3 ทหารเสือราชินี ทนได้อย่างไร ม็อบเขียนข้อความจาบจ้วง สมเด็จพระพันปีหลวงฯ เข้าข่ายผิด ม.112

7868

จากกรณีที่กลุ่มคณะราษฎร ได้มีการชุมนุมขึ้นที่แยกราชประสงค์ เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา และกลุ่มผู้ชุมนุมยังมีการพ่นสีสเปรย์ด้วยข้อความต่างๆบริเวณหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เขียนข้อความหมิ่นสถาบัน และได้มีการด่าทอจาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์

นอกจากนี้ยังมีกาารเขียนข้อความบริเวณหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ด้วยถ้อยคำที่หยาบคายและเป็นการจาบจ้วงสถาบันอย่างรุนแแรง ซึ่งการกระทำของม็อบคณะราษฎร ถือว่าเข้าข่ายผิด ม.112

ที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าการกระทำของม็อบคณะราษฎร ได้มีการพูดโจมตีสถาบันมาตลอด โดยมีข้อเรียกร้อง 3 ข้อ คือให้นายกรัฐมนตรีลาออก ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ และปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งก่อนหน้านี้แกนนำม็อบคณะราษฎร ก็ได้ออกมาพูดถึงการลดเพดานข้อเรียกร้องคือ ว่าจะไม่มีการลดข้อเรียกร้อง แต่ถ้าจะลดก็จะเหลือเพียงข้อเดียวก็คือ การปฏิรูปสถาบัน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงจุดมุ่งหมายที่จะทำการล้มล้างสถาบัน จนนำไปสู่การจาบจ้วงสถาบันอย่างรุนแรง

ทั้งนี้ ทางพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีพูดถึงกรณี มาตรา 112 ทำไมผู้ที่จาบจ้วง โจมตีสถาบันถึงไม่ถูกดำเนินคดี พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เพราะพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงมีพระเมตตา พระมหากรุณาธิคุณ ได้กำชับมาโดยตรงว่า ไม่ให้ใช้ ซึ่งในการนี้ก็ทำให้ม็อบคณะราษฎรและผู้ชุมนุมหนักข้อขึ้นทุกวัน มีการละเมิด ดูหมิ่น จาบจ้วงสถาบันมาตลอด จนมาถึงการจาบจ้วงโจมตี เขียนข้อความหยาบคายหน้าพระบรมฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในขณะที่มีประชาชนผู้ที่จงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ทนกับพฤติกรรมของม็อบที่มีการจาบจ้วงสถาบันไม่ได้ และคิดว่าถึงเวลาแล้วที่รัฐบาลเอาผิดผู้ชุมนุมในมาตรา 112 ได้แล้ว

อย่างไรก็ตาม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้ที่มีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และยังเป็นผู้ที่ได้เริ่มต้นรับราชการทหารและหล่อหลอมเติบโตขึ้นในกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ฯ หรือที่เรียกกันโดยทั่วไปว่า ทหารเสือราชินี ซึ่งภาระหน้าที่อันยิ่งใหญ่ที่ได้ถวายงานรับใช้ใต้เบื้องพระยุคลบาท สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ได้สร้างความภาคภูมิใจในชีวิตอย่างหาที่สุดไม่ได้ บ่อยครั้งที่จะได้เห็นบทบาทและคำพูดของพล.อ.ประยุทธ์ ในการปกป้องสถาบัน เอาจริงเอาจังในการขจัดพวกจาบจ้วงล่วงละเมิดเรื่อยมา และยิ่งเห็นได้ชัดครั้งหนึ่งนั่นก็คือครั้งดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหาร (ผบ.ทบ.)

ส่วนพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ก็เคยเป็นผู้บัญชาการกรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ ทหารเสือราชินี (ผบ.ร.21 รอ.) เป็นผู้บัญชาการกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ (ผบ.พล.1 รอ.) ก่อนจะได้เลื่อนเป็นรองแม่ทัพภาคที่ 1 และแม่ทัพภาคที่ 1

นอกจากนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เขาถือได้ว่าเป็นนายทหารที่เติบโตมาจากกองทัพภาคที่ 1 ทางภาคตะวันออกมาโดยตลอด โดยสังกัดกับกรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ (ร.21 รอ.) หรือที่เรียกกันว่า “ทหารเสือราชินี” ถือได้ว่าเป็นนายทหารรุ่นพี่ที่สนิทสนมกับนายทหารอดีตผู้บัญชาการทหารบกสองนาย คือ พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา และพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา

สำหรับ ทหารเสือราชินี เป็นหลักสูตรพิเศษหลักสูตรหนึ่งของกรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ซึ่งตั้งอยู่ที่ตำบลบ้านสวน อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี โดย สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระกรุณา โปรดเกล้าฯ พระราชทานชื่อค่ายอันเป็นที่ตั้งของกรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ฯ ว่า ค่ายนวมินทราชินี พร้อมทั้งพระราชทานสมญานามของกรมฯ ว่า กรมทหารเสือนวมินทราชินี
ต่อมาในปี 2524 กรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ฯ ได้รับอนุมัติจากกองทัพบกให้ดำเนินการฝึกหลักสูตรทหารเสือ เพื่อเป็นการสนองในพระราชเสาวนีย์ ของ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ องค์ผู้บังคับการพิเศษของกรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ฯ ที่ทรงมีพระราชประสงค์ให้กำลังพลได้รับการฝึกพิเศษ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการปฏิบัติภารกิจทุกรูปแบบ ทุกสภาพภูมิประเทศ โดยคุณสมบัติของผู้เข้ารับการฝึก ต้องเป็นกำลังพลที่รับราชการอยู่ในหน่วยของกรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ฯ และส่วนหนึ่งยังแบ่งให้กับกำลังพลนอกหน่วยที่กองทัพบกอนุมัติให้เข้ารับการฝึก