หลังจาก เมื่อวันที่ 25 ม.ค. 2565 ที่มีนักวิชาการ และคนดัง ได้ออกมาเคลื่อนไหว โพสต์ถึงเรื่องราวของนายบุญเกื้อ ปุสสเทโว ทีมโฆษกพรรคไทยภักดี เมื่อทราบว่าได้ป่วยหนัก และนายบุญเกื้อได้ขออโหสิกรรมต่อทุกคนเนื่องจากคาดว่าตนเองจะอยู่ได้อีกไม่ถึง 10 วันนั้น
ต่อมาในทวิตเตอร์ของนางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล หรือ เจี๊ยบ ก้าวไกล ได้ทวีตข้อความถึงเรื่องของนายบุญเกื้อ ไว้ว่า ตอนมีชีวิตคุณบุญเกื้อสร้างมลพิษทางสังคมไว้มากมายไม่ทันได้แก้ไขไถ่บาปก่อนตาย 2 เดือนก่อน (8 /11/64) ดิฉันเป็นคนหนึ่งที่ถูกโพสต์ระรานไร้รสนิยม สารภาพว่าไม่รู้สึกอินกับคำขออโหสิกรรมในโอกาสลาตาย ไม่สมาทานวัฒนธรรมทำผิดแล้วลอยนวล ก็ทำให้มีทั้งกองหนุนที่เข้ามาคอมเม้นต์ว่าไม่ต้องอโหสิกรรมให้ และยังเชื่อว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องจริง เป็นเพียงการสร้างกระแส
ขณะที่เมื่อวันที่ 5 ก.พ. 2565 นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล หรือ เจี๊ยบ ก้าวไกล ก็ได้ทวีตข้อความอีกว่า ครบ 10 วันแล้ว เขาตายหรือยัง? แต่ปรากฎว่าข้อความดังกล่าวกลับถูกลบออกไปแล้ว ทำให้ทางด้านนายบดีศร ปุสสเทโว ลูกชายนายบุญเกื้อ ปุสสเทโว โฆษกไทยภักดี ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “บุญเกื้อ ปุสสเทโว” ระบุว่า เห็นท่านส.ส.เจี๊ยบ ประกาศชัดเจนว่า”ไม่อิน กับการขอขมาลาตายของคุณพ่อต่อทุกคน” แต่ทำไมผมก็ยังเห็นท่านเอาเวลาอันมีค่ามาโพสต์เรื่องนี้ไม่หยุดหย่อน จนเหมือนท่านจะ”อิน”กับเรื่องนี้มากกว่าใครในประเทศนี้
การที่พ่อแจ้งข่าวว่าคงจะอยู่ได้ไม่เกิน10วันนั้นเป็นการคาดคะเนจากอาการของท่านเองซึ่งก็อาจคลาดเคลื่อนไปบ้าง แต่ผิดพลาดก็คงไม่กี่วัน ขอให้ท่านส.ส.ใจเย็น ๆ อย่าอินกับเรื่องนี้ให้มากแล้วเอาเวลาอันมีค่าไปเข้าประชุมสภา ทำงานให้คุ้มกับเงินเดือน คุ้มกับภาษีของประชาชนดีกว่าครับ
อย่างไรก็ตามได้มีคอมเม้นต์จากโซเชียล วิพากษ์วิจารณ์ไปยังคำพูดดังกล่าวของเจี๊ยบ ก้าวไกลว่า ทำไมถึงได้คิดแบบนี้ ต้องเป็นคนจิตใจยังไง แบบนี้เข้าข่ายแช่งหรือเปล่า ระวังเวรกรรมไว้บ้างก็ดีนะ พร้อมทั้งส่งกำลังใจให้กับครอบครัวของนายบุญเกื้อ สำหรับอาการล่าสุดของนายบุญเกื้อนั้น ลูกชายได้ระบุไว้ว่า แจ้งข่าว ตามที่มีข่าวว่านายบุญเกื้อ ปุสสเทโวเสียชีวิตแล้วนั้น ไม่เป็นความจริง แม้พ่อจะมีอาการอ่อนแรงลงเรื่อยๆแต่ยังมิได้เสียชีวิต …คุณพ่อสั่งว่าถ้าพ่อเสียชีวิต ให้ผมเป็นคนโพสต์ลงเฟซนี้เอง …กราบขอบพระคุณทุกกำลังใจที่ส่งให้พ่อ
