ทะเลจีนใต้ น่านน้ำยุทธศาสตร์ของภูมิภาคเอเซีย-แปซิฟิก เดือดระอุแน่แล้ว เมื่อสหรัฐจีนปะทะกันเข้มข้นทั้งสงครามน้ำลาย และระเบิดอาวุธอวดแสนยานุภาพทางทหารข่มขู่กันไปมา ถี่เกือบทุกวันในระยะนี้ ใช้น่านน้ำทะเลจีนใต้เป็นจุดเสี่ยง ไม่ว่าใครจะเริ่มก่อนประเทศไทยและเพื่อนบ้านอาเซียนต้องรับผลกระทบอย่างยากจะหลีกเลี่ยง
สำนักข่าวต่างประเทศหลายแห่งรายงานว่า กองทัพจีนได้ยิงขีปนาวุธพิสัยกลาง 4 ลูกลงทะเลจีนใต้ (26 ส.ค.2563) โดยขีปนาวุธดังกล่าวตกลงในน่านน้ำระหว่างเกาะไหหลำกับหมู่เกาะพาราเซล บริเวณทะเลจีนใต้
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่จีนได้คัดค้านการที่สหรัฐส่งเครื่องบินสอดแนม (US. U-2 spy plane) ในพื้นที่ดังกล่าว และมีขึ้นหลังรัฐบาลสหรัฐได้ใช้มาตรการคว่ำบาตรกับบริษัทจีนที่มีส่วนช่วยในการสร้างเกาะเทียมในพื้นที่พิพาทนี้
สหรัฐ’คว่ำบาตรบริษัทจีนและบุคคล ที่มีส่วนร่วมปฏิบัติการในทะเลจีนใต้โดยขึ้นบัญชีดำบุคคลและบริษัทจีน ระบุว่ามีส่วนร่วมในการก่อสร้างและปฏิบัติการทางทหารของจีนในทะเลจีนใต้ กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐ ได้สั่งขึ้นบัญชีดำรัฐวิสาหกิจของจีน 24 แห่ง ส่วนใหญ่อยู่ในเครือของบริษัทการก่อสร้างการสื่อสารจีน ( ซีซีซีซี ) เพราะมีบทบาทมากที่สุดต่อการถมทะเลเพื่อก่อสร้างเกาะเทียม ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐประกาศว่า บุคคลสัญชาติจีนซึ่งเกี่ยวข้องกับบริษัทที่อยู่ในรายชื่อ จะถูกจำกัดในการออกวีซ่า
นับเป็นความเคลื่อนไหวล่าสุดของสหรัฐ และมีขึ้นในช่วงใกล้จะถึงวันเลือกตั้งของสหรัฐในวันที่ 3 พฤศจิกายน ซึ่งทั้งประธานาธิบดีโดนัลด์ทรัมป์ และนายโจ ไบเดน คู่แข่งต่างวิพากษ์วิจารณ์จีนอย่างมากเพื่อเรียกคะแนนนิยมจากประชาชนอเมริกัน
การตอบโต้ของจีนเกิดขึ้นหลังจากที่สหรัฐยกระดับการดำเนินนโยบายแบ่งแยก แล้วกดดันในทะเลจีนใต้ตั้งแต่ต้นเดือนก.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งบริเวณน่านน้ำแห่งนี้ ทั้งจีนและหลายชาติในเอเชียตะวันออกเฉียงได้ต่างอ้างสิทธิครอบครองพื้นที่ดังกล่าว ที่ผ่านมาจีนใช้นโยบายเจรจาผลประโยชน์ให้สมดุลเป็นวิถีนำ ทำให้น่านน้ำแห่งนี้อยู่กันด้วยความสงบมาโดยตลอด
นายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐระบุในแถลงการณ์คว่ำบาตรจีนว่า การระงับการออกวีซ่าจะพุ่งเป้าไปที่บุคคลที่ดูแลหรือมีส่วนร่วมในการอ้างสิทธิและการใช้อำนาจทางทหาร ในบริเวณพื้นที่หน้าด่านที่เป็นข้อพิพาทในทะเลจีนใต้ รวมถึงบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการบังคับให้ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เรียกร้องสิทธินั้น หยุดยั้งการเข้าถึงทรัพยากรนอกชายฝั่ง
พลเรือโทสก็อต ดี คอนน์ ประจำกองทัพเรือสหรัฐ แถลงชี้แจงเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของจีนต่อสื่อมวลชนว่า จีนยังคงมีสิทธิดำเนินการดังกล่าวหากเป็นไปตามกฎหมายระหว่างประเทศ อย่างไรก็ตาม สหรัฐพร้อมตอบโต้หากการกระทำดังกล่าวจะยกระดับเป็นภัยคุกคาม