การเคลื่อนไหวต่อสู้เพื่อต่อต้านกองทัพเมียนมาและรัฐบาลเฉพาะกาล ได้เพิ่มความตึงเครียดเพิ่มขึ้น หลังจากทางการเมียนมาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน และตัดอินเตอร์เน็ตช่วงเวลากลางคืนติดต่อกัน ล่าสุดกลุ่มแฮกเกอร์ที่มีชื่อว่า “เมียนมาแฮกเกอร์” เข้าก่อกวนโจมตีเว็บไซต์ของทางการเมียนมาอย่างกว้างขวาง เพื่อเปิดฉากสงครามไซเบอร์ ทำลายระบบบริการของรัฐทุกชนิด ทางภาคการเงิน การธนาคาร สื่อโทรทัศน์ วิทยุ ตลอดถึงการคมนาคมขนส่ง ขณะทางการเมียนมารุกหนัก จับแกนนำเคลื่อนไหวต่อต้านทั้งในพรรคเอ็นแอลดีของซูจี กลุ่มเอ็นจีโอ ดารา นักร้องและผู้ประกอบอาชีพต่างๆที่ประกาศต่อต้านรัฐบาลใหม่
ในวันนี้ (18 ก.พ.2564) กลุ่มแฮกเกอร์ชื่อว่า เมียนมาแฮกเกอร์ โจมตีเว็บไซต์รัฐบาลในเมียนมา ขณะที่สงครามไซเบอร์อุบัติขึ้นหลังจากทางการสั่งปิดเครือข่ายอินเทอร์เน็ตเป็นเวลา 4 คืนติดต่อกัน
กลุ่มก่อกวนได้ถล่มเว็บไซต์ของรัฐบาลหลายเว็บฯ รวมถึงธนาคารกลาง หน้าโฆษณาชวนเชื่อของกองทัพเมียนมาร์ ช่องโทรทัศน์ทางการ เอ็มอาร์ทีวี การท่าเรือ และสำนักงานอาหารและยา
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นหนึ่งวันหลังจากประชาชนหลายหมื่นคนเดินขบวนทั่วประเทศเพื่อประท้วงการยึดอำนาจของกองทัพ โค่นล้มรัฐบาลพลเรือนของนางอองซานซูจี จากอำนาจเมื่อต้นเดือน
“เรากำลังต่อสู้เพื่อความยุติธรรมในเมียนมา” กลุ่มแฮกเกอร์ ระบุในหน้าเฟซบุ๊กว่า “มันเหมือนกับการประท้วงใหญ่ของประชาชนหน้าเว็บไซต์รัฐบาล”
ผู้เชี่ยวชาญความมั่นคงทางไซเบอร์ แมตต์ วอร์เรน จากมหาวิทยาลัยอาร์เอ็มไอทีของออสเตรเลีย กล่าวว่า เป้าหมายของการแฮกน่าจะเป็นการกระพือข่าวให้แพร่ออกไป “ประเภทของการโจมตีที่พวกเขากำลังกระทำอยู่คือการโจมตีเพื่อขัดขวางบริการหรือการล่มเว็บไซต์ ซึ่งเรียกกันว่า แฮกติวิสม์ (Hacktivism) ผลกระทบของมันจะค่อนข้างน้อย แต่สิ่งที่พวกเขาทำจะสร้างความตระหนักรู้มากขึ้น” การปิดกั้นอินเทอร์เน็ตเริ่มต้นในเมียนมาเมื่อเวลาประมาณตี 1 ของทุกวัน อ้างจาก NetBlocks กลุ่มสังเกตการณ์การล่มของอินเทอร์เน็ตทั่วโลกซึ่งมีฐานอยู่ในอังกฤษ พวกเขาระบุว่า การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตลดลงเหลือเพียงประมาณ 21 เปอร์เซ็นต์จากระดับเดิม
เมื่อวันที่ 18 ก.พ.2564 กองกำลังตำรวจเมียนมาได้ออกแถลงการณ์ประกาศการออกหมายจับศิลปินคนดัง 6 คน แบ่งเป็นผู้กำกับ 3 คน นักแสดง 2 คน และนักร้อง 1 คน ฐานสนับสนุนขบวนการอารยะขัดขืนและการหยุดงานประท้วงของพนักงานรัฐ ภายใต้ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 505 (เอ) ซึ่งอาจมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับ หรือทั้งจำทั้งปรับ
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ตำรวจเมียนมาได้ออกหมายจับศิลปิน บุคคลสาธารณะ และนักกิจกรรมทางสังคม รวม 7 คน ฐานเขียนบทความและข้อความบนสื่อสังคมออนไลน์อันอาจเป็นอันตรายต่อความสงบเรียบร้อยของประเทศ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
พนักงานรัฐบางส่วนเข้าร่วมการประท้วงต่อต้านรัฐบาลและกองทัพทั่วประเทศ หลังจากมีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในประเทศเป็นเวลา1 ปี นับตั้งแต่วันที่1 ก.พ.เป็นต้นมา
สภาบริหารแห่งรัฐ นำโดยพลเอกอาวุโส มิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของเมียนมา ออกประกาศต่อสาธารณชนเมื่อวันพุธ (17 ก.พ.) ปฏิเสธข้อกล่าวหาว่าพนักงานรัฐและผู้เกษียณอายุราชการจะไม่ได้รับค่าตอบแทน โดยสภาฯ รับรองว่าจะมีการจ่ายเงินเดือนและเงินบำนาญตามปกติ พร้อมเรียกร้องพนักงานรัฐปฏิบัติหน้าที่ต่อไป
ด้านกองทัพเมียนมาเปิดเผยว่าเว็บไซต์ทางการ 3 เว็บ ซึ่งดำเนินการโดยธนาคารกลางเมียนมา สำนักงานผู้บัญชาการทหารสูงสุดในสังกัดฝ่ายบริการป้องกันประเทศ และหน่วยงานข่าวสารของกองทัพเมียนมา ถูกกลุ่มแฮกเกอร์โจมตีและระงับการเข้าถึงในช่วงบ่ายวันพุธ 12 ก.พ.2564
สภาฯ เสริมว่าเว็บไซต์ของธนาคารกลางเมียนมากำลังถูกกู้คืน ขณะเว็บไซต์ของกองทัพทั้งสองเว็บกลับมาเข้าถึงตามปกติในไม่กี่ชั่วโมงหลังจากถูกโจมตีทางออนไลน์
เว็บไซต์อิรวดี รายงานว่า กองทัพเมียนมา เพิ่มความเข้มข้นในการกวาดล้างผู้ประท้วงต่อต้านในมัณฑะเลย์ขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่สถาบันกะนอง (Kanaung Institute) ซึ่งเป็นกลุ่มเอ็นจีโอที่ทำงานส่งเสริมประชาธิปไตยและการมีส่วนร่วมของประชาชนในการปกครอง ระบุว่า มีผู้บาดเจ็บมากกว่า 100 คน ในจำนวนนี้อาการสาหัส 10 คน
ก่อนหน้านี้ มีรายงานว่า ผู้ประท้วงได้ทำการปิดล้อมถนนหมายเลข 26 กับ 82 ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเล่นงานผู้ประท้วงด้วยกระบอง, หนังสติ๊ก และปืนลมอัดลมลูกตะกั่ว ที่อันตรายกว่ากระสุนยางหลายเท่า ซึ่ง “ทัน เมียะ โซ” ซีอีโอของสถาบันกะนอง บอกว่า ทหารไม่ใช้กระสุนจริง แต่ก็ยังคงใช้อาวุธที่อันตรายอยู่ดี
