จับโป๊ะ “ผอ.ททบ.5” อยากเป็นกลาง ชนวนเหตุตัดสัญญาณท็อปนิวส์? ใครใคร่กลัว (ความ) เอียง
จากกรณีที่มีรายงานข่าวแจ้งว่า รายการข่าว “เที่ยง ททบ.5” ออกอากาศทางสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง 5 (ททบ.5) ดำเนินรายการโดย น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก และ น.ส.กิตติมา ธารารัตนกุล พบว่าเมื่อเวลา 12.51 น. ขณะที่ น.ส.อัญชะลีกำลังนำเสนอข่าวเกี่ยวกับสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน ปรากฏว่าถูกตัดสัญญาณเข้าโฆษณา โปรโมตรายการของทางสถานีแบบกะทันหัน ประมาณ 8 นาที ก่อนจะตัดเข้ามายังรายการปกติเวลา 12.59 น. กลายเป็นที่งุนงงแก่คนดูเป็นจำนวนมาก
มีกระแสข่าวว่า บริษัท กาแลคซี่ มัลติมีเดีย คอร์ปอเรชั่นฯ แจ้งมาทางผู้อำนวยการฝ่ายข่าว ททบ.5 ว่า ขอถอนตัวจากการร่วมผลิตข่าวทั้งหมด โดยมีผลสิ้นเดือนนี้ (31 มี.ค.) จากที่ก่อนหน้านี้เคยเซ็นสัญญาร่วมผลิตรายการข่าวกับ ททบ.5 เป็นเวลา 7 ชั่วโมงต่อวัน โดยเบื้องต้นมีอายุสัญญา 1 ปี
ต่อมาทางด้าน นายสุวิพันธุ์ ภรณวลัย ได้ดพสต์ข้อความถึงกรณีดังกล่าวว่า ท็อปนิวส์ ทำสัญญากับช่อง ททบ.5 ผูกกัน 1 ปี โดย ท็อปนิวส์ ได้เวลา ในช่องททบ.5 ในช่วงข่าว และรายการ ประมาณ 7 ชม.ต่อวัน



โดยเฉพาะปัจจุบันที่มีการสร้างข่าวปลอม หรือเฟกนิวส์ที่แพร่หลายในขณะนี้ โดยมีการนำมาเป็นสงครามข่าวปลอม จนนำไปสู่ความสับสนของประชาชน และยังมีผลกระทบต่อประชากรในโลกในวงกว้างหากไม่มีการรับรู้ข่าวสารที่ถูกต้องอย่างจริงแท้
ทีมผู้บริหาร ททบ. พร้อมให้ความร่วมมือและความเท่าเทียมกับรัสเซีย ในการเสนอข่าวตามข้อเท็จจริง นอกเหนือจากที่ทาง ททบ.5 รับข่าวสารสถานการณ์ต่างประเทศจากสำนักข่าวต่างประเทศอย่างรอยเตอร์เพียงฝ่ายเดียว โดยให้ความเท่าเทียมกับรัสเซียด้วยเพื่อให้ประชาชนคนไทยทราบข่าวที่ถูกต้องครบทุกด้าน ทั้งมิติด้านประวัติศาสตร์และเหตุการณ์ปัจจุบัน รวมทั้งจะร่วมมือกันส่งเสริมแลกเปลี่ยน นำเสนอข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยวและการเกษตร ที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนได้อย่างถูกต้อง
ต่อมาเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2565 สถานีโทรทัศน์กองทัพบก หรือ ททบ.5 แจ้งสื่อมวลชนขอยกเลิกการแถลงข่าวของพลเอกรังษี ที่เดิมจะชี้แจงกรณีการลงนามความร่วมมือด้านการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารของสำนักข่าว จาก 3 ประเทศ คือ รัสเซีย, จีน และอิหร่าน เวลา 14.00 น.
ทั้งนี้ ไม่ได้ให้เหตุผล ว่าทำไมจึงยกเลิกการแถลงข่าวดังกล่าว แต่มีรายงานข่าวว่า พล.อ.รังษีมีกำหนดที่จะไปพบหารือกับเอกอัครราชทูตยูเครน ประจำประเทศไทย
โดยมีรายงานว่า นายโอเลกซานเดอร์ ดีซัก อุปทูตสถานเอกอัครราชทูตยูเครนประจำประเทศไทย ยืนยันมาว่ามีผู้บริหารระดับสูงจากสถานีโทรทัศน์ ททบ.5 ได้มาพบและหารือถึงการแลกเปลี่ยนข่าวสารกับสื่อมวลชนยูเครน ประเด็นที่ยูเครนถูกรุกราน
“เราตกลงที่จะเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่เป็นข้อเท็จจริงเกี่ยวกับความก้าวร้าวของรัสเซีย และทางช่อง 5 จะเผยแพร่ในทันที เราหวังว่าพวกเขาจะเห็นถึงจุดยืนและข้อเท็จจริงเกี่ยวกับยูเครน และทางช่อง 5 สัญญาว่าจะรายงานข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสงครามในยูเครน”
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดวันนี้ (28 มีนาคม 2565) พลเอกรังษี ได้ออกมาชี้แจงถึงกรณีดังกล่าวว่า การตัดสัญญาณรายการเที่ยง ททบ.5 กลางอากาศนั้น เนื่องจากยังคุยกันไม่ลงตัว เพราะยังมีการนำเสนอข่าวเกี่ยวกับสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน ทั้งที่มีคำสั่งให้งดการนำเสนอข่าวไว้ก่อน โดยมองว่าตอนนี้ข่าวสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน ในแง่ปฏิบัติการทางทหารไม่น่าสนใจแล้ว ไม่ได้สนใจว่าใครจะแพ้หรือชนะ แต่สนใจผลกระทบที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ จึงได้มีการหารือกันว่าจะนำเสนอข่าวในแง่ของผลกระทบจากสงครามเท่านั้น
เมื่อถามว่า คำสั่งให้ ททบ.5 งดการนำเสนอข่าวเกี่ยวกับสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครนนั้น เป็นคำสั่งจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหมหรือไม่ พล.อ.รังษีเลี่ยงที่จะตอบคำถามนี้ ระบุว่า “เอาเป็นว่าเราได้รับทราบว่ามีข้อห่วงใยว่าเรื่องนี้มันละเอียดอ่อน จึงได้งดการนำเสนอข่าวไปก่อน คนเรานั้น คนรักเท่าผืนหนัง คนชังเท่าผืนเสื่อ แล้วพอเราล้ม ก็มีคนคอยเหยียบซ้ำ เรื่องธรรมดา แต่เราต้องทำหน้าที่ของเราต่อไปให้ดีที่สุด”