สื่อนอกตีข่าวกระหึ่มโลก! “พล.อ.ประยุทธ์” เยือน ซาอุฯในรอบ 32ปี จัดขบวนเกียรติยศ ต้อนรับนายกไทยยิ่งใหญ่!
จากกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม พร้อมคณะ อาทิ นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ต่างประเทศ นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน และนายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน เดินทางด้วยเที่ยวบินพิเศษจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง (บน.6) เพื่อเยือนซาอุดีอาระเบียอย่างเป็นทางการในวันที่ 25-26 ม.ค.2565
ทั้งนี้ ก่อนการเดินทาง พล.อ.ประยุทธ์ เปิดเผยว่า การเดินทางเยือนครั้งนี้มีโอกาสดีในการฟื้นความสัมพันธ์ ก็ต้องดีกว่า 32 ปีที่ผ่านมา ซึ่งได้รับเกียรติในการที่ได้รับเชิญไปหารือ ฟื้นความสัมพันธ์เก่าๆ ก็ต้องดีขึ้น ส่วนจะมีโอกาสที่แรงงานจะได้กลับไปทำงานที่ซาอุฯ หรือไม่
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็ทุกเรื่องจะได้มีการพูดคุยหารือ ซึ่งต้องเริ่มต้นกันก่อนและต้องมีการตั้งคณะทำงานขึ้นมา เพื่อศึกหารือร่วมกันเกี่ยวกับเรื่องของคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคี และเรื่องวิธีต่างๆที่ต้องพูดคุยกันต่อไป ขณะเดียวกันไปเข้าเฝ้าฯ ในฐานะรัฐบาล ตามที่ข่าวออกไปแล้ว จึงขอให้รอฟังรายละเอียดหลังกลับมา นอกจากนั้น นายกฯ ยังได้เน้นย้ำ ด้วยว่า “ทำให้บ้านเมืองสงบสุขนะ”
โดยเมื่อวานนี้ (25 มกราคม 2565) ตามเวลาท้องถิ่นกรุงริยาด ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พบหารือทวิภาคีกับ Ahmad Sulaiman ALRajhi รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรมนุษย์และการพัฒนาทางสังคม ซาอุดีอาระเบีย ในช่วงการเยือนซาอุดีอาระเบียอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรี ณ เรือนรับรองแขกต่างประเทศ พระราชวังคิงซาอุด โดยภายหลังเสร็จสิ้นการหารือ นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยสรุปสาระสำคัญการหารือดังนี้
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรมนุษย์ซาอุดีอาระเบียกล่าวต้อนรับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานสู่ซาอุดีอาระเบีย และยินดีที่ได้มีโอกาสหารือกระชับความร่วมมือด้านแรงงานระหว่างกัน ทั้งนี้ ฝ่ายซาอุดีอาระเบียกล่าวว่า มกุฎราชกุมารแห่งซาอุดีอาระเบียได้ทรงมีบัญชาให้กระทรวงฯ ดำเนินการจัดการหาแรงงานดีมีฝีมือ โดยตั้งเป้าให้ได้ 8 ล้านคน ซึ่งไทยสามารถเข้ามามีส่วนร่วมได้ และซาอุดีอาระเบียประสงค์ผลักดันความร่วมมือด้านแรงงานให้เกิดขึ้นโดยเร็ว โดยเฉพาะแรงงานภาคบริการ โรงแรม สุขภาพ และอุตสาหกรรมก่อสร้างในโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานกล่าวขอบคุณสำหรับการเข้าพบหารือในวันนี้ โดยการเยือนฯ ครั้งนี้ เป็นการเปิดโอกาสให้พี่น้องชาวไทยที่ประสงค์กลับเข้ามาทำงานในซาอุดีอาระเบียอีกครั้ง ทั้งนี้ ไทยมีแรงงานศักยภาพที่มีฝีมือสอดคล้องกับความต้องการของซาอุดีอาระเบีย และกระทรวงแรงงานยังมีกรมพัฒนาฝีมือแรงงานที่สามารถฝึกอาชีพ และประสบการณ์ให้ตรงกับแรงงานในสาขาที่ซาอุดีอาระเบียต้องการ รวมทั้งมีบริษัทจัดหางานที่มีความน่าเชื่อถือ จดทะเบียนกับกระทรวงแรงงานภายใต้การควบคุมของกระทรวงแรงงาน
ฝ่ายซาอุดีอาระเบียยังกล่าวถึงมาตรการดูแลคุณภาพชีวิตและสวัสดิการของแรงงานต่างชาติในซาอุดีอาระเบีย โดยซาอุดีอาระเบียมี E-Contract Program ซึ่งเป็นการทำสัญญาจ้างอิเล็กทรอนิกส์ มุ่งรักษาสิทธิของลูกจ้าง และลดความขัดแย้งระหว่างลูกจ้างและนายจ้าง รวมถึงมีข้อริเริ่ม Labor Mobility Initiative ให้แรงงานเคลื่อนย้ายได้อิสระ เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่น สร้างประสิทธิภาพ และความสามารถในการแข็งขันในตลาดแรงงาน
ในโอกาสนี้ ทั้งสองฝ่ายยังเห็นพ้องให้เร่งรัดความร่วมมือในอนาคต หากเร่งรัดความร่วมมือได้โดยเร็วจะสร้างผลประโยชน์อย่างมากต่อทั้งสองประเทศ ซึ่งโครงการอยู่ระหว่างการก่อสร้างและพัฒนาของซาอุดีอาระเบียยังคงต้องการการสนับสนุนจากต่างชาติ ทั้งในด้านการบริหารจัดการการท่องเที่ยว และด้านแรงงานจำนวนมาก เป็นโอกาสสำหรับผู้ประกอบการ และแรงงานฝีมือ และกึ่งฝีมือของไทยได้เข้ามามีส่วนร่วม
อย่างไรก็ตาม ก็มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์ข้อความว่า สื่อนอกรายงาน’บิ๊กตู่’เดินทางเยือนซาอุฯกระชับสัมพันธ์ในรอบ 30 ปี