จตุพรสาวไส้พท.เบิ้มๆ ทิ้งบุญเลิศติดคุก!แฉยับบางคนไปอนค.ก็ไม่เอา

4850

จากที่จตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวระหว่างหาเสียงช่วยนายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ ผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ในการเลือกตั้งอบจ.วันที่ 20 ธันวาคมนี้

“เพราะมีการสงสัยว่า เกิดอะไรขึ้นในพรรคเพื่อไทย เมื่อปี 2559-2560 ช่วงรณรงค์ประชามติไม่รับร่าง รธน. 2560 กระทั่งตระกูลบูรณุปกรณ์ คือ นายบุญเลิศ, น.ส.ทัศนีย์ และน้องสาวอีกคน ถูกจับติดคุกในค่ายทหาร มทบ. 11 แล้วโยกมาคุมขังที่เรือนจำแม่แตง เชียงใหม่

ทั้งนี้นายจตุพร กล่าวว่าตนมารู้ภายหลังขณะที่นายกบุญเลิศ ถูกขังอยู่นั้น พรรคการเมืองที่เคยสังกัด ซึ่งไม่เคยมีปัญหากันมายาวนาน แต่ได้ประกาศตัวไม่เป็นทางการว่าจะเอาอีกคนหนึ่งมาลงแทนในจังหวัดเชียงใหม่ ทั้งที่ติดคุกเหมือนสุสานคนเป็นแล้ว มีความยากลำบากที่สุด แต่อยู่ได้ด้วยกำลังใจ โดยความจริงแล้วพรรคเพื่อไทย ต้องปรบมือให้ ซึ่งเป็นหนี้ตระกูลบูรณุปกรณ์ เพราะทำตามเจตนารมณ์คือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ วันนั้นได้ข่าวว่าเปลี่ยนตัวแล้ว แต่ไม่กล้าประกาศอย่างเป็นทางการ

ในวันที่ 26 ก.ค. 2559 นายบุญเลิศ ถูกขังในค่ายทหาร มทบ. 11 โดยถูกกล่าวหาผิด พรบ.ประชามติ พร้อมผิดกฎหมายอาญา ม.116 ยุยงปลุกปั่น และที่หนักกว่าคือข้อหาอั้งยี่ซ่องโจร ทั้งๆที่แสดงเจตนารมณ์ไม่รับร่าง รัฐธรรมนูญ 2560 ช่วงนั้นพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ใช้อำนาจหัวหน้า คสช. ประกาศคำสั่ง ม.44 ให้นายบุญเลิศ หยุดปฏิบัติหน้าที่ นายก อบจ.เชียงใหม่ 2 ปี และตลอดช่วง 2 ปีนั้น ได้ต่อสู้คดี จนกลับมาปฏิบัติหน้าที่ นายก อบจ.อีกครั้ง

เมื่อนายบุญเลิศ รอดคดี พ้นจากข้อกล่าวหา กลับถูกบางคนใส่ร้ายป้ายสีอีกว่า รอดเพราะมีการสมยอมกัน ผมอยากบอกคนที่ตั้งข้อกล่าวหานี้ทุกคนว่า ในภายหลังคดีที่เกี่ยวข้องกับการทำประชามติศาลได้ยกฟ้องทั้งหมด แต่ยังถูกกล่าวหาอีกว่า มีการสมคบคิดกับพวกพลังประชารัฐ

นายบุญเลิศ ติดคุกอยู่ในเรือนจำนั้น พรรคเพื่อไทยกลับทอดทิ้ง ผลักออกจากพรรค และยังเป็นความเจ็บปวดซ้ำร้ายทบทวีด้วยการกล่าวหาเป็นพลังประชารัฐ จึงต้องช่วยกันคิดด้วยตรรกะเหตุผลว่า พล.อ.ประยุทธ์ เป็นหัวหน้า คสช. และถูกจับมาติดคุก ตั้งข้อหาหนัก ม.116 และอั้งยี่ซ่องโจร ถามว่า ยังคิดไปอยู่กับพลังประชารัฐอีกหรือ ที่ทำความเจ็บปวดที่สุดให้ชีวิตเช่นนั้น”

กรณีรูปภาพนายบุญเลิศถ่ายคู่กับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า นั้น นายจตุพร กล่าวว่า ยังไม่อาจนำมายืนยันได้ว่า นายบุญเลิศ ได้แปรพรรคไปอยู่ พปชร.แล้ว เพราะในทางการเมืองคนต่างพรรคต่างความคิดถ่ายรูปร่วมกันได้ตามมารยาทแสดงออกต่อสาธารณะ ซึ่ง ส.ส.พรรคเพื่อไทย ก็มีรูปภาพเช่นนี้มากมายแทบทั้งพรรคเช่นกัน ถึงที่สุดแล้ว เมื่อนายบุญเลิศ ถูกกล่าวหาหนักมากขึ้น ก็กลับมาตั้งกลุ่มเดิมคือ เชียงใหม่คุณธรรมที่ตั้งมาตั้งแต่ปี 2538 แล้ว

นอกจากนี้ ประธานนปช. ยังกล่าวอีกว่า ส่วนถามว่าตัวเองมีปัญหาอะไรกับพรรคเพื่อไทยหรือไม่ ตนพร้อมไปปราศรัยช่วยผู้สมัคร นายก อบจ.ของพรรคเพื่อไทยในทุกจังหวัดตามคำเชิญชวน แต่ยกเว้นเชียงใหม่ จังหวัดเดียวที่ตนไม่สามารถไปช่วยพรรคเพื่อไทยได้ เพราะเห็นว่าพรรคเพื่อไทยทำไม่ถูก ที่ทอดทิ้งคนติดคุกด้วยเหตุไม่รับร่าง รธน. 2560 ในขณะปัจจุบันประชาชนต่อต้าน รธน.2560 กันทั้งนั้น ดังนั้นพรรคเพื่อไทยต้องปรบมือให้นายบุญเลิศ แทนการผลักใสให้ไปพ้นพรรค

“ดังนั้น ในวันที่ 20 ธ.ค. นี้ ประชาชนชาวเชียงใหม่ควรช่วยกันคืนความเป็นธรรม ขอน้ำใจให้กับนายบุญเลิศ ผู้สมัครนายกอบจ. และส.อบจ.กลุ่มเชียงใหม่คุณธรรมทุกคนทุกพื้นที่

ขอประชาชนเชียงใหม่ ช่วยกันแสดงการยืนหยัดว่า พรรคการเมืองไม่มีสิทธิ์ชี้ว่าใครเป็นเผด็จการ หรือ เป็นประชาธิปไตย คนในพรรคการเมืองหนึ่งไปอยู่เผด็จการก็ถูกตามไปด่า เมื่อเขากลับมาบอกเป็นประชาธิปไตย กรณีเชียงใหม่เช่นกัน นายบุญเลิศไม่ต้องการออก กลับผลักเขาออก แต่บางคนแม้แต่อนาคตใหม่ยังไม่รับเลย เพราะมีข้อความโพสต์เกี่ยวข้องกับคนเสื้อแดง พอเข้าพรรคเพื่อไทย กลายเป็นนักประชาธิปไตยทันที” นายจตุพร กล่าว