หลังจากที่พรรคก้าวไกล เปิดตัวผู้ลงสมัครผู้ว่าฯกทม. ว่าคือนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.พรรคก้าวไกล ก็มีทั้งกระแสฮือฮาของกองเชียร์ และกระแสที่ยังไม่ให้การสนับสนุน เพราะยังไม่มั่นใจว่านายวิโรจน์จะชนะเลือกตั้ง เพราะยังมีคุณสมบัติหลายด้านที่ไม่เหมาะสมดีพอ จากวีรกรรมในอดีต
ก่อนหน้านี้นายวิโรจน์ ได้ทวีตข้อความถึงปัญหาเรื่องกล้องวงจรปิดทั่วกทม. และเรื่องปัญหาทางเท้า ทางม้าลาย ระบุว่า “ทางม้าลาย ที่มี 1,112 จุด ทั่ว กทม. ต้องพิจารณาติดสัญญาณคนข้าม กล้อง CCTV กล้องจับความเร็ว ตีเส้นชะลอความเร็ว ติดตั้งสัญลักษณ์ให้ชัด
บังคับใช้ พ.ร.บ.จราจรทางบก ม.22(4) ให้สิทธิคนเดินถนน และ ม.70 รถต้องชะลอก่อนถึงทางม้าลาย ไม่ควรมีใครต้องถูกรถชนบนทางม้าลายอีกต่อไป ปัจจุบันมีทางข้ามใน กทม. ประมาณ 4,000 แห่งต้องถูกทบทวนปรับปรุงให้หมด ทั้งการติดตั้งสัญญาณไฟคนข้าม ตีเส้นชะลอความเร็ว การติดตั้งสัญลักษณ์ให้ชัด ติดไฟ ติดกล้อง CCTV กล้องจับความเร็ว และต้องบังคับ พ.ร.บ.จราจรทางบก ม.22(4) และ ม.70 อย่างเคร่งครัด”
ต่อมาก็มีผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่ง คอมเม้นต์ถึงประเด็นกล้องวงจรปิดว่า บอกลูกจ้างนายมึงนะ พังไปไม่รู้กี่ตัว มีแต่…เท่านั้นแหละที่อายกล้อง งานนี้ก็ทำให้ประชาชนย้อนเรื่องราวไปถึงเหตุการณ์ที่ม็อบทะลุแก๊สป่วนแยกดินแดง มีการทำลายตู้ควบคุมระดับน้ำ ทุบกล้องวงจรปิดและเผ้าป้อมตำรวจ
จึงมีประชาชนหลายเสียงคอมเม้นต์ว่า พรรคที่คอยประกันตัวคนเผากรุงเทพ ส่งผู้ว่ากรุงเทพ , ใครได้ผู้ว่ารอบนี้รับเละ งบเพียบ เพราะให้น้อน ๆ ทำพังไว้ก่อนแล้ว , ม็อบทุกกล้องไปกี่ตัวแล้วละ เห็นเชียร์ให้ออกมา กล้องที่ม็อบพวกมึงมาพัง เป็นเงินภาษีพวกกู พวกกูจ่ายทั้ง Tax ทั้ง Vat นั่นแหละ เรื่องนี้ควรตั้งคำถามนะ เพราะวิโรจน์ก็เคยไปร่วมกับกลุ่มม็อบ และม็อบก็มีการทำลายกล้อง ทรัพย์สินทางราชการอีกหลายจ่ายมานานหลายสิบปีแล้ว นอกจากนี้ยังมีประชาชนมองว่า หากนายวิโรจน์ได้เป็นผู้ว่าฯกทม.จริง ๆ งานแรกควรจัดการพวกสามกีบก่อนเลย
