“ในหลวง” พระราชทานความช่วยเหลือ เหยื่อไฟไหม้ โปรดเกล้าฯ พระราชทานเพลิงกรณีพิเศษให้ “น้องพอส” วีรบุรุษนักผจญเพลิง

2082

สืบเนื่องจากเหตุการณ์ไฟไหม้ครั้งใหญ่ กับโรงงานหมิงตี้เคมีคอล ในย่านกิ่งแก้ว สมุทรปราการ จนส่งผลให้เกิดแรงระเบิด และบ้านในละแวกนั้นล้วนได้รับความเสียหาย

ต้องสั่งอพยพประชาชนออกมาอย่างเร่งด่วน ซึ่งล่าสุด เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ แต่ก็จะมีการเฝ้าระวัง ระดมฉีดน้ำเพื่อลดอุณหภูมิต่อไป ทั้งนี้พบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก นักดับเพลิงเสียชีวิต 1 ราย และมีทรัพย์สิน บ้านเรือนเสียหายเป็นวงกว้างด้วยนั้น

 


โดยทางด้านพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้สั่งให้มีการสอบสวนสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้ และการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีกในอนาคตด้วย รวมทั้งในส่วนของการเยียวยา จะต้องดูจากประกันภัยของโรงงาน และขั้นตอนการเยียวยา ซึ่งทราบว่าทางโรงงานทำประกันภัยไว้ 3 ฉบับ และรัฐบาลจะเพิ่มเติมเข้ามาช่วยเหลือด้วย

นอกจากนี้ในเพจเฟซบุ๊กจิตอาสาพระราชทาน ได้เผยแพร่ข่าวดี ระบุว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระบรมราชโองการเหนือเกล้าเหนือกระหม่อม ดำรัสสั่งให้พระราชทานความช่วยเหลือพสกนิกรที่ได้รับความเดือดร้อนกรณีไฟไหม้โรงงานย่านกิ่งแก้ว โดยทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เร่งช่วยเหลือ ได้แก่ โรงครัวพระราชทาน ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ รับศพผู้เสียชีวิตไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ และพระราชทานเพลิงศพเป็นกรณีพิเศษ และสงเคราะห์งานศพผู้เสียชีวิตพระราชทานถุงยังชีพพระราชทาน อาหาร น้ำดื่ม เครื่องนุ่งห่ม เครื่องนอน ในเบื้องต้นเป็นการเร่งด่วน ในคืนนี้ 5 กรกฎาคม 2564

โดยตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่นำสิ่งของพระราชทานแปรงสีฟัน ยาสีฟัน ผ้าห่ม เต็นท์นอน แชมพู ผ้าขนหนู เสื่อ สบู่ ผ้าอนามัย ของใช้จำเป็น จำนวน 300 ชุด พร้อมเจลแอลกอฮอล์ จาก สำนักพระราชวัง 2,000 หลอด ไปที่ศูนย์อพยพราษฎร พื้นที่อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการแล้ว

สำหรับนักดับเพลิงผู้เสียชีวิต คือ นายกรสิทธิ์ ลาวพันธุ์ อายุ 19 ปี หรือ น้องพอส ธน 28-78 อาสาสมัครฯหน่วยสมเด็จเจ้าพระยา ธน 28-18 ฐานเทคโน โดยน้องพอส เข้าไปดับไฟเป็นชุดที่ 2 และถูกพบว่าโดนไฟคลอกอยู่ด้านใน โดยกำหนดการสวดพระอภิธรรมศพ “น้องพอส” จะจัดขึ้นวันแรกในวันที่ 6 ก.ค.64 เวลา 16.00 น. จะมีพิธีรดน้ำศพ ที่วัดทุ่งครุ ถนนประชาอุทิศ ต.ในคลองบางปลากด อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ และจะมีการฌาปนกิจในวันที่ 11 ก.ค. 64

นอกจากนี้ประธานหน่วยสมเด็จเจ้าพระยา ธน 28-00 ซึ่งฐานต้นสังกัดของ “น้องพอส” ได้เปิดใจกับสื่อหลายสำนักว่า ผู้เสียชีวิตเป็นเด็กดี ปกติแล้วคนที่จะมาสมัครเป็นอาสานักดับเพลิงได้นั้น จะต้องมีอายุ 18 ปีขึ้นไป ดังนั้นเมื่อน้องพอสอายุ 19 ปีบริบูรณ์ ในช่วงประมาณปลายปี 2563 น้องพอสก็เข้ามาขอสมัครทำหน้าที่อาสาดับเพลิงในช่วงธ.ค.63 เพราะอยากเดินตามรอยพี่ชายและคุณพ่อคุณแม่บุญธรรมที่เป็นอาสานักดับเพลิง ประกอบกับน้องพอสก็เคยบอกกับตนว่า การเป็นนักดับเพลิงคือความฝันในวัยเด็กของเขาอย่างหนึ่ง โดยปกติก่อนที่ตนจะรับใครสักคนจะเข้ามาเป็นอาสาสมัคร ก็จะสอบถามว่าทำไมถึงอยากมาอยู่ในจุดนี้ ตอนนั้น “น้องพอส” ตอบว่า “นี่คือความฝัน ถ้าผมเอาเวลาไปทิ้งเปล่าก็คงไม่เกิดอะไร ผมอยากเอาเวลาที่เหลือมาทำงานเพื่อช่วยเหลือคน และเวลาที่เกิดเหตุการณ์ไฟไหม้ความสูญเสียมันเยอะ จึงอยากเป็นนักดับเพลิง”

ที่ผ่านมาตลอดระยะเวลาการทำงานของ “น้องพอส” เกือบ 1 ปี น้องเป็นคนตั้งใจทำงานมาก เรียนรู้ทุกอย่างได้ดีและรวดเร็ว สามารถพัฒนาตัวเองได้ตลอด ไม่เคยทำงานด้วยความประมาท แก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ดี ทั้ง ๆ ที่การทำงานตรงนี้ไม่มีเงินเดือนด้วยซ้ำ จึงทำให้ผู้ใหญ่ไว้ใจ ให้ออกหน่วยไปทำงานประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ของงานทั้งหมด

 

 

 

ขอบคุณภาพ : จิตอาสาพระราชทาน