วัฒนาแฉลึก!ฝ่ายค้านเล่นเกม หวังดึงก๊วนธรรมนัสร่วมล้มรบ.?งานนี้มีคนถูกต้ม!?

1711

จากกรณีสภาล่มโดยพบว่าแสดงตนเป็นองค์ประชุมสภาฯ ที่มีส.ส.แสดงตน จำนวน 195 คน ทำให้ไม่ครบองค์ประชุมจำนวน 237 คน ทำให้เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในสังคมเป็นจำนวนมาก รวมทั้งจากนักการเมืองเองด้วย

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในส่วน พรรคเพื่อไทย แสดงตนเพียงแค่ 2 คน คือ นายจาตุรงค์ เพ็งนรพัฒน์ ส.ส.ศรีสะเกษ และนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. ไม่แสดงตน 129 คน ซึ่งที่น่าสังเกตคือ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ ก็ไม่แสดงแสดงตนด้วยเช่นกัน

ต่อมานายพงศ์พล ยังกล่าวว่า เงินเดือน ส.ส. กับทีมงาน 8 ตำแหน่ง อยู่ที่ 242,560 บาทต่อเดือน คิดวันละ 8,085 บาท ส.ส.ทั้งหมด 473 คน เท่ากับวันละ 3.82 ล้านบาท ค่าสถานที่รัฐสภา ประมาณวันละ 360,000 บาท รวมค่าใช้จ่าย 4,180,000 บาท ซึ่ง สภาล่มมาแล้วทั้งหมด 14 ครั้ง เท่ากับงบประมาณ 58.5 ล้านบาท

นอกจากนี้ นายพงศ์พล ยังเสนอให้มีบทลงโทษ เช่น 1.ตั้งกรรมการสอบสวน โดนคาดโทษให้ใบเหลือง 2.หมดสิทธิ์อภิปราย – โหวตลงมติ 3.ถูกหักเบี้ยประชุม – เงินประจำตำแหน่ง หรือ 4.หมดสิทธิ์ลงสมัครเลือกตั้ง เมื่อขาดประชุมซ้ำซาก ทุกองค์ประชุม

“ขอเชิญชวนประชาชนที่เห็นด้วยกับมาตราการตรวจสอบ ส.ส. ร่วมลงชื่อที่แบบฟอร์มออนไลน์ผ่าน Change.org ได้ทางลิ้งค์ https://chng.it/cXQwCrc2mG เพื่อยื่นเป็นจดหมายเปิดผนึกต่อประธานสภาผู้แทนราษฎรในลำดับถัดไป” นายพงศ์พล กล่าว

ล่าสุดวันนี้ 05 กุมภาพันธ์ 2565 นายวัฒนา เมืองสุข สมาชิกพรรคไทยสร้างไทย และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อกรณีสภาล่มลงในทวิตเตอร์ด้วยว่า

(1/2) ในระบอบรัฐสภา องค์ประชุมเป็นความรับผิดชอบร่วมกัน เพราะประชาชนเลือกพวกคุณ (มึง) มาเป็นผู้แทนเพื่อทำหน้าที่ในสภา การประชุมจึงเป็นงานในหน้าที่ การเล่นเกมเพื่อล่มการประชุมคนที่เสียหายคือ ประชาชน เพราะงานในสภามีเรื่องที่เป็นผลประโยชน์ของประชาชนด้วย ไม่ได้มีแค่เรื่องของรัฐบาล

(2/2) ส่วนการนับองค์ประชุม หรือการวอร์คเอ๊าท์ นั้น ฝ่ายค้านจะใช้เป็นเครื่องมือแสดงความไม่เห็นด้วยที่ฝ่ายรัฐบาลใช้เสียงข้างมากทำให้ ประชาชน เสียหาย เช่น เลื่อนญัตติมากลบเรื่องที่ฝ่ายค้านจะตรวจสอบรัฐบาล เป็นต้น แต่ไม่ใช่การป่วนเพื่อล่มการประชุมโดยไม่มีสาเหตุหรือล่มเพื่อประโยชน์ของตัว

ก่อนหน้านี้นายวัฒนา ได้โพสตืข้อความลงในทวิตเตอร์ เกี่ยวกับการขับกลุ่มส.ส.และการทำหน้าที่ของฝ่ายค้าน ซึ่งดูเหมือนจะต้องการให้กลุ่มส.ส.ดังกล่าวเข้ามาว่า

“ฝ่ายค้านหวังให้ ส.ส. กลุ่มที่เพิ่งออกจาก พปชร. มารวมกับตัวเพื่อล้มรัฐบาล ส่วนกลุ่มที่ถูกขับก็ยืมมือฝ่ายค้านกดดันรัฐบาลเพื่อให้กลุ่มตัวได้เข้าร่วมรัฐบาลและได้ตำแหน่งดีๆ แต่ที่แน่ๆ คือยิ่งฝ่ายค้านเขย่ารัฐบาลมากเท่าไร ก็ยิ่งดีกลุ่มที่ออกจาก พปชร. มากเท่านั้น แบบนี้เลยไม่รู้ว่าใครต้มใคร”

ขณะที่เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2565 นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทยและผู้นำฝ่ายค้าน เปิดเผยถึงเหตุการณ์สภาล่มเนื่องจากองค์ประชุมไม่ครบ ในวันที่ 19 มกราคม เป็นวันแรกที่เปิดประชุมสภาปี2565 ว่า การล่มครั้งนี้ของที่ประชุมสภาฯไม่เกี่ยวข้องกับฝ่ายค้าน เป็นผลมาจากพรรคร่วมรัฐบาลกันเอง ซึ่งตนเองก็ไม่ทราบในรายละเอียดว่าเพราะเหตุใด ส.ส. รัฐบาลจึงขอนับองค์ประชุมสุดท้ายองค์ประชุมไม่ครบและทำให้สภาล่ม

“ฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลก็ได้ทำข้อตกลงกันไว้แล้วว่าวันที่19 ม.ค.จะช่วยกันทำหน้าที่เพื่อผ่านกฎหมายที่สำคัญ และวันที่20ม.ค.ฝ่ายรัฐบาลจะเปิดโอกาสให้ฝ่ายค้านเสนอญัตติด่วนด้วยวาจาเรื่องของแพงทั้งแผ่นดิน แต่กลับมีเหตุการณ์นับองค์จากฝ่ายรัฐบาลด้วยกัน ทำให้ตนเองก็งงและสงสัย กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและมองว่าอาจจะมีประเด็นภายใน”

ทั้งนี้ การที่สภาล่มตั้งแต่วันแรก ที่เปิดประชุมในปี 2565 ตนมองว่าเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าเสถียรภาพของรัฐบาล ชุดนี้เพราะว่าการร่วมครั้งนี้เกิดจากฝั่งรัฐบาลที่ขอรับองค์ประชุมกันเองและก็ไม่อยู่ในที่ประชุมกันเอง จึงเป็นเหตุให้สภาล่มได้ ด้านฝ่ายค้านก็ไม่ได้ห้ามสมาชิกในการกดเป็นองค์ประชุมให้ ดังนั้นจึงสะท้อนว่าเสถียรภาพหรือการทำงานร่วมกันของส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลน่าจะมีปัญหา