เปิดเบื้องลึก “ธนาธร” ไปพบ “ไผ่ ดาวดิน” ที่สระบุรี หนุน 3 ข้อเรียกร้อง ยกเลิกม.112 หลังรู้ผลแพ้เลือกตั้งสท.!?! 

7667

เปิดเบื้องลึก “ธนาธร” ไปพบ “ไผ่ ดาวดิน” ที่สระบุรี หนุน 3 ข้อเรียกร้อง ยกเลิกม.112 หลังรู้ผล แพ้เลือกตั้งสท.!?!

จากกรณีที่เมื่อวานนี้ (28 มีนาคม 2564) ตำรวจกองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน หรือ อคฝ. 3 กองร้อยได้เข้าขอคืนพื้นที่ หมู่บ้านทะลุฟ้า บริเวณซอยสะพานชมัยมรุเชฐ ข้างทำเนียบรัฐบาล โดยอ้างอำนาจของพรก.ฉุกเฉินฯ  ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบนานกว่า 1 ชั่วโมง ยืนยันพบยาเสพติดและอาวุธ รวมไปถึงมีสิ่งผิดกฎหมายอื่นๆอีก จึงทำให้มีผู้ที่ถูกควบคุมตัว มีประมาณ 70 คน มีทั้งประชาชน นักศึกษา และพระสงฆ์ 2 รูป ซึ่งทั้งหมดถูกคุมตัวไปยัง ตชด.ภาค 1

ล่าสุด นายธนาธร จึงรุ่งเรือกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ได้ออกมาพูดถึงกรณีที่กลุ่มผู้ชุมนุมหมู่บ้านทะลุฟ้า ถูกเจ้าหน้าที่จำกุม พร้อมทั้งเรียกร้องให้รัฐหยุดดำเนินคดีกับผู้ชุมนุมทุกคน โดยบอกว่า หยุดดำเนินคดีกับชาวหมู่บ้านทะลุฟ้าทุกคน รัฐต้องรับฟัง ไม่ใช่ตั้งตัวเป็นศัตรูกับประชาชน

การสลายการชุมนุมและจับกุมดำเนินคดีผู้ชุมนุมในหมู่บ้านทะลุฟ้า ข้างทำเนียบรัฐบาล เป็นการกระทำที่รัฐล้ำเส้นประชาชนอย่างชัดเจนที่สุด ผมติดตามกิจกรรมเดินทะลุฟ้า ระยะทาง 247.5 กิโลเมตร จากโคราชถึงกรุงเทพฯ ด้วยความชื่นชมมาตั้งแต่ต้น ว่านี่คือหนึ่งในรูปแบบการแสดงออกที่สันติ แต่หนักแน่นทรงพลังของประชาชน ที่ต้องการส่งเสียง ส่งข้อเรียกร้องให้ได้ยินไปถึงรัฐบาล และผมเองยังได้เคยแวะไปให้กำลังใจไผ่ ดาวดิน และเพื่อนร่วมทางของเขา ตอนที่ขบวนเดินทะลุฟ้าเดินทางมาถึงที่สระบุรี ผมยืนยันกับไผ่ว่าผมเห็นด้วยและพร้อมสนับสนุนข้อเรียกร้องของชาวเดินทะลุฟ้าทั้ง 3 ข้อ คือ
1.ปล่อยตัวเพื่อนเรา ที่เป็นแกนนำและแนวร่วม ผู้ถูกคุมขังโดยไม่ได้รับสิทธิประกันตัว
2.เขียนรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่ยืนยันว่าอำนาจสูงสุดเป็นของประชาชน
3.ยกเลิกกฎหมายอาญามาตรา 112
ทั้งนี้ หมู่บ้านทะลุฟ้า ซึ่งเป็นกิจกรรมต่อเนื่องจากการเดินทะลุฟ้า ปักหลักค้างแรมที่ข้างทำเนียบรัฐบาลมาตั้งแต่วันที่ 13 มีนาคมที่ผ่านมา ตลอดเวลาที่ผู้ชุมนุมอยู่ที่นั่น มีแต่กิจกรรมที่สงบ สันติ อาทิ การเสวนาวิชาการ การแสดงผลงานศิลปะ แฟชั่นโชว์ และกิจกรรมอื่นๆ เพื่อสนับสนุนสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกของประชาชน ที่เชื่อในหลักการคนเท่ากัน ซึ่งตามหลัก เจ้าหน้าที่ไม่มีความชอบธรรมใดๆ ที่จะสลายการชุมนุมอย่างแน่นอนไม่ว่าในทางใด
เหตุการณ์ที่เจ้าหน้าที่ใช้กำลังเข้าสลายการชุมนุมหมู่บ้านทะลุฟ้าเมื่อเช้าตรู่ที่ผ่านมา โดยใช้โอกาสในวันที่พี่น้องประชาชนจำนวนมากกลับภูมิลำเนาไปใช้สิทธิเลือกตั้งผู้บริหารและสมาชิกสภาเทศบาลในท้องถิ่นของตัวเอง โดยที่ปฏิบัติการสลายการชุมนุมของเจ้าหน้าที่รัฐครั้งนี้ มีการจับกุมผู้ชุมนุมไปไว้ที่กองบังคับการตชด. ภาค 1 ถึง 70 คน ในจำนวนนี้รวมถึงมีการจับกุมเยาวชนด้วย โดยอ้างพ.ร.บ. โรคติดต่อ และพ.ร.ก.ฉุกเฉินที่ใช้ในการควบคุมโควิด จึงเป็นการกระทำที่ไม่อาจยอมรับได้ เป็นการละเมิดต่อสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกทางการเมืองของประชาชนที่ได้รับการคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญ และยังตอกย้ำให้สังคมเห็นว่า รัฐบาลนี้ไม่พร้อมที่จะเจรจา รับฟังข้อเรียกร้องแห่งยุคสมัย ไม่เหลือพื้นที่ให้กับการแสดงออกตามสิทธิเสรีภาพของประชาชน แม้ว่าการชุมนุมจะสงบสันติเพียงใดก็ตาม
ผมขอประณามรัฐบาลและผู้สั่งการสลายการชุมนุม รวมทั้งเรียกร้องให้ยุติการควบคุมตัวซึ่งเป็นไปโดยมิชอบด้วยกฎหมาย และยุติการดำเนินคดีต่อพวกเขาทั้งหมด โดยผู้ชุมนุมต้องสามารถกลับมาทำกิจกรรมที่หน้าทำเนียบรัฐบาลได้ตามสิทธิเสรีภาพที่มีในฐานะประชาชนคนไทย
ผมย้ำด้วยว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต้องหยุดมองประชาชนเป็นศัตรู หยุดใช้อำนาจบาตรใหญ่โดยอ้างเรื่องการรักษาความสงบและควบคุมโรคระบาด ประเทศไทยวันนี้ ต้องการผู้นำที่มีวุฒิภาวะ มีวิสัยทัศน์พอที่จะมองเห็นว่า หากผู้มีอำนาจไม่ยอมรับฟังเสียงเรียกร้องแห่งยุคสมัย ไม่ยอมเจรจาประนีประนอมกับประชาชน ประเทศชาติก็จะไร้ซึ่งอนาคต
อย่างไรก็ตาม หลายคนตั้งคำถามไปถึงนายธนาธรว่า การที่นายธนาธรออกมาปกป้องและเรียกร้องให้หยุดดำเนินคดีกับผู้ชุมนุมหมู่บ้านทะลุฟ้านั้น จากที่ตำรวจได้เข้าตรวจสอบและได้พบสิ่งผิดกฎหมายมากมาย ซึ่งข้อนี้นายธนาธรไม่เคยพูดถึง ซึ่งแสดงให้เห็นว่า นายธนาธรนั้น บิดเบือนข้อมูล ไม่พูดความจริง และอยู่เบื้องหลังการชุมนุมของกลุ่มหมู่บ้านทะลุฟ้า
อย่างไรก็ตาม ในวันที่หมู่บ้านทะลุฟ้า ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสลายซึ่งตรงกับวันที่มีการเลือกตั้งท้องถิ่น โดยนายธนาธร ซึ่งเป็นประธานกลุ่มก้าวหน้า ซึ่งน่าสังเกตว่าผู้สมัครเลือกตั้งจากทางกลุ่มก้าวหน้านั้น ไม่ได้รับเลือกตั้ง และยังมีคะแนนที่น้อยเป็นอันดับท้าย ๆ จากผู้สมัครท่านอื่น ๆ ยังมีรายงานอีกด้วยว่า หลายพื้นที่ไม่ว่าจะเป็นทั้งทางภาคเหนือ หรือ อีสาน ก็พบว่าคะแนนของตัวแทนจากกลุ่มก้าวหน้านั้นพ่ายแพ้ยับทุกจังหวัด