ตะวันออกกลางเดือด!?กาชาดแฉซาอุฯถล่มเยเมน บอมบ์คุกดับกว่า 100 อ้างทำลายรังกบฎ

1114

กาชาดสากลเผย การโจมตีทางอากาศกองกำลังพันธมิตรภายใต้การนำของซาอุดีอาระเบีย ทิ้งบอมบ์ใส่เรือนจำแห่งหนึ่งที่เมืองซาดา อ้างเป็นพื้นที่ควบคุมของกลุ่มกบฏฮูตีเยเมน เมื่อคืนวันพฤหัสบดี ส่งผลให้มีประชาชนเสียชีวิตมากกว่า 100 คน สูญหายอีกจำนวนหนึ่ง สะท้อนความโหดเหี้ยมในสงครามเชื้อชาติและความเชื่อ ที่ยืดเยื้อมานับสิบปี ระหว่างพันธมิตรผู้ร่ำรวยน้ำมันที่มีมหาอำนาจสหรัฐและอิสราเอลหนุนหลัง กับนักรบฮูตีแห่งเยเมนที่ไม่ยอมเป็นอาณานิคมของผู้แข็งแกร่งกว่า เหนือกว่าทั้งเงิน อาวุธ

 

เมื่อวันศุกร์ที่ 21 มกราคม 2565 สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า การโจมตีทางอากาศถล่มพื้นที่ของกบฏฮูตีในเยเมนครั้งนี้เกิดขึ้น 5 วันหลังจากกบฏฮูตีประกาศว่าได้ก่อเหตุโจมตีด้วยโดรนและมิสไซล์ที่สนามบินในกรุงอาบูดาบีและรถขนน้ำมันของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือยูเออี  การโจมตีภายในดินแดนของยูเออีครั้งนั้นทำให้กลุ่มพันธมิตรนำโดยซาอุดิอาระเบียซึ่งหนุนหลังรัฐบาลหุ่นเยเมน ประกาศตอบโต้ และส่งเครื่องบินโจมตีทางอากาศในพื้นที่ชี้เป้าว่าควบคุมโดยกลุ่มฮูตีที่กรุงซานา ทำให้มีคนเสียชีวิต 20 รายรวมผู้หญิงและเด็ก

การโจมตีทางอากาศครั้งล่าสุดเมื่อคืนวันพฤหัสบดี เป้าหมายคือเรือนจำแห่งหนึ่งในเมืองซาดา เมืองฐานที่มั่นการเคลื่อนไหวของกบฏฮูตีในภาคเหนือ ภาพวิดีโอเหตุการณ์ที่กบฏฮูตีซึ่งมีอิหร่านหนุนหลัง เผยแพร่ แสดงให้เห็นสภาพน่าสยดสยองที่หน่วยกู้ภัยดึงศพออกจากซากอาคารที่พังถล่ม และภาพศพร่างแหลกเหลวกองไว้รวมกัน

บาเชียร์ โอมาร์ โฆษกของคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (ไอซีอาร์ซี) ในเยเมน กล่าวว่า จำนวนคนเสียชีวิตที่เมืองซาดายังเพิ่มขึ้นไม่หยุด ยอดผู้เสียชีวิตตอนนี้ที่ได้จากโรงพยาบาล 2 แห่งที่ไอซีอาร์ซีให้การสนับสนุน มีมากกว่า 100 คนแล้ว ส่วนจำนวนผู้บาดเจ็บก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

องค์กรแพทย์ไร้พรมแดนในเยเมนเปิดเผยว่า โรงพยาบาลในเมืองซาดารับการรักษาผู้บาดเจ็บประมาณ 200 คนจากการโจมตีเรือนจำ และมีคนไข้มากจนโรงพยาบาลไม่สามารถรับเพิ่มได้ ยังมีศพอีกหลายศพอยู่ในที่เกิดเหตุ และคนสูญหายจำนวนมาก ไม่มีทางรู้ได้ว่ามีคนตายมากเท่าใดในการก่อเหตุรุนแรงน่ากลัวครั้งนี้

ไกลออกไปทางทิศใต้ที่เมืองฮูเดย์ดา กองกำลังผสมที่มีซาอุดีอาระเบียเป็นผู้นำ โจมตีทางอากาศถล่มศูนย์กลางระบบโทรคมนาคม ทำให้ระบบอินเทอร์เน็ตของเยเมนใช้การไม่ได้ทั้งประเทศ วิดีโอของกลุ่มนักรบฮูตีเผยให้เห็นศพหลายศพอยู่ใต้ซากปรักหักพัง และผู้รอดชีวิตอยู่ในสภาพงงงวย

กองกำลังผสมยอมรับว่าโจมตีทางอากาศที่เมืองฮูเดย์ดา เมืองท่าสำคัญของเยเมน แต่ไม่ยอมบอกว่าได้โจมตีทางอากาศที่เมืองซาดาด้วยหรือไม่

สงครามกลางเมืองของเยเมนเริ่มต้นเมื่อปี 2547 เมื่อกบฏฮูตีซึ่งมีฐานอยู่ที่เมืองซาดา บุกยึดกรุงซานาเมืองหลวง ทำให้กองกำลังผสมที่ซาอุฯ เป็นผู้นำ เข้าแทรกแซงเพื่อช่วยเหลือรัฐบาลซานาในปีถัดมา องค์การสหประชาชาติประเมินว่า สงครามในเยเมนทำให้มีคนเสียชีวิตแล้ว 377,000 คนถึงสิ้นปี 2564 ทั้งโดยตรงและโดยอ้อมที่ซ้ำเติมจากโรคติดต่อและความหิวโหย

ความตึงเครียดรอบใหม่เริ่มต้นเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อนหน้านี้ หลังจากกองพลน้อยยักษ์ที่ยูเออีหนุนหลังขับไล่พวกกบฏพ้นจากจังหวัดชับวา สกัดแผนการยึดเมืองมาริบทางเหนือของฝ่ายกบฏที่พยายามมานานหลายเดือน

วันที่ 3 มกราคม 2565  กลุ่มนักรบฮูตียึดเรือสัญชาติยูเออีลำหนึ่งในทะเลแดง ทำให้กองกำลังผสมเตือนว่าจะโจมตีเมืองท่าของกบฏ และในวันจันทร์ที่ผ่านมา  กลุ่มนักรบฮูตีได้ส่งโดรนบินระยะไกลโจมตีในสนามบินและดินแดนของยูเออี ทำให้ชาวอินเดีย 2 คน และปากีสถาน 1 คน เสียชีวิต และมีคนบาดเจ็บ 6 คน

เป็นโอกาสให้กองกำลังผสมพันธมิตรอาหรับไล่บี้กลุ่มนักรบฮูตีอย่างต่อเนื่่อง ยังความสูญเสียทั้งชีวิตประชาชนและบ้านเรือนไม่จบสิ้น เค้าลางการทำลายล้างจะดำเนินต่อไปอย่างเข้มข้น เพราะเป้าใหญ่ของสหรัฐและอิสราเอลเบื้องหลังจุดพลุสงครามไม่จบสิ้นในตะวันออกกลางนั้นคือ อิหร่าน

ทั้งนี้กลยุทธ์แทรกแซงแล้วเสี้ยมของสหรัฐฯ ได้ส่งผลให้กลุ่มชีอะห์ในเยเมนและสุหนี่ในซาอุฯ รบกันแหลกราญ โดยสหรัฐ-อังกฤษขายอาวุธให้เพียบ ได้เงินมากมายมหาศาลเข้าประเทศตนด้วย

สงครามเยเมนได้กลายเป็นวิกฤตด้านมนุษยธรรมที่เลวร้ายที่สุดของโลก โดยมีการวิพากษ์วิจารณ์จากนานาชาติต่อการโจมตีทางอากาศของซาอุดิอาระเบีย ซึ่งคร่าชีวิตพลเรือนไปนับหมื่น และการสู้รบได้ทำลายชีวิตผู้คนที่ขัดแย้งกันนับแสน