จากที่วันนี้ 20 กุมภาพันธ์ 2564 ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีการลงมติในญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล จำนวน 10 คน ซึ่งงานนี้สร้างความฮือฮาให้คอการเมืองไม่น้อย เพราะเหตุการณ์พลิกความคาดหมาย และเป็นไปตามความคาดหมายหลายประการ!!!
ทั้งนี้โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณี นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม จากพรรคภูมิใจไทย ที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาล แต่กลับไม่ได้รับความไว้วางใจจากส.ส.ฝั่งรัฐบาล โดยคะแนนจากผลโหวตที่ได้คือ ไม่ไว้วางใจ 201 ไว้วางใจ 268 งดออกเสียง 12 ไม่ลงคะแนนเสียง 1
สำหรับคะแนนไว้วางใจ 268 เสียง ต้องถือว่าน้อยหากเทียบกับจำนวนเสียงของฝ่ายรัฐบาลที่มีถึง 275 เสียง ถามว่าอีก 7 เสียงหายไปไหน และเมื่อเข้าไปดูที่จำนวนงดออกเสียงที่ไม่โหวตให้นายศักดิ์สยาม จำนวน 12 เสียงนั้น ปรากฏว่ามาจากฝั่งรัฐบาลโดยพรรคพลังประชารัฐถึง 6 เสียง
ต่อมา “วทันยา วงษ์โอภาสี” หรือ มาดามเดียร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ค “เดียร์ วทันยา วงษ์โอภาสี” ระบุถึงสาเหตุไม่ลงคะแนนไว้วางใจนายศักดิ์สยามว่า
“การที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฏร กลุ่มดาวฤกษ์ ใช้สิทธิ งดออกเสียง ในการลงคะแนน ญัตติไม่ไว้วางใจ รัฐมนตรีเป็นรายบุคคลกับรัฐมนตรี ท่านหนึ่ง ด้วยเหตุผลว่า ตลอดการอภิปราย และการชี้แจง 4 วัน (16-19 ก.พ.) ที่ผ่านมา ไม่พบคำชี้แจงที่ชัดเจนเพียงพอ ในการตอบคำอภิปรายของ พรรคฝ่ายค้าน และทำให้สังคมตั้งข้อกังขา
ข้อสงสัยในสองประเด็นหลักที่ยังไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจน คือ เรื่องการเปลี่ยน เงื่อนไข (TOR) และการล้มการประมูล โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม และ ข้ออภิปรายเรื่องการไม่ปกป้องหรือเรียกคืนที่ของการรถไฟแห่งประเทศไทย ในพื้นที่ เขากระโดง จังหวัดบุรีรัมย์
ทั้งสองประเด็นที่ยังไม่ได้รับคำตอบอย่างชัดเจน เป็นสองประเด็นที่ สองรัฐวิสาหกิจในการกำกับดูแลของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมโดยตรง คือ รฟท.และรฟม.
ส.ส. ในกลุ่มดาวฤกษ์ ได้พยายามอย่างที่สุดในการปฏิบัติตามมติพรรค ด้วยการไม่ลงคะแนนไม่ไว้วางใจ อย่างไรก็ตาม จำเป็นต้องปฏิบัติตามจิตวิญญาณ ความเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร ด้วยการ งดอออกเสียง
ส่วนผลที่จะเกิดขึ้นตามมาไม่หลังจากการลงมติ ครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นด้านใด ส.ส. ในกลุ่มทั้งหมด พร้อมน้อมรับ สิ่งที่จะเกิดขึ้น โดยถือว่าได้ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะผู้แทนปวงชน อย่างดีที่สุดแล้ว” มาดามเดียร์ ระบุในเฟซบุ๊ก
สำหรับ ส.ส.กลุ่มดาวฤกษ์ พรรคพลังประชารัฐ ประกอบด้วย 6 คน คือ 1. น.ส.วทันยา วงษ์โอภาสี ส.ส.บัญชีรายชื่อ 2. นายศิริพงษ์ รัสมี ส.ส.เขตหนองจอก 3. นางกรณิศ งามสุคนธ์รัตนา ส.ส.เขตคลองเตย-วัฒนา 4. น.ส.ภาดาท์ วรกานนท์ ส.ส.เขตราชเทวี-พญาไท-จตุจักร 5. น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ ส.ส.เขตบางกะปิ-วังทองหลาง 6. น.ส.ธณิกานต์ พรพงษาโรจน์ ส.ส.เขตดุสิต-บางซื่อ
อย่างไรก็ตามญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีของพรรคร่วมฝ่ายค้านต่อ นายศักดิ์สยาม ได้ระบุพฤติการณ์ไว้คือ บริหารราชการแผ่นดินโดยเห็นแก่ผลประโยชน์ของตนเองและพวกพ้อง โดยไม่คำนึงถึงผลเสียหายที่เกิดกับประเทศชาติและประชาชน เอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มทุนผูกขาดเพื่อให้มีสิทธิดำเนินงานในกิจการของรัฐ โดยไม่รักษาผลประโยชน์ของรัฐ ทุจริตต่อหน้าที่และปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริตในหน่วยงานที่ กำกับดูแลสมคบกันเพื่อปิดบังการทุจริต ไม่ยึดถือและปฏิบัติตามหลักการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี ฝ่าฝืนและไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง
นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายศักดิ์สยาม ถูกฝ่ายค้านอภิปรายเอื้อประโยชน์ในการประกอบธุรกิจให้กับบริษัทที่ประกอบธุรกิจดิวตี้ฟรี รวมถึงประเด็นที่ไม่ชอบมาพากลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขทีโออาร์ในการประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม หรือแม้แต่การที่กระทรวงคมนาคมมีความเห็นคัดค้านการต่อสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว โดยต้องการให้อายุสัมปทานหมดลงก่อนแล้วค่อยประมูลกันใหม่ ทั้งที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรงทั้งกทม. และกระทรวงมหาดไทย ได้พิจารณาแล้ว และคาดมีประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิส่วนต่อขยายด้วย
เช่นนี้เองที่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ลือกันในแวดวงคนการเมืองขณะนี้ว่า การงดออกเสียงของ6ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ นั่นเท่ากับว่า ไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีจากพรรคภูมิใจไทย ซึ่งทำให้มีการคาดการณ์ วิเคราะห์สถานการณ์ทางการเมืองว่า ทางภูมิใจไทยอาจถอนตัวจากการร่วมรัฐบาลกับพลังประชารัฐ และจะทำให้รัฐบาลล้มลงทันทีเพราะเสียงส.ส.ในสภาฯหายไปถึง 61 เสียง!!!