สหรัฐและยุโรปจัดประชุมเกี่ยวกับประเด็นของจีน และรัสเซีย แสดงความกังวลต่อการแผ่อิทธิพลของจีนในพื้นที่ทางทะเล ด้านจีนเรียกร้องให้ทั้งสหภาพยุโรป และสหรัฐฯ ละทิ้งแนวคิดสงครามเย็น สร้างกับดักประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนแพื่อแบ่งโลกเป็นฝักฝ่าย ขอให้ยึดมั่นในความเปิดกว้าง ความร่วมมือ การเจรจาและการปรึกษาหารือ ฝึกลัทธิพหุภาคีอย่างแท้จริง และอัดฉีดเสถียรภาพและพลังงานเชิงบวกสู่โลกให้มากขึ้น
เมื่อวันที่ 3 ธ.ค. 2564 สำนักข่าวแชลแนลนิวส์เอเชีย (Channel News Asia) รายงาน ว่า นางเวนดี เชอร์แมน (Wendy Sherman) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ และนายสเตฟาโน แซนนิโน (Stefano Sannino) เลขาธิการกระทรวงการต่างประเทศสหภาพยุโรป (European External Action Service-EEAS) เผยแพร่แถลงการณ์ร่วมเมื่อ 2 ธ.ค.2564 ภายหลังการหารือระหว่างสหรัฐฯ กับ สหภาพยุโรป ในประเด็นจีน (US-EU dialogue on China) ครั้งที่ 2 ที่สหรัฐฯ ว่า สหรัฐฯ และสหภาพยุโรปมีความวิตกกังวลเป็นอย่างยิ่งต่อการดำเนินการฝ่ายเดียวของจีนที่ก่อให้เกิดปัญหาในทะเลจีนใต้ ทะเลจีนตะวันออก และช่องแคบไต้หวัน ซึ่งทำลายสันติภาพและความมั่นคงของอินโด-แปซิฟิก รวมทั้งส่งผลกระทบโดยตรงต่อทั้งสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป นอกจากนี้ สหรัฐฯ และสหภาพยุโรป ยังแสดงความกังวลต่อสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนที่ยังคงเป็นปัญหาทั้งในเขตปกครองตนเองทิเบต เขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ และฮ่องกง
ในวันเดียวกันสำนักข่าวโกลบัลไทมส์ ได้รายงานว่า กระทรวงการต่างประเทศจีนเรียกร้องให้สหรัฐฯและสหภาพยุโรปละทิ้งความคิดเกี่ยวกับสงครามเย็นที่ล้าหลัง ในขณะที่สหรัฐฯ และยุโรปกำลังดิ้นรนเพื่อรับมือกับความท้าทายจากจีนและรัสเซียในเวลาเดียวกัน
เจนส์ สตอลเตนเบิร์ก(Jens Stoltenberg) เลขาธิการ NATO กล่าวเมื่อวันพุธว่าพันธมิตรตะวันตกกำลังทำงานอย่างใกล้ชิดเพื่อปกป้องจากพันธมิตรจีนและรัสเซียใหม่ที่มีขีดความสามารถส่งขีปนาวุธเข้าถึงยุโรปและอเมริกาเหนือได้
ในการประชุมประจำปีด้านการลงทุนครั้งที่ 13 ของรัสเซีย ในวันอังคารที่ 30 พ.ย.ที่ผ่านมาประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ได้ประณามทฤษฎี “ภัยคุกคามของจีน” ที่สหรัฐและตะวันตกชูประเด็นเพื่อต้านจีนอย่างบ้าคลั่ง
ปูตินกล่าวว่า “ตะวันตกพยายามหลอกหลอนฉันและข่มขู่ฉันกับจีน มาตั้งแต่ปี 2543 ตั้งแต่นั้นมา บรรดาผู้ที่พยายามทำให้ฉันกลัว พวกเขาก็กลัวตัวเองและพยายามเปลี่ยนนโยบายของพวกเขาที่มีต่อจีนผลักไปเป็นฝ่ายตรงข้าม”
ซุย หงเจียน (Cui Hongjian) ผู้อำนวยการ Department of European Studies ที่ China Institute of International Studies กล่าวว่าไม่สามารถตีความได้ว่าเป็นสหภาพยุโรป “ทำตาม” สหรัฐฯต้านจีนในทุกด้าน
ผู้สังเกตการณ์ตั้งข้อสังเกตว่า แม้ภายในสหภาพยุโรป ประเทศต่างๆ ก็มีนโยบายต่างประเทศที่มีต่อจีนแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้ากับจีน และการกระจายผลประโยชน์ ดังนั้นการบรรลุความสมดุลระหว่างความขัดแย้งและความร่วมมือ จึงมีความสำคัญสำหรับประเทศในยุโรป และนี่คือจุดที่แบ่งแยกและเกิดความขัดแย้งเชิงนโยบายภายในยุโรป
หยาง จิน(Yang Jin) ผู้ร่วมวิจัยของสถาบันรัสเซีย ยุโรปตะวันออก และเอเชียกลางศึกษาภายใต้สถาบัน Chinese Academy of Social Sciences ร่วมกับสหรัฐฯ กล่าวว่า“หลายครั้งที่สหรัฐฯ คว่ำบาตรรัสเซีย ยุโรปจะดำเนินการในลักษณะเดียวกัน แต่โดยส่วนใหญ่แล้ว การสมรู้ร่วมคิดไปกับสหรัฐฯในลักษณะนี้ กลับส่งผลเสียต่อผลประโยชน์ของยุโรปเอง”
สถาบันวิจัยสิทธิมนุษยชนและโรงเรียนการเมืองและการบริหารรัฐกิจที่มหาวิทยาลัยรัฐศาสตร์และกฎหมายนอร์ทเวสต์ (NUPSL) ได้จัดการประชุมสัมนา ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้เข้าร่วมประชุมเป็นนักวิชาการและนักศึกษาประมาณ 100 คนในสาขาวิชาที่เกี่ยวข้อง
สรุปเนื้อหาการประชุมส่วนหนึ่ง ด้านระบอบประชาธิปไตยของสหรัฐฯว่า เป็นเกมของชนชั้นสูงทางการเมืองสองสามคนที่เป็นแกนหลัก แต่ต้องปลอมตัวเป็นประชาธิปไตยเพื่อให้ประชาชนทั่วไปได้รับความชอบธรรม สหรัฐฯไม่สามารถแก้ไขความขัดแย้งและความเสื่อมโทรมในระบอบประชาธิปไตยของตนเองอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ผลสำรวจความคิดเห็นชาวอเมริกันอายุระหว่าง 18-29 ปี โดยสถาบันการเมืองของโรงเรียนฮาร์วาร์ด เคนเนดี้ (IOP) เปิดเผยเมื่อวันพุธว่า มีวัยรุ่นอเมริกันเพียง 7 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่มองว่าสหรัฐฯ เป็น “ประชาธิปไตยที่สมบูรณ์” และ 52 เปอร์เซ็นต์เชื่อว่าประชาธิปไตยกำลัง “มีปัญหา” หรือ “กำลังล้มเหลว”
จ่าว ลี่เจี้ยน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการสำรวจความคิดเห็นนี้เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า ประชาธิปไตยของสหรัฐฯ คือประชาธิปไตยโดยใช้เงิน เป็นกลอุบายหลอกประชาชนในประเทศ และเป็นเครื่องมือในการยัดเยียดอำนาจในต่างแดน
