ปิยบุตรปลุกระดมข้ามโลก! ปฏิวัติเมื่อสุกงอม? ยุยกระดับอย่าถอยยึดเพดานเดิมเป็นขั้นต่ำ

1836

จากที่มีความเคลื่อนไหวของการจัดชุมนุมขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในรูปแบบคาร์ม็อบภายใต้ชื่อกิจกรรม “ถนนทุกสายมุ่งสู่กรุงโรม” (วิภาวดี-รังสิต) ในช่วงบ่ายวันที่ 1 ส.ค. 2564 นั้น

โดยนายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด แกนนำผู้จัดคาร์ม็อบ โดยจะมีการรวมตัวกันอยู่ที่บริเวณประตู 6 สนามบินดอนเมือง และเคลื่อนขบวนไปบ้านพักของพล.อ.ประยุทธ์

ด้าน นายอานนท์ นำภา แกนนำกลุ่มราษฎร ก็ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า ม็อบ เท่าที่ทราบ มีการจัดร่วมกันหลายกลุ่ม1.สมบัติทัวร์ ของพี่หนูหริ่ง รวมตัวที่ถนนวิภาวดี-รังสิต 2.นปช.ทัวร์ ของพี่เต้น รวมตัวกันที่สี่แยกราชประสงค์ 3.ราษฎรทัวร์ ของกลุ่มราษฎร รวมตัวที่ราชดำเนิน

“สถานการณ์ตอนนี้แหลมคมมาก เรากำลังทำลายวัฒนธรรมเก่าของการมองการต่อสู้ของประชาชนลงอย่างราบคาบ เมื่อการต่อสู้มันไม่ได้เป็นแบบรัฐทำอะไรก็ได้ไม่ผิด ประชาชนโต้แย้งตอบโต้ไม่ได้ กลายมาเป็นการต่อสู้แบบคนเท่ากัน

ถามว่ามันสุ่มเสี่ยงจะเลยเถิดจากสันติวิธีไปสู่การใช้ความรุนแรงซึ่งกันและกัน หรือไม่ ก็ต้องตอบอย่างซื่อสัตย์ต่อตัวเองว่า เป็นไปได้สูงมาก”

ทั้งนี้นายอานนท์ นำภา จะออกมาร่วมการชุมนุมในวันที่ 7 สิงหาคม 2564 กับกลุ่มเยาวชนปลดแอก เพราะก่อนหน้านี้ก็ได้บอกว่า ม็อบพร้อมยกระดับ ครั้งก่อนฝ่าแนวกั้นเจ้าหน้าที่ไม่ได้ แต่ครั้งนี้จะฝ่าแนวกั้นไปให้ได้ เพื่อเดินเท้าไปยังทำเนียบรัฐบาล

ขณะเดียวกันในช่วงเวลาของวันที่ 1 สิงหาคม 2564  นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้าซึ่งอยู่ที่ประเทศฝรั่งเศส ได้ออกมาโพสต์ข้อความในเพจเฟซบุ๊กชื่อ Piyabutr Saengkanokkul – ปิยบุตร แสงกนกกุล ระบุข้อความในห้วงสถานการณ์ม็อบว่า

“ปฏิรูปแบบปฏิวัติ ทำข้อเสนอให้ราดิคัลที่สุด ก้าวหน้าที่สุด ไต่เพดานให้มากที่สุด เท่าที่เป็นไปได้ภายใต้ระบอบที่เป็นอยู่ พร้อมกับยืนยัน ยกระดับให้ข้อเสนอนี้เป็นข้อเสนอขั้นต่ำที่เราจะไม่ถอยไปมากกว่านี้ หากข้อเสนอนี้ไม่ได้รับการสนองตอบ สถานการณ์จะสุกงอมจนลื่นไถลให้ปฏิรูปกลายเป็นปฏิวัติ นี่คือ ปฏิรูปแบบปฏิวัติ”

ต่อมาเมื่อข้อความของนายปิยบุตร ได้เผยแพร่ออกมา ก็ปรากฏว่ามีคนเข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็นต่างๆอย่างมากมาย ทั้งสนับสนุนและเข้ามาโจมตี เช่น

“เอาความกระจอกของม็อบไม่กล่าวถึง…พวกเค้ารอคนที่ปั่นอยู่เบื้องหลังให้ออกมานำอยู่นะจ๊ะ…”ปฏิรูปแบบปฏิวัติ” กันยายนนี้กลับมาก่อนนะจ๊ะปิ๊บูด”

อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ นายปิยบุตร ได้โพสต์ข้อความเปิดเผยถึงการเดินทางไปฝรั่งเศส ท่ามกลางข่าวลือสะพัดว่าหลบหนีออกไปแล้วหรือไม่ว่า

“การกลับมาปารีสในรอบ 18 เดือน ผมเดินทางกลับมาปารีสในรอบ 18 เดือน ครั้งสุดท้ายที่ได้มา คือ ช่วงสิ้นปี 2019 เข้าปี 2020 ก่อนที่พรรคอนาคตใหม่จะถูกยุบ

สถานการณ์แพร่ระบาดของ Covid-19 และภารกิจการเมือง ทำให้ผมไม่มีโอกาสเดินทางไปต่างประเทศได้บ่อยครั้งเมื่อเทียบกับแต่ก่อน แม้ภรรยาของผมได้รับทุน Post-Doc ที่สิงคโปร์ ไม่ไกลจากไทยมาก แต่เราก็ไม่สามารถเจอกันได้บ่อยดังที่วางแผนไว้ เพราะ อุปสรรคการเดินทางในช่วง Covid-19

จนกระทั่งภรรยาผมผ่านการสอบคัดเลือก ได้เป็นอาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัย Paris I เธอจึงเดินทางกลับปารีส ในขณะที่รัฐบาลฝรั่งเศสได้เปลี่ยนแปลงหลักเกณฑ์การเข้าประเทศฝรั่งเศส โดยแบ่งเป็นโซน ทำให้ผมสามารถเดินทางมาปารีสได้ง่ายขึ้น

ผมจึงวางแผนการเดินทางมาปารีส ใช้โอกาสนี้ในการเจอภรรยา หลังจากไม่มีโอกาสเจอกัน หลังจากเธอต้องเดินทางไปหลายเมือง หลายประเทศ นับแต่จบปริญญาเอก ตั้งแต่ เกิททิงเง่น ฮาวาร์ด สิงคโปร์

ผมมาปารีสครั้งนี้ จะอยู่ที่ปารีส 2 เดือน ส่วนหนึ่งก็คือการใช้โอกาสนี้ในการอยู่กับภรรยาและครอบครัว นับตั้งแต่ผมเข้ามาแวดวงการเมือง ก็ไม่มีโอกาสเดินทางไปเจอภรรยาได้บ่อยครั้ง เมื่อมีโอกาสเจอกันแต่ละครั้ง ก็เวลาสั้นๆเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม ระหว่างผมอยู่ที่นี่ ก็จะเขียนงาน จัดรายการ เผยแพร่ความรู้ ทำงานความคิดต่อไป คนที่ไม่ชอบผม จ้องทำลายผมด้วยข้อมูลเท็จ ก็ไม่ต้องปฏิบัติการทางไอโอให้เสียเวลา ไม่ต้องไปปล่อยข่าวมั่ว นะครับ อย่างไรเสีย เดือนกันยายน ผมกลับประเทศไทยแน่นอน”