติ
นอกจากนี้ยังทำให้สังคมจับตามองเรื่องอาการป่วยของพ่อไผ่ ที่ไม่ถูกพูดถึงด้วยซ้ำ แต่อ้างว่าเนื่องจากบิดา-มารดา ของนายจตุภัทร์ ประสบอุบัติเหตุได้รับบาดเจ็บมารดาขาหัก จึงขอปล่อยชั่วคราวเพื่อไปดูบุพการี ทำให้หลายคนตั้งข้อสังเกตว่า หรือที่มีกระแสว่าพ่อไผ่ป่วยมะเร็งนั้น อาจจะไม่ใช่เรื่องจริง เพราะประเด็นนี้ไม่ถูกนำมากล่าวถึง และเรื่องใหญ่ขนาดนี้ปกติทางแนวร่วม 3 นิ้วจะต้องยิ่งโหมข่าว พร้อมทั้งจับตามองว่า การได้ปล่อยตัวชั่วคราวครั้งนี้ อาจจะทำให้บรรดาแกนนำกลับมาชุมนุมใหญ่อีกครั้ง ประชาชนหลาย ๆ คนเริ่มรู้สึกไม่สบายใจ ว่าหากออกมาแล้วไม่ก่อเรื่องป่วนก็เข้าใจได้ แต่กลัวจะออกมาชุมนุมอีก เพราะก่อนหน้านี้ “แอมมี่” ได้รับการถอดกำไล EM ยังบอกว่าตนเองนั้นพร้อมจะขึ้นเวทีชุมนุม
