หลังจากที่เกิดเหตุสาวรายหนึ่ง วิ่งฝ่าเข้าไปใกล้ขบวนรถพระที่นั่งของในหลวง-พระราชินี เมื่อช่วงค่ำวันที่ 28 ธ.ค. 2564 โดยต่อมาได้มีเจ้าหน้าที่วิ่งเข้าไปประกบ เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ดังกล่าว
แม้เหตุการณ์จะจบลง แต่ความรู้สึกของคนไทยที่ทราบข่าว และประชาชนที่ไปรอรับเสด็จ ต่างวิพากษ์วิจารณ์ถึงเหตุการณ์นี้ ว่าเป็นการกระทำที่รับไม่ได้ เพราะสาวคนดังกล่าว วิ่งฝ่าเข้าไปถึงขบวนรถพระที่นั่ง ไม่ว่าจะมีเจตนาอะไรก็ตาม แต่ไม่เหมาะสม และหากมีอาวุธย่อมเป็นอันตรายถึงพระองค์ท่าน
ขณะที่อีกมุม ก็ได้มีกลุ่มม็อบ 3 นิ้ว มายืนถือป้ายป่วน บริเวณที่ขบวนเสด็จจะผ่านด้วย ทั้งนี้เมื่อย้อนไปดูเหตุการณ์ และพฤติกรรมป่วนขบวนเสด็จของกลุ่ม 3 นิ้ว จะพบว่า นับวันยิ่งมีความเหิมเกริม ไม่เกรงกลัวกฎหมายบ้านเมืองมากขึ้น อย่างเช่นในวันที่ 14 ต.ค. 2563 ได้ปรากฎคลิปที่กลุ่มผู้ชุมนุมเข้าไปขวางขบวนเสด็จของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และ สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกร รัศมีโชติฯ และมีคลิปที่นายเอกชัย หงส์กังวาน ตะโกนว่า ให้เข้าไปขวางเลย และชู 3 นิ้วด้วย
ปัจจุบัน นายเอกชัย เป็น 1 ใน 3 ผู้ต้องหาคดีประทุษร้ายต่อเสรีภาพของพระราชินี ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 110 จากกรณีที่อยู่ในเหตุการณ์ขณะที่ขบวนเสด็จฯ เคลื่อนที่ผ่านกลุ่มผู้ชุมนุม “คณะราษฎร” บริเวณทำเนียบรัฐบาลเมื่อวันที่ 14 ต.ค. 2563
โดยมีผู้ต้องหาอีก 2 คน ได้แก่ นายบุญเกื้อหนุน เป้าทอง อายุ 21 ปี นักศึกษาเอกความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยมหิดล และนายสุรนาถ แป้นประเสริฐ อายุ 35 ปี ผู้ประสานงานเครือข่ายเยาวชนลดปัจจัยเสี่ยง
อย่างไรก็ตามที่ผ่านมา การกระทำของม็อบ 3 นิ้ว มีความเหิมเกริม ท้าทายและต้องการจะพาดพิงสถาบันฯมาโดยตลอด และการแสดงการออกพฤติกรรมต่าง ๆ ก็ทำให้คนไทยและพลังเงียบจำนวนมากรับไม่ได้ ดังเช่นครั้งนี้ที่มีสาววิ่งฝ่าเข้าไปยังขบวนรถพระที่นั่ง ก็ทำให้ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก และประชาชนส่วนใหญ่รอติดตามความชัดเจน และความคืบหน้าอีกครั้ง ว่าแท้จริงแล้วสาวคนดังกล่าวมีเจตนาอะไรกันแน่
