ช่างบังเอิญ? “พิธา” แจ้งได้รับอุบัติเหตุ นอนรพ. พลาดอภิปราย หลังนั่งกมธ. อยากหั่นงบ 65 ย้อนปีก่อนอ้างผ่าตัดต้นคอ อดเข้าสภา

2432

จากกรณีที่เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ (9 มิ.ย.) นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล (กก.) ได้ทวีตบนทวิตเตอร์ว่า เรียนประชาชนทุกท่าน เนื่องด้วยอุบัติเหตุ

ผมจึงต้องเข้าพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลตั้งแต่ช่วงเช้ามืดของวันจันทร์เป็นต้นมา เลยไม่สามารถเข้าประชุมทั้ง กมธ.งบประมาณและพิจารณา พ.ร.ก.เงินกู้ 5 แสนล้านได้ ถ้าผมออกจาก รพ.ได้เมื่อไหร่ สัญญาจะทำงานชดเชยเวลาที่เสียไปอย่างเต็มที่ครับ #ประชุมสภา

ในส่วนของข้อมูลที่ผมได้เตรียมไว้ในส่วนของ กมธ.งบประมาณ ทั้งหมดได้ถูกส่งให้เพื่อนสมาชิกพรรคก้าวไกลติดตามแทน รวมถึงเนื้อหาสำหรับการอภิปราย พ.ร.ก.เงินกู้ 5 แสนล้านของผมก็ส่งต่อให้เพื่อน ส.ส.พรรคก้าวไกลอภิปรายแทนเช่นกัน ฝากทุกท่านติดตามการอภิปรายของพรรค #ก้าวไกล ด้วยครับ


ทั้งนี้การเคลื่อนไหวของนายพิธา สืบเนื่องมาจากที่เจ้าตัวได้นั่งตำแหน่งกมธ.งบ 65 และได้ประกาศจุดยืนว่าต้องการหั่นงบ จัดสรรงบต่าง ๆ ให้เข้ากับสถานการณ์ประเทศ หลังรับลูกจากฝ่ายค้านมา และทางด้านนายเรืองไกร ได้ออกมาเตือนว่า การกระทำของนายพิธา เข้าข่ายผิดมาตรา 144 และอาจจะทำให้หลุดจากตำแหน่งกมธ.งบ 65 รวมทั้งถูกเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้ง

อย่างไรก็ตามยังพบข้อมูลด้วยว่า เมื่อปี 2563 นายพิธา ก็อวดว่าตนเองนั้นอดเข้าสภา อภิปรายเรื่องพรก.กู้เงิน เนื่องจากต้องผ่าตัดต้นคอที่บาดเจ็บมาเรื้อรัง โดยครั้งนั้นนายพิธาได้โพสต์ข้อความเมื่อ 26 พ.ค.63 ผ่านเฟซบุ๊ก Pita Limjaroenrat – พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ระบุว่า ขอเป็นกำลังใจให้เพื่อนผู้แทนราษฎรทุกคนทำหน้าที่อย่างสุดความสามารถ ผมจะกลับมาในเร็ววัน

ผมจำเป็นต้องประกาศให้ทราบว่า ปัญหาการบาดเจ็บเรื้อรังมาเป็นเวลานานที่บริเวณต้นคอได้ทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น และจากการปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญหลายท่าน ได้ลงความเห็นว่าจำเป็นต้องเตรียมตัวเข้ารับการผ่าตัดและพักฟื้นร่างกายในทันที ดังนั้น ตั้งแต่วันพุธที่ 27 พฤษภาคม 2563 เป็นต้นไป ผมจะไม่สามารถเข้าสภาพร้อมกับเพื่อน ส.ส. พรรคก้าวไกลทุกคน ผมรู้สึกเสียดายและเสียใจที่ไม่สามารถเข้าไปทำหน้าที่ผู้แทนของพี่น้องประชาชนในวาระเปิดสมัยประชุมสภานี้ได้ ทั้งนี้เมื่อผมพักฟื้นและอาการหายดีขึ้น จะกลับมาทำหน้าที่ผู้แทนราษฎรและหัวหน้าพรรคก้าวไกลอย่างเต็มที่อีกครั้ง

ซึ่งทั้ง 2 เหตุการณ์ได้เกิดขึ้นในช่วงที่มีการอภิปรายงบถึง 2 ครั้ง จนถูกมองว่าเป็นเรื่องบังเอิญ และครั้งล่าสุดเพิ่งมีประเด็นที่นายเรืองไกร ตักเตือนให้คำแนะนำว่ากำลังจะมีความผิด นายพิธาก็ไม่ได้เข้าร่วมอภิปรายงบ 65 ด้วย