“เหวง” พล่ามหนัก ฝากถึงพวกคลั่งอเมริกา รู้ไว้สหรัฐฯ คือตัวการสร้างระบอบประธานาธิบดีรัสเซีย!

1309

สามนิ้วสะอึก! “เหวง” พล่ามหนัก ฝากถึงพวกคลั่งอเมริกา รู้ไว้สหรัฐฯ คือตัวการสร้างระบอบประธานาธิบดีรัสเซีย!

เรียกได้ว่ากำลังจับจ้องกันเป็นอย่างมาก นั่นก็คือเหตุการความไม่สงบ ระหว่าง รัสเซีย กับยูเครน ซึ่งในประเทศไทยเอง กลุ่มผู้สนับสนุนการชุมนุมสามนิ้ว ก็ประกาศชัดว่ายื่นฝั่งยูเครน พร้อมทั้งต้องการให้สหรัฐอเมริกา รวมถึงนาโต้ เข้ามาช่วยเหลือยูเครน สู้กับรัสเซีย

โดยล่าสุดทางด้านของ นพ.เหวง โตจิราการ เจ้าของชื่อจัดตั้ง “สหายเข้ม” แกนนำนปช. ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊คกรณีความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครน ว่า

“พวกบ้าอเมริกานาโต้โปรดรับทราบ
อเมริกานี่แหละ ให้กำเนิดและฟูมฟัก ปูตินและเผด็จการของพวกคลั่งจักรวรรดิรัสเซีย เติบใหญ่แข็งกล้าขึ้นที่รัสเซีย
ขณะนี้ปูตินและพวกคลั่งจักรวรรดิรัสเซีย กำลังชกหน้าอเมริกานาโต้ และคุกคามที่จะก่อสงครามนิวเคลียร์ และสงครามโลกครั้งที่สามแล้วครับ”

พร้อมทั้งยังได้มีการแชร์ ข้อความของ นพ.สลักธรรม โตจิราการ ซึ่งเป็นลูกชายของ นพ.เหวง ที่ได้พูดถึง ตะวันตก คือผู้สร้างอำนาจผูกขาดให้กับระบอบประธานาธิบดี ที่มีนายทุนผูกขาดรายล้อมศูนย์กลางอำนาจ แบบที่รัสเซียเป็นในปัจจุบัน โดยมีรายละเอียดว่า

ตะวันตกมีส่วนสร้างระบอบที่ทำให้ปูตินเรืองอำนาจในรัสเซีย
แม้ว่าเราจะไม่ชอบปูตินเพียงใด แต่ระบอบที่ทำให้ปูตินมีอำนาจคือระบอบทุนนิยมผูกขาดฝ่ายขวาที่เป็นอยู่ในตอนนี้ ส่วนหนึ่งที่ระบอบปูตินเกิดขึ้นมาจากการเพิกเฉยของชาติตะวันตก หรือมาจากสิ่งที่ชาติตะวันตกช่วยให้เกิดขึ้นด้วย

ย้อนกลับไปช่วงที่รัสเซียออกจากสหภาพโซเวียตใหม่ๆ จำได้ไหมครับว่าลูกพี่ของปูตินในตอนนั้นคือเยลต์ซิน

ในตอนปี ค.ศ. 1993 ในตอนนั้นประธานาธิบดีเยลต์ซินไม่พอใจสภาของรัสเซียและสั่งยุบสภาทั้งที่ตนเองไม่มีอำนาจ และใช้กำลังทหารปราบปรามผู้ประท้วงจนเสียชีวิต 147 ราย ในตอนนั้นชาติตะวันตกให้การสนับสนุนเยลต์ซินอย่างเต็มที่ เหตุการณ์ดังกล่าวนำไปสู่การรวบอำนาจในมือประธานาธิบดีรัสเซียและลดบทบาทการควบคุมโดยสภา ทำให้สถาบันทางการเมืองของรัสเซียอ่อนแอไม่มีพลังควบคุมประธานาธิบดี

ต่อมาในปี ค.ศ. 1996 สหรัฐอเมริกายังช่วยให้เยลต์ซินชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีด้วยการให้”ความช่วยเหลือ”ผ่าน IMF และ “ทีมจัดการแคมเปญเลือกตั้ง” และปล่อยให้เยลต์ซินใช้เครื่องมือต่างๆเช่นสื่อที่สนิทกับรัฐ งบประมาณรัฐในการเอาชนะการเลือกตั้ง ด้วยกลัวว่าพรรคคอมมิวนิสต์จะชนะเลือกตั้ง ทั้งที่ในตอนนั้นพรรคคอมมิวนิสต์ก็มาลงเลือกตั้งตามกติกา

นอกจากนั้น การแปรรูปกิจการของรัฐภายใต้คำแนะนำของชาติตะวันตกโดยไม่มีการควบคุมดูแลที่ดียังทำให้ทรัพย์สินส่วนรวมตกไปอยู่ที่นายทุนขี้ฉ้อไม่กี่คนที่ใกล้ชิดกับศูนย์กลางอำนาจอย่างเยลต์ซิน

เหตุฉะนี้เองรัสเซียหลังยุคสหภาพโซเวียตจึงมีการปกครองที่อำนาจถูกรวบอยู่ที่ประธานาธิบดีและมีนายทุนผูกขาดรายล้อมศูนย์กลางอำนาจ ซึ่งเยลต์ซินก็ส่งต่อระบอบนี้ให้กับทายาทที่ชื่อวลาดิมีร์ ปูติน ทำให้ปูตินเป็นประธานาธิบดีที่มีอำนาจมากโดยไม่ถูกควบคุมจากสถาบันอื่นใด มีนายทุนผูกขาดรายล้อม และรู้จักวิธีชักนำการเลือกตั้ง จนสามารถครองอำนาจอย่างเบ็ดเสร็จตั้งแต่ค.ศ.2000มาจนถึงทุกวันนี้

นอกจากนั้นในช่วงต้นของยุคปูติน ชาติตะวันตกก็ไม่ได้มีความคิดที่จะขับไล่ปูตินออกจากตำแหน่งทั้งที่มีพฤติกรรมไม่สอดคล้องกับประชาธิปไตย ส่วนหนึ่งเพราะมองว่าฝ่ายค้านใหญ่ในรัสเซียคือพรรคคอมมิวนิสต์อาจขึ้นมาแทนปูตินได้ จึงปล่อยปูตินไว้ทั้งที่มีพฤติกรรมรวบอำนาจ ปราบปรามคนเห็นต่างอย่างรุนแรง และทำสงครามอย่างโหดเหี้ยมในเชชเนียและดาเกสถาน

ฉะนั้นคงต้องบอกว่าที่ปูตินเป็นอย่างที่เป็นทุกวันนี้ได้ ส่วนหนึ่งเกิดจากระบอบที่ตะวันตกมีส่วนสนับสนุนในรัสเซียหลังยุคโซเวียตด้วย

ทั้งนี้เมื่อได้สืบค้น ก็พบว่าเคยมีข่าวซึ่งเขียนโดยนักข่าวชื่อดังนามว่า นายยาชะ เลวิน (Yasha Levine) สื่อมวลชนชาวอเมริกันเชื้อสายรัสเซีย ได้นำเสนอข้อมูลการสนทนาลับในอดีตของประธานาธิบดีสหรัฐฯ บิล คลินตัน (Bill Clinton) ที่ถูกเปิดเผยในปัจจุบัน (declassified presidential transcripts)

โดยสื่อมวลชนชาวอเมริกันเชื้อสายรัสเซีย ระบุว่า ประธานาธิบดีคลินตัน ช่วยสนับสนุนการทุจริตการเลือกตั้ง (steal) ในรัสเซียให้นายบอริส เยลต์ซิน (Boris Yeltsin) ประธานาธิบดีคนแรกของรัสเซีย ชนะการเลือกตั้งในปี 2539

และในปี 2542 ประธานาธิบดีคลินตันก็สนับสนุนนายบอริส เยลต์ซิน ในการทุจริตการเลือกตั้ง (rig) ให้นายวลาดีเมียร์ ปูติน (Vladimir Putin) ชนะการเลือกตั้งและได้ขึ้นมาเป็นประธานาธิบดีคนที่ 2 ของรัสเซีย

ต่อมา ปี 2553 ในสมัยรัฐบาลโอบามา นางฮิลแลรี คลินตัน (Hillary Clinton) รัฐมนตรีต่างประเทศในขณะนั้น ก็ได้ทำข้อตกลงด้านอุตสาหกรรมแร่ยูเรเนียม ร่วมกับประธานาธิบดีปูตินอีกด้วย