ธนาธรพวกเข้ารับทราบข้อหาม.116 บอกถ้านายกฯไม่ลาออกก็ไม่มีทางหาทางออกได้

2598

จากที่วันนี้(5พ.ย.63) “ธนาธร ช่อ ปิยบุตร” ออกมาเปิดเผยหลังพบตร.พญาไท ถูกอดีตพระพุทธะอิสระ นำข้อมูลเก่า10ปี แจ้งข้อหาผิดมาตรา 116​  ระบุหากนายกรัฐมนตรี ไม่ลาออกการเมืองไทย จะหาทางออกไม่ได้

ทั้งนี้นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า, นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า และ น.ส.พรรณิการ์ วานิช กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า เปิดเผยหลังเข้าพบพนักงานสอบสวน สน.พญาไท ตามหมายเรียกในความผิดมาตรา 116 ที่นายสุวิทย์ ทองประเสริฐ หรืออดีต พระพุทธอิสระ​ เป็นผู้กล่าวหา

ขณะที่นายปิยบุตร​ เปิดเผยด้วยว่า สาเหตุที่ตนเองถูกดำเนินคดีเนื่องจากนายสุวิทย์​ อ้างถึง การกระทำหลายอย่าง ที่มองว่าเข้าข่ายม.116 ตั้งแต่บทความเก่า หนังสือ​และการบรรยายในห้องเรียน สมัยที่ตนเองยังเป็นอาจารย์​ในม.ธรรมศาสตร์​ และการไลฟ์เฟซบุ๊กว่าด้วยเรื่องการนำข้อเรียกร้อง 3 ข้อของผู้ชุมนุม มาพูดคุยในคณะกรรมปรองดองสมานฉันท์

“ส่วนของนายธนาธร และน.ส.พรรณิการ์ ก็อ้างอิงถึงการบรรยายเรื่องงบประมาณของพระมหากษัตริย์​มาใช้ในการดำเนิน​คดี​ ซึ่งตนเองมองว่า ข้อเท็จจริง​ทั้งหมดเป็นเรื่องเก่านานกว่า10ปี แต่ถูกนำมาโยงเข้ากับเหตุการณ์​ในปัจจุบั​น อีกทั้งเป็นการอภิปราย​ด้วยความปรารถนา​ดี เพื่อหาทางออกแต่กลับถูกมองว่าเป็นความผิดในสายของนายสุวิทย์ทั้งหมด และยังไม่เป็นคุณต่อสถาบันพระมหากษัตริย์​ด้วย เพราะต้องนำเรื่องนี้ไปต่อสู้ในชั้นศาล

นอกจากนี้ยังได้สอบถาม ผบช.น.ว่าเคยรวบรวมสถิติการดำเนินคดีตามม.116 หรือไม่ ว่า ศาลยกฟ้องหรือยกคำร้องไปกี่คดี ซึ่งบางคดีที่ไม่เข้าองค์ประกอบความผิดก็ไม่จำเป็นต้องดำเนินเรื่องก็ได้ แต่การกระทำใน ปัจจุบันนี้​เป็นการใช้กฎหมายม.116 ในการจำกัดสิทธิเสรีภาพ​ของประชาชน

ทั้งนี้ส่วนตัวเห็นว่าการหาทางออกให้กับสถานการณ์​การเมืองของไทย จำเป็นต้องนำข้อเสนอทั้ง3ข้อ มาพูดคุยในคณะกรรมการปรองดองสมานฉันท์​ ซึ่งเป็นเวทีปลอดภัย​”

ด้านนายธนาธร กล่าวด้วยว่า สิ่งสำคัญที่สุดนายกรัฐมนตรี​ต้องลาออกจากตำแหน่งและหยุดดำเนินคดีกับผู้ที่เห็นต่าง เพราะปฏิเสธ​ไม่ได้ว่านายกรัฐมนตรี​เป็นเงื่อนไข​สำคัญ​ในการหาทางออก หากไม่ลาออกก็จะไม่มีทางหาทางออกได้

นอกจากนี้ ​น.ส.พรรณิการ์ ได้ฝากถึงนายกรัฐมนตรี​ว่า อาวุธ​ที่รัฐบาลใช้มาตลอดคือการดำเนินกับผู้​เห็น​ต่าง แต่ปัจจุบัน​อาวุธ​นี้เปรียบเทียบ​กระสุน​ด้าน เพราะการถูกดำเนินคดี ไม่ได้ทำให้พวกเราหยุด แต่กลับยิ่งทำให้ได้รับแรงสนับสนุน​และความเห็นใจจากประชาชน แลกกับการเสียเวลาในการทำงานเท่านั้น​ซึ่งพวกเราจะพิสูจน์​ให้เห็นว่าจะสามารถเอาชนะอิทธิพล​เถื่อนได้ทั้งในระดับจังหวัดและระดับชาติ

ที่มา : ภาพTNEWS