ผลงานม็อบเถื่อน? เผยอาการ 4 ตำรวจหน้าสธ. ถูกการ์ดใช้อิฐทุบหัวสลบ-พบซี่โครงหัก มีรตอ.เจ็บด้วย!
จากกรณีที่เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2564 ไบร์ท ชินวัตร จันทร์กระจ่าง นัดมวลชนรวมตัวกันเพื่อเรียกร้องความชัดเจนเรื่องการจัดหาวัคซีนป้องกันโควิด-19 ต่ออนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข โดยขอให้อนุทินชี้แจงผ่านช่องทางใดก็ได้ภายในเวลา 17.00 น. แต่เมื่อครบกำหนดเวลายังไม่มีความชัดเจน ทำให้กลุ่มมวลชน ตั้งแนวเข้าไปที่หน้าประตูกระทรวงสาธารณสุข และได้เกิดเหตุชุลมุน โดยมีการผลักดันแนวตำรวจ ใช้เท้าถีบและเตะไปที่โล่ห์ของตำรวจ
จากนั้น ตำรวจได้จับกุม ไบร์ท ชินวัตร เข้าไปภายในกระทรวงสาธารณสุขพร้อมผู้ชุมนุมคนหนึ่ง และให้ตำรวจนอกเครื่องแบบวิ่งไปจับกุม ม่อน อาชีวะ ทำให้มวลชนวิ่งกรูเข้าทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ และได้มีการ์ดคนหนึ่ง ได้คว้าก้อนอิฐวิ่งเข้าไปหาตำรวจนายดังกล่าว แล้วทุบเข้าอย่างแรง ทำให้ตำรวจนายดังกล่าวนอนลงไปที่พื้น
ต่อมาทางด้าน พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 โดยมอบหมายให้ พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้แทนเพื่อตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจแก่ข้าราชการตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บจากการดูแลความสงบเรียบร้อย ในการชุมนุมทางการเมือง เมื่อวันที่ 16 ก.ค.64 ที่ผ่านมา ณ บริเวณด้านหน้ากระทรวงสาธารณสุข ได้เกิดเหตุกระทบกระทั่งจนมีข้าราชการตำรวจได้รับบาดเจ็บ จำนวน 4 นาย พักรักษาตัวอยู่ที่ ชั้น 11 อาคารมหาภูมิพลราชานุสรณ์ 88 พรรษา โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งมีรายละเอียด ดังนี้
1.ร.ต.อ.นิวัฒน์ นกพ่วง รองสารวัตรงานสืบสวน สถานีตำรวจภูธรบางศรีเมือง
2.ด.ต.สิทธิชัย ทรัพย์สมบูรณ์ ผู้บังคับหมู่งานสืบสวน กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธร จังหวัดนนทบุรี
3.ด.ต.เสถียร ฐานะ ผู้บังคับหมู่งานสืบสวน กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี
4.ส.ต.อ.ภูวนาท ตาวงษ์ ผู้บังคับหมู่งานสืบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองนนทบุรี
ภายหลังการตรวจเยี่ยมโฆษกสำนักงานตำรวจกล่าวว่า แพทย์ที่ทำการรักษามีความเห็นว่า ผู้ได้รับบาดเจ็บส่วนใหญ่ ถูกกระแทกด้วยของแข็งบริเวณ ศีรษะ หน้าอก และแขน โดยเฉพาะราย ด.ต.สิทธิชัยฯ ถูกกระแทกด้วยของแข็งที่ศีรษะ หน้าอก จนสลบไปประมาณ 1 นาที ผลตรวจเอ็กซ์เรย์ (X-RAY) พบว่าซี่โครงซี่ที่ 9 ด้านซ้ายหัก
ทั้งนี้ ผู้บังคับบัญชาได้ฝากความห่วงใยมายังข้าราชการตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 4 นาย โดยมอบเงินสวัสดิการของ ตร., เงินบำรุงขวัญด้านอื่นๆ ช่วยเหลือ และให้ทีมแพทย์ดูแลรักษาอาการอย่างใกล้ชิดต่อไป