ป่วนแล้วตามคาด ผู้สนับสนุนทรัมป์หลายพันคนเดินขบวนในวอชิงตันดีซี กล่าวหาโกงเลือกตั้ง ขณะที่ทรัมป์เสียงอ่อยคล้ายเริ่มยอมรับความจริงเพราะไบเดนมีคะแนนอิเล็คทอรัลโหวตนำ 306:232 การปะทะทำร้ายกันเกิดบาดเจ็บและถูกจับกุมในตอนค่ำ สร้างความแค้นเคืองให้กับฝั่งสาวกทรัมป์ไม่น้อย คาดภาพดังกล่าวจะกระตุ้นความไม่พอใจของฝ่ายสนับสนุนทรัมป์มากขึ้น ท่ามกลางการชุมนุมประท้วง ซึ่งมีทั้งเกี่ยวกับการเลือกตั้งและประท้วงการเหยียดผิวในอีกหลายเมือง รวมถึงลอสแองเจลิส, ซีแอตเติล, ฮุสตัน, พิตส์เบิร์ก, มินนีแอโพลิส และซานดีเอโก
บรรดาผู้สนับสนุนของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯหลายพันคน เดินขบวนผ่านย่านกลางกรุงวอชิงตันในวันเสาร์ที่14 พ.ย.2563 สนับสนุนคำกล่าวหาของเขาที่ปราศจากหลักฐานใดๆ ว่า มีการโกงเลือกตั้ง ในขณะที่ทรัมป์ผลักดันเดินหน้ายื่นคัดค้านทางกฎหมายเป็นชุด การยื่นฟ้องร้องในศาลของทรัมป์ มีความคืบหน้าเพียงเล็กน้อย ในขณะที่ ไบเดนได้คะแนนอิเล็คทอรัลโหวต 309 เท่ากับที่ทรัมป์ได้รับในปี 2016 ปีนี้ทรัมป์ได้ 232 คะแนน นอกจากนี้ไบเดนได้รับการแสดงความยินดีจากบรรดาผู้นำโลก และเดินหน้าในการจัดตั้งคณะรัฐบาลแล้ว
ทะเลาะกันเละไม่มีใครยอมใคร?
กลุ่มผู้ชุมนุมเดินขบวน Proud Boys ซึ่งเป็นกลุ่มผู้สนับสนุนโดนัลด์ ทรัมป์ ออกมาประท้วง ได้ชูป้ายมีข้อความให้หยุดขโมยคะแนนเสียงเลือกตั้ง ตามการกล่าวอ้างของประธานาธิบดีทรัมป์ ที่กล่าวหาว่า นายโจ ไบเดน ขโมยคะแนนเสียงเลือกตั้งจากเขาไป
DC: BLM and Antifa threaten and intimidate an elderly Trump Supporter out of BLM Plaza
Unknown liquids can be seen being thrown on the elderly man, also attempts to hit him with an American flag pic.twitter.com/RU9hXGzmD2
— Drew Hernandez (@livesmattershow) November 14, 2020
ตำรวจเปิดเผยว่า เกิดเหตุทะเลาะวิวาทกันระหว่างกลุ่มผู้สนับสนุนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กับกลุ่มผู้ต่อต้านการประท้วงในงานชุมนุมที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บ 1 รายเพราะถูกแทง ส่วนอีก 10 คนอย่างน้อยถูกจับเพราะทะเลาะกัน โดยการปะทะกันของสองฝ่ายเกิดขึ้น ภายหลังกลุ่มผู้สนับสนุนทรัมป์ เดินขบวนในย่านใจกลางเมืองของกรุงวอชิงตันดี.ซี. เมืองหลวงของสหรัฐฯ
ยื้อไม่ไหว-หลักฐานไม่มี
เมื่อวันศุกร์ 13 พ.ย.2563 เป็นครั้งแรกที่ทรัมป์ เริ่มส่งเสียงแสดงความสงสัยในอนาคตของตนเอง โดยบอกว่า “รัฐบาลชุดนี้จะไม่ล็อกดาวน์ แต่ไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในอนาคต ใครจะรู้ว่ารัฐบาลเป็นฝ่ายไหน ผมคิดว่าเวลาจะให้คำตอบ”
Antifa and BLM members attack people who are eating dinner near BLM Plaza. They threw projectiles and a large firework. pic.twitter.com/w96nbZaJ8F
— Julio Rosas (@Julio_Rosas11) November 14, 2020
ในวันเสาร์ที่ 14 พ.ย.2563 ผู้สนับสนุนของทรัมป์ ออกมาแสดงพลังกันโวยวายกล่าวหาว่า มีการโกงเลือกตั้ง ตะโกนคำว่า “หยุดขโมยผลเลือกตั้ง” และ “เราเป็นผู้ชนะ” พวกเขาเดินขบวนจากจัตุรัสฟรีดอม พลาซา ใกล้ทำเนียบขาว ไปยังสำนักงานของศาลสูงในอาคารรัฐสภาสมาชิกกลุ่มขวาจัดพราวด์บอยส์ ใส่ชุดดำ บางคนสวมหมวกกันน็อคและเสื้อเกราะพลาสติกเข้าร่วมชุมนุมด้วย ขณะที่กลุ่มฝ่ายซ้ายบางส่วนมีแผนเดินขบวนตอบโต้ แต่ไม่มีรายงานเกี่ยวกับเหตุเผชิญหน้าใหญ่ๆ ใดๆในสื่อของสหรัฐฯ กลับมีภาพการปะทะกัน มีคนถูกแทงบาดเจ็บ มีการเยาะเย้ยทำร้ายกันในตอนค่ำโดยฝ่าย BLM เป็นฝ่ายทำต่อกลุ่มสาวกทรัมป์ที่กินอาหารค่ำและเดินอยู่ในบริเวณที่พัก
a #Trump supporter is chased out of the plaza after being hit by multiple water bottles. I also noticed multiple journalists/photographers cursing at him #MillionMAGAMarch pic.twitter.com/xKi8qmTmdZ
— eric thomas (@justericthomas) November 14, 2020
ทางฝ่ายผู้ชนะอย่าง ไบเดน ได้บอกกับบรรดาผู้สื่อข่าวในเดลาแวร์ ว่าเขาจัดตั้งคณะรัฐมนตรีใกล้แล้วเสร็จแล้ว ผลจากสถาบันวิจัยเอดิสัน พบว่า เขาคว้าชัยในจอร์เจีย ส่งผลให้เขามีคณะผู้เลือกตั้งรวมกว่า 306 เสียง มากกว่า 270 เสียง ที่จำเป็นสำหรับการก้าวขึ้นสู่ประธานาธิบดีเป็นอย่างมาก และทิ้งห่างทรัมป์ ที่มี 232 เสียงไปไกล
ที่ผ่านมา ทรัมป์ ปฏิเสธยอมรับคำพ่ายแพ้ต่อ ไบเดน และอ้างโดยไม่มีหลักฐานใดๆ ว่า เขาถูกปล้นชัยชนะด้วยการโกงการเลือกตั้งอย่างกว้างขวาง อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่เลือกตั้งประจำรัฐรายงานว่าไม่พบความผิดปกติร้ายแรงใดๆ และการยื่นคัดค้านทางกฎหมายของทรัมป์หลายคดีถูกตีตกในศาลไปแล้ว จนถึงตอนนี้เขาล้มเหลวในการหาหลักฐานใดๆมาประกอบคำกล่าวหาโกงเลือกตั้ง ในขณะที่รัฐต่างๆถูกเส้นตายกำหนดไว้ให้รับรองผลเลือกตั้งและคณะผู้เลือกตั้งในวันที่ 8 ธันวาคม โดยที่คณะผู้เลือกตั้งจะเป็นผู้ลงคะแนนเลือกประธานาธิบดีใหม่อย่างเป็นทางการในวันที่ 17 ธันวาคม
การปฏิเสธยอมรับความพ่ายแพ้ของทรัมป์ส่งผลให้การถ่ายโอนอำนาจอย่างเป็นทางการต้องหยุดชะงัก สำนักบริหารงานบริการทั่วไปของสหรัฐฯ (General Services Administration – GSA) ซึ่งมีหน้าที่จัดสรรงบประมาณสำหรับว่าที่ประธานาธิบดี ยังไม่รับรองชัยชนะของไบเดน ทำให้ไบเดนไม่สามารถเข้าถึงพื้นที่และทรัพยากรต่างๆ ของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การเปลี่ยนผ่านคณะบริหารของทำเนียบขาวเป็นไปอย่างราบรื่น
ไบเดน ซึ่งจะพบปะกับคณะที่ปรึกษา หารือเกี่ยวการเปลี่ยนผ่านที่บ้านพักของเขาในเดลาแวร์ในวันเสาร์ (14 พ.ย.) พยายามกดดันให้เดินหน้ากระบวนการนี้