จากกรณีศาลจังหวัดมุกดาหาร ได้อนุมัติหมายจับ นายไชย์พล วิภา หรือ ลุงพล ผู้ต้องหาในคดีการเสียชีวิตของ “น้องชมพู่” เลขหมายจับที่ 53/2564 ลงวันที่ 1 มิถุนายน 2564 นั้น
โดยระบุในข้อหา ประกอบด้วย พรากเด็กอายุไม่เกินสิบห้าปี ไปเสียจากบิดามารดา โดยปราศจากเหตุอันควร, ทอดทิ้งเด็กอายุไม่เกินเก้าปี เพื่อให้เด็กนั้นพ้นไปเสียจากตน โดยประการที่ทำให้เด็กนั้นปราศจากผู้ดูแล เป็นเหตุให้เด็กถึงแก่ความตาย
และกระทำการใดๆแก่ศพหรือสภาพแวดล้อมในบริเวณที่พบศพ ก่อนการชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้น ในประการที่น่าจะทำให้การชันสูตรพลิกศพหรือผลทางคดีเปลี่ยนแปลงไป
ขณะที่ บอล ธนวัฒน์ วงค์ไชย นักเคลื่อนไหวทางการเมืองและแกนนำกลุ่มวิ่งไล่ลุง ได้ออกมาโพสต์ข้อความลงในทวิตเตอร์ถึงกรณีการออกหมายจับ ลุงพลว่า
“ปล่อยข่าว #น้องชมพู่ มาตอนสภากำลังพิจารณางบรายจ่าย 3.1 ล้านล้านบาท พอดี
อยากจะแหมให้ถึงดาวอังคาร”
ต่อมา บอล ธนวัฒน์ ได้แชร์ข้อความของตนเองจากทวิตเตอร์มาโพสต์ลงในเฟซบุ๊กจากกรณีออกหมายจับคดีลุงพล โดยโยงมาถึงเรื่องสภาฯอภิปรายพรบ.งบประมาณว่า
“ตามข่าวลุงพลได้ แต่อย่าลืมตามการประชุมสภา ที่กำลังพิจารณาเงินภาษีของเราทุกคนด้วยนะครับ งบสาธารณสุขถูกตัด งบการศึกษาถูกตัด งบสวัสดิการประชาชนถูกตัด แต่งบเสริมสร้างกองทัพ จัดหาอาวุธยุทโธปกรณ์หลับเพิ่มขึ้นในยามมหาวิกฤตโควิดครับ ฝากตามประชุมสภาด้วยนะครับ”
อย่างไรก็ตามหลังจากข้อความของบอล ธนวัฒน์ เผยแพร่ออกไป ทำให้มีคนเข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก และงบางรายถึงกับหลงคิดคล้อยตามว่าการออกหมายจับคดีลุงพล เป็นการปล่อยข่าวของรัฐบาลเพื่อหวังกลบข่าวการอภิปรายงบประมาณของสภาฯ เช่น
“สำนักข่าวก็อ่ะนะ รวมใจไทยช่วยชาติเลยมึ… เรื่องสาระแนนี่เสนอจังข่าว ข่าวใหญ่ๆสำคัญๆเสือ…ไม่พากันพูดถึง
คือไม่ได้เข้าข้างลุงพลนะ แต่ปล่อยข่าวมาช่วงนี้ มันคือแผนเบียงเบนโคตรดี
รู้ทันอีกละ เขิลเลย
โคตรจะไม่เนียนในการเบี่ยงประเด็นมาก
นี่แหละที่น่ากลัว เอาข่าวลุงพล มากลบข่าวสำคัญของชาติ”