ฟ้าทะลายโจร กลายเป็นที่ต้องการของตลาดอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน เพราะพิสูจน์แล้วว่า ใช้ในการรักษาโควิด-19 จากผลการวิจัยหลายแห่ง ได้ระบุถึงสรรพคุณในการป้องกันและรักษาโควิดได้ เนื่องจากมีสารสำคัญ คือ แอนโดรกราโฟไลด์ (Andrographolide) มีสรรพคุณสามารถลดความรุนแรงของโรคในผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่มีอาการไม่หนักได้ ซึ่งในขณะนี้ฟ้าทะลายโจรขาดตลาดอย่างมาก เพราะประชาชนเริ่มมั่นใจในตัวสมุนไพรมากขึ้น
ดังนั้นนี่จะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการรักษา และนับเป็นโอกาสของเกษตรกรผู้ปลูกพืชสมุนไพรสามารถปลูกฟ้าทะลายโจรให้มีคุณภาพ มีสารสำคัญเพียงพอ เพื่อแปรรูปผลผลิตจำหน่ายเอง หรือจำหน่ายเป็นวัตถุดิบให้กับหน่วยงานที่จะนำไปแปรรูปเป็นยาเพื่อใช้ในการรักษาต่อไปได้
นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวว่ากรมอยู่ระหว่างการคัดเลือกสหกรณ์ ที่ประสงค์จะเข้าร่วมโครงการปลูกฟ้าทะลายโจรในสถาบันเกษตรกร 4 แห่ง ภูมิภาคละ 1 แห่ง พื้นที่ดำเนินการ 500 ไร่ เมื่อได้สหกรณ์เป้าหมายแล้วจะมีการส่งเสริมให้สมาชิกสหกรณ์นั้นปลูก พื้นที่เป้าหมายเบื้องต้น 500 ไร่ ซึ่งต้นฟ้าทะลายโจรทั้งหมดของสมาชิกจะต้องขายให้สหกรณ์ทั้งหมด เพื่อให้สหกรณ์รวบรวมส่งให้กับกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งขณะนี้มีความต้องการมากเพื่อผลิตเป็นยาสมุนไพรแต่ยังขาดตัววัตถุดิบ
ทั้งนี้ หลังจากได้สหกรณ์ที่เข้าโครงการแล้วจะมีการชี้แจงแนวทางการปลูกฟ้าทะลายโจรให้ได้คุณภาพเพื่อนำไปผลิตยาสมุนไพร เพราะต้องการสมุนไพรปลอดสารเคมี อย่างไรก็ตามกรณีสหกรณ์ที่เข้าโครงการต้องการทุนดำเนินการ กรมจะจัดเงินกู้จากกองทุนพัฒนาสหกรณ์ให้ในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1 เพื่อใช้ในการตั้งต้นเข้าโครงการ
ทั้งนี้ กรมคาดว่าโครงการนี้จะเป็นช่องทางสร้างรายได้เสริมให้กับสมาชิกสหกรณ์ได้ดี เนื่องจากเป็นสมุนไพรคุณภาพ และคาดหวังว่าหากสหกรณ์สามารถผลิตได้คุณภาพ อนาคตหลายสหกรณ์จะเป็นแหล่งผลิตสมุนไพรปลอดสารได้อีกจำนวนมาก และจะสามารถเป็นทั้งแหล่งผลิตและแหล่งท่องเที่ยวส่งผลต่อรายได้ของสมาชิกสหกรณ์ทั้งทางตรงและทางอ้อม
นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า จากความสำเร็จของโครงการบ้านพอเพียงเลี้ยงชีวิตสู้โควิด-19 ที่ได้มีการมอบพืชผักและสมุนไพร 7 ชนิดให้แก่เกษตรกรในปีที่ผ่านมา รวมทั้งสิ้นกว่า 3.7 ล้านต้น โดยมีฟ้าทะลายโจร รวมอยู่ด้วย และจากความต้องการต้นพันธุ์ฟ้าทะลายโจรของประชาชนมีปริมาณมาก
จึงได้สั่งการให้กองขยายพันธุ์พืชนำเมล็ดพันธุ์ฟ้าทะลายโจรมาเพาะขยายพันธุ์และต่อยอดสู่โครงการผลิตต้นพันธุ์ฟ้าทะลายโจรสนับสนุนการรักษาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ผ่านศูนย์ขยายพันธุ์พืชทั้ง 10 ศูนย์ ได้แก่ จังหวัดชลบุรี ตรัง นครราชสีมา นครศรีธรรมราช บุรีรัมย์ พิษณุโลก มหาสารคาม ลำพูน สุพรรณบุรี และอุดรธานี ทั้งนี้คาดว่าจะสามารถมอบต้นพันธุ์ฟ้าทะลายโจรให้แก่เกษตรกรและประชาชนทั่วไปได้ในช่วงสิ้นเดือนสิงหาคม 2564 โดยจะให้บริการศูนย์ละ 50,000 ต้น รวมจำนวนทั้งสิ้น 500,000 ต้น ทั้งนี้ทางกรมส่งเสริมการเกษตรจะแจ้งวันพร้อมให้บริการต้นพันธุ์ที่แน่นอนอีกครั้งหนึ่ง
นอกจากนี้ ในด้านการส่งเสริมการปลูกพืชสมุนไพร กรมส่งเสริมการเกษตรได้ส่งเสริมให้เกษตรกรรายย่อยรวมกลุ่มกันเป็นแปลงใหญ่ ภายใต้โครงการระบบส่งเสริมเกษตรแบบแปลงใหญ่ มาตั้งแต่ปี 2559 โดยมีกลุ่มแปลงใหญ่พืชสมุนไพร จำนวนทั้งสิ้น 37 แปลง ใน 22 จังหวัด เกษตรกร 1,565 ราย รวมพื้นที่จำนวน 7,913 ไร่ โดยแปลงใหญ่สมุนไพรจะมีตลาดรองรับที่แน่นอน ทั้งแบบมีข้อตกลงล่วงหน้ากับผู้รับซื้อ และจำหน่ายผ่านตลาดเกษตรกร เว็บไซต์ตลาดเกษตรออนไลน์ ตลาดในท้องถิ่น ตลาดขายส่ง และตลาดส่งออก
ทั้งนี้ ทางกรมจะจัดทำคู่มือการปลูกเพื่อแจกจ่ายให้กับเกษตรกรได้นำไปใช้ประโยชน์ได้ประมาณสิ้นเดือนกรกฎาคมนี้
รวมทั้งยังมีแปลงใหญ่สมุนไพร จำนวน 6 แปลงที่มีการจัดทำ MOU กับโรงพยาบาลที่มีการผลิตยาสมุนไพร ได้แก่
- แปลงใหญ่สมุนไพรทับทิมสยาม 05 ตำบลคลองไก่เถื่อน อำเภอคลองหาด จังหวัดสระแก้ว ทำ MOU ส่งวัตถุดิบสมุนไพรแห้ง กับโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร
- แปลงใหญ่สมุนไพร หมู่ 4 ตำบลโคกจาน อำเภอตระการพืชผล จังหวัดอุบลราชธานี MOU ส่งวัตถุดิบสมุนไพรสด กับโรงพยาบาลตระการพืชผล
3.แปลงใหญ่สมุนไพร หมู่ 5 ตำบลพนา อำเภอพนา จังหวัดอำนาจเจริญ ทำ MOU ส่งวัตถุดิบสมุนไพรสด กับโรงพยาบาลพนา
- แปลงใหญ่สมุนไพร หมู่ 4 ตำบลเขาวงกต อำเภอแก่งหางแมว จังหวัดจันทบุรี ทำ MOU ส่งวัตถุดิบสมุนไพรแห้ง กับโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร
- แปลงใหญ่สมุนไพรบ้านโนนธาตุ ตำบลพนา อำเภอพนา ทำ MOU ส่งวัตถุดิบสมุนไพรสด / แห้ง กับโรงพยาบาลพนา และ 6. แปลงใหญ่สมุนไพรตำบลหนองตอกแป้น ตำบลหนองตอกแป้น อำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์ ทำ MOU ส่งวัตถุดิบสมุนไพรแห้ง กับโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร
ปัจจุบันมีเกษตรกรรวมตัวเป็นวิสาหกิจชุมชนผู้ปลูกและแปรรูปสมุนไพรกว่า 3,000 กลุ่ม โดยกรมส่งเสริมการเกษตรได้เข้าไปส่งเสริมให้วิสาหกิจชุมชนเหล่านี้มีการวางแผนการผลิต เน้นกระบวนการผลิตและแปรรูปที่ถูกต้อง ปลอดภัย และได้รับการรับรองมาตรฐานต่าง ๆ ได้แก่ GAP อย. GMP เกษตรอินทรีย์ และ HACCP รวมถึงการพัฒนากล่องบรรจุภัณฑ์ เพื่อสร้างมูลค่าสินค้าและตีตลาดกลุ่มผู้บริโภครุ่นใหม่ ด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีรูปลักษณ์สวย ทันสมัย โดยสินค้าจากวิสาหกิจชุมชน ประกอบไปด้วยสินค้าทั้งประเภทอุปโภค เช่น ลูกประคบสมุนไพร แชมพู สบู่สมุนไพร ผงขัดผิว ครีมทาผิว เป็นต้น และประเภทบริโภค เช่น น้ำสมุนไพร ขิงผง น้ำพริกสมุนไพร ข้าวเกรียบสมุนไพร เป็นต้น