“เทพไท” ชวนจับตา อาฟเตอร์ช็อค การเช็คบิล “กลุ่มกบฏ” ฝ่ายค้านพ่ายแพ้ เตรียมเล่นแรงนอกสภาฯ

1675

สภาฯจบ บนถนนไม่จบ? “เทพไท” ชวนจับตา อาฟเตอร์ช็อค การเช็คบิล “กลุ่มกบฏ” ฝ่ายค้านพ่ายแพ้ เตรียมยืมมือปชช.เล่นแรงนอกสภา!

สืบเนื่องจากกรณีที่ ได้มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ตั้งแต่วันที่ 31 สิงหาคม – 4 กันยายน 2564 เพื่อพิจารณาเรื่องด่วน “ญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล” โดยผลการลงมติอภิปรายไม่ไว้วางใจ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จำนวนผู้ลงมติทั้งหมด 475 เสียง ไม่ไว้วางใจ 208 เสียง ไว้วางใจ 264 เสียง และงดออกเสียง 3 เสียง พร้อมกับ 5 รัฐมนตรี สภามีมติไว้วางใจ

ล่าสุดในวันที่ 6 ก.ย.64 ทางด้านของ นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊คส่วนตัวถึงการให้ จับตาอาฟเตอร์ช็อค หลังศึกซักฟอกผ่านไป โดยมีรายละเอียดว่า

หลังจากศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ จบลงด้วยผลโหวตที่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้คะแนนไม่ไว้วางใจสูงสุด 208 คะแนน และคะแนนไว้วางใจ รองบ๊วย 264 คะแนน ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง มีผลกระทบต่อเครดิตผู้นำรัฐบาล ซึ่งสร้างความเสียหายทางการเมืองให้กับ พลเอกประยุทธ์ ไม่มากก็น้อย

ผลของการอภิปรายครั้งนี้ ขอให้จับตาความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่ตามมา หรือที่เรียกกันว่า อาฟเตอร์ช็อค ที่จะเกิดขึ้นหลายประการ เช่น
1.การคิดบัญชีกับกลุ่มที่ก่อการเคลื่อนไหวจะโหวตสวนนายกรัฐมนตรี และไม่สามารถกระทำได้สำเร็จจนกลายเป็นกบฏ และส.ส.ที่แหกมติของพรรคฝ่ายค้าน ซึ่งจะต้องถูกเช็คบิลกันอย่างแน่นอน

2.จะมีการปรับคณะรัฐมนตรี โดยการยึดตำแหน่งรัฐมนตรีบางตำแหน่ง มาเกลี่ยโควต้ากันใหม่ เพื่อมาแจก ให้กับพรรคการเมืองเล็ก ที่ให้การสนับสนุนรัฐบาลมาโดยตลอด แต่ยังไม่เคยได้โควต้ารัฐมนตรีเลย เช่น พรรคพลังท้องถิ่นไทย ของนายชัชวาลย์ คงอุดม และการคืนโควต้ารัฐมนตรี ให้กับพรรคชาติพัฒนาอีกครั้ง
3.จะมีการปรับดุลอำนาจ ภายในพรรคประชารัฐ และพรรคร่วมรัฐบาลใหม่ เป็นการกระชับอำนาจของ พลเอกประยุทธ์ ในฐานะผู้นำรัฐบาล

4.พรรคฝ่ายค้าน จะมีการเคลื่อนไหวช่วงชิงมวลชน หลังจากบทบาทการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ระหว่างพรรคเพื่อไทย กับพรรคก้าวไกล ได้รับการยอมรับจากมวลชนที่แตกต่างกัน จะมีการการนำกันมากขึ้น
5.จะมีการเคลื่อนไหวการเมืองนอกสภาที่เข้มข้น และต่อเนื่องมากยิ่งขึ้น หลังจากผิดหวังจากผลโหวตในสภาผู้แทนราษฎร เมื่อใช้มือส.ส.ในสภาขับไล่รัฐบาลไม่สำเร็จ ก็หันมาใช้มือประชาชนนอกสภาขับไล่รัฐบาลต่อไป
ส่วนตัวเชื่อว่า ถ้าหากการแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญ ประเด็นบัตรเลือกตั้งสำเร็จ ทุกฝ่ายก็พร้อมรับกับการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการยุบสภาที่จะเกิดขึ้นตามมา