จากที่จตุพร จุดพลุเปิดประเด็นมาหลายวัน ในการนัดคนทุกสีมารวมวันที่ 4 เมษา เพื่อไล่พล.อ.ประยุทธ์ แต่ขณะเดียวกันก็โดนหลายฝ่ายมองว่า เป็นม็อบที่จุดไม่ติด แกนนำไม่มีชื่อ ไร้ราคา แม้กระทั่งณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ คนเคยรักก็ยังเท!!!
ล่าสุดวันนี้ 3 เมษายน 2564 นายนพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) เปิดเผยถึงผลสำรวจภาคสนาม เรื่อง ม็อบ 4 เมษา กับ ความกังวลประชาชน กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ โดยดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ และการวิจัยเชิงคุณภาพ จำนวน 1,081 ตัวอย่าง ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 29 มีนาคม – 2 เมษายน 2564 ที่ผ่านมา พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 96.8 ระบุม็อบ 4 เมษายน ทำเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวและเพื่อแหล่งทุนจากต่างประเทศ และส่วนใหญ่หรือร้อยละ 96.5 ระบุม็อบ 4 เมษายน จะสร้างความเสียหายต่อประเทศชาติและทำลายความปกติสุขของประชาชน
ทั้งนี้ ผลสำรวจระบุ ที่น่าเป็นห่วงคือ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 95.3 ระบุ ม็อบ 4 เมษายน เป็นม็อบต่อรองของคนต้องคดีต่างๆ ใช้ม็อบเป็นอาวุธ ในขณะที่ร้อยละ 93.2 ระบุ ม็อบ 4 เมษายน ม็อบตู่ ม็อบเต้น เกี่ยวโยงกับคนแดนไกล ร้อยละ 91.9 ระบุ ม็อบ 4 เมษายน ต้องการให้เกิดการสูญเสีย เหมือนในพม่า และร้อยละ 91.6 ระบุ ม็อบ 4 เมษายน ม็อบตู่ ม็อบเต้น มีขบวนการเบื้องหลังจะล้มล้างสถาบันหลักของชาติอยู่
ขณะผลสำรวจที่น่าพิจารณาคือ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 94.5 เห็นด้วยให้ สภาฯ ใช้กลไกจัดการ ส.ส. หนุนม็อบ ทำความเสียหายเกิดขึ้นในบ้านเมืองกระทบความรู้สึกศรัทธา จงรักภักดีของประชาชน สั่นคลอนสถาบันหลักของชาติ ในขณะที่ร้อยละ 5.5 ไม่เห็นด้วย นอกจากนี้ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 95.1 ระบุ ม็อบ 4 เมษายน ทำลายโอกาสของประเทศและทำลายความหวังของประชาชน ฟื้นฟูเศรษฐกิจท่องเที่ยวช่วงเปิดประเทศเดือนกรกฎาคม ในขณะที่ร้อยละ 4.9 ระบุไม่ทำลาย อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 96.3 กังวลต่อม็อบ สร้างเงื่อนไขความรุนแรงบานปลายและการสูญเสีย ในขณะที่ร้อยละ 3.7 ไม่กังวล
ทั้งนี้ยังมีท่าทีของ ผอ.ซูเปอร์โพล ที่กล่าวด้วยว่า ประชาชนกำลังซวยทั้งขึ้นทั้งล่อง มันก็แย่ขาลงอยู่แล้ว ม็อบ 4 เมษายน กำลังจะทำให้ขาขึ้นซวยไปอีก เราต้องคิดถึงภาพใหญ่ว่า แกนนำม็อบต้องช่วยทำให้ประชาชนมีความสุขไม่ใช่มาเลือกทำจังหวะที่เศรษฐกิจกำลังขาขึ้นกำลังจะเปิดประเทศรับธุรกิจท่องเที่ยวและอื่น ๆ ให้ซวยไปอีก
“การเคลื่อนไหวม็อบของณัฐวุฒิฯ และ จตุพรฯ ที่เคยทำในอดีตเคยทำให้ประเทศชาติดีขึ้นหรือไม่ ขอให้ทุกคนมองไปที่ผลลัพธ์ที่ประเทศชาติและประชาชนได้รับในอดีตที่ทั้งสองท่านนี้เคยทำ หรือทั้งสองท่านนี้จะเอาบทเรียนในอดีตมาทำให้เลวร้ายกว่าอดีตที่เคยทำ หรือว่าทั้งสองท่านจะรอเวลาให้ประชาชนทั้งประเทศพ้นทุกข์ช่วงนี้ไป เวลานี้จึงเป็นเวลาที่ต้องให้ประชาชนลืมตาอ้าปากได้” ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าว
อย่างไรก็ตาม ผอ.ซูเปอร์โพล มีข้อเสนอแนะต่อคน 3 กลุ่มคือกลุ่มแรกคือ รัฐบาล ที่ต้องเร่งเอาผลงานจับต้องได้เห็นกันชัด ๆ ในทุกมิติเศรษฐกิจ สังคมและการเมือง ออกมาเสริมสร้างการรับรู้ ความเข้าใจและความเชื่อมั่นของประชาชน
กลุ่มที่สอง คือ หน่วยงานรัฐเกี่ยวข้องม็อบ ตำรวจและฝ่ายปกครอง ต้องเข้าถึงข้อมูลม็อบกลุ่มย่อย ๆ ในกลุ่มใหญ่เพราะม็อบมาจากหลากหลายกลุ่มหลากหลายความต้องการและรีบหยอดปัจจัยให้ตรงความต้องการของแต่ละกลุ่มย่อยจะส่งผลให้พลังของม็อบลดลง และท่องคาถาไว้ว่าไม่ใช้ความรุนแรงแต่จะกวาดให้เรียบตามกฎหมายทุกมาตรากับแกนนำม็อบ และบอกชาวบ้านว่า บ้านเมืองจะอยู่ไม่ได้ถ้าใช้กฎหมู่เหนือกฎหมาย
นอกจากนี้ นายนพดล ยังกล่าวอีกว่า กลุ่มที่สามคือ กลุ่มม็อบ 4 เมษายน จะประสบความสำเร็จระดมคนออกมาถ้าออกมาแสดงปัญญา (Wisdom) ให้เห็นว่ามีกึ๋นในการฟื้นฟูเศรษฐกิจประเทศ มากกว่าท่องคาถาแค่ว่า ประยุทธ์ออกไป เพราะถ้าทำได้แค่นี้เด็ก ๆ ก็ทำกัน หรือจะพาประชาชนทั้งประเทศหลงทางไปสู่ความวุ่นวายรุนแรงบานปลายเหมือนพม่า คำถามคือ กว่า 10 ปีผ่านมา ม็อบตู่ ม็อบเต้น จะทำได้เหมือนเดิมแค่นั้นหรือ ปัญญาที่แกนนำได้มาต้องเป็นปัญญาที่ไม่ซ้ำเติมวิกฤตชาติและไม่ซ้ำเติมความเดือดร้อนทุกข์ยากของประชาชน