รัสเซียสอยเครื่องบินนาโต้ร่วง! สหรัฐเหวอปิดสัญญาณดาวเทียม ขณะอังกฤษเสียฐานทัพ

1849

จากกรณีการบุกยูเครนของรัสเซียยังคงดำเนินอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทั่วโลกต่างเฝ้าจับตามองว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไร เพราะขณะนี้กองทัพทหารรัสเซียได้ยึดเมืองต่างๆของยูเครนไว้ได้หลายเมืองแล้ว

ขณะที่เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2565 นายไพศาล พืชมงคล อดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) ได้ออกมาโพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กถึงเหตุการณ์ตอบโต้ของรัสเซียที่มีต่อองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต้ว่า

“ด่วนมาก รัสเซียยิงเครื่องบินขนส่งอาวุธของนาโต้ที่บินเข้ามาในยูเครนร่วง เสียชีวิตเรียบ พินาศเรียบ รัสเซียปล่อยให้เครื่องบินลำดังกล่าวข้ามแดนมาโดยไม่ยิงทันที

ยังคงเป็นไปตาม”ยุทธวิธีหารังมด” คือเพื่อทราบว่าจะมีการขนไปที่เมืองไหน? ซึ่งจะสะท้อนว่ามีกำลังทหารของนาโต้อยู่ที่เมืองนั้น!!! เมื่อเครื่องบินใกล้จะลง รัสเซียจึงยิงถล่มราบเรียบในคราวเดียว

ท่านใดที่สงสัยว่า สหรัฐอาจปิดสัญญาณดาวเทียมของรัสเซียนั้น เลิกสงสัยได้แล้ว สหรัฐไม่สามารถปิดสัญญาณดาวเทียมของรัสเซียได้ และยังมีระบบดาวเทียมของจีนและอิหร่าน อยู่ในย่านนั้นอีก! เป็นเรื่องปัญหายุทธวิธีค้นหารังมดเท่านั้น!!!!”

ล่าสุดวันนี้ 18 เมษายน 2565 นายไพศาล ได้โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กอีกครั้ง โดยระบุถึงการ อัพเดทสงครามยูเครน 18 เมษายน 2565

1 กรณีสงครามยูเครน ไม่ใช่สงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน เพราะยูเครนถูกนาโต้ยึดครองไปนานแล้ว ผู้บัญชาการทหารก็เป็นนายทหารจากนาโต้ ตัวตลกเป็นแค่ตัวแสดง ที่ทำตามบทที่นาโต้กำหนด แม้กระทั่งการพูดปราศรัยในรัฐสภาประเทศต่างๆ รวมทั้งสหประชาชาติ ซึ่งแม้แต่ปูตินหรือสีจิ้นผิง หรือนายกรัฐมนตรีเยอรมันก็ยังทำไม่ได้ แต่นาโต้จัดให้ตัวตลกได้

2 สถานการณ์ชัดเจนแล้วว่านาโต้ได้วางกำลังในยูเครนมานานแล้ว และวางกำลังหลักอยู่ในพื้นที่ ~ดอนบาส ที่อยู่ด้านขวามือบนของไครเมียร์ เกือบ 200,000 คน โดยใช้ชื่ออาซ้อฟบังหน้า

~ ฝั่งซ้ายบนของไครเมีย มีศูนย์กลางอยู่ที่เมืองมาคุเลียฟ เป็นกองกำลังของอังกฤษประมาณ 70,000 คน โดยแฝงตัวอยู่ในเมืองซึ่งเป็นอู่ต่อเรือ เพื่อเชื่อมต่อกับการส่งกำลังบำรุงโดยทางทะเลดำ โดยใช้อู่ต่อเรือบังหน้าไม่ให้รู้ว่าเป็นฐานทัพ สำหรับทหารยูเครน วางกำลังในพื้นที่ใกล้ดอนบาส ลึกเข้าไปในดินแดนยูเครน ประมาณแสนเจ็ดหมื่นคน

3 การวางกำลังของนาโต้ใน 2 พื้นที่นี้ เป็นแผนการที่พร้อมจะระดมกำลังเข้าโจมตีและยึดไครเมียร์ของรัสเซีย เพราะพื้นที่ไครเมียร์นั้น นอกจากเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญด้านทะเลดำแล้ว ยังเป็นแหล่งทรัพยากรที่ล้ำค่าที่สุดคือเป็นแหล่งแก๊สที่มีจำนวนมากที่สุดของภูมิภาคนั้น และยังมีแร่หายากอีกจำนวนมาก

รัสเซียทราบแผนการนี้ดี ดังนั้นจึงเปิดศึกเข้ายึดยูเครน โดยมีเป้าหมายหลักอยู่ที่การยึดครองพื้นที่ฝั่งซ้ายและฝั่งขวาของเมีย เพื่อทำให้ดินแดนทั้งหมดเชื่อมต่อกับรัสเซียโดยตรงและปิดทะเลดำ ด้วย

4 การสงครามระยะที่ผ่านมาทั้งหมด เป้าหมายที่แท้จริง ก็คือ ~การยึดฝั่งซ้ายฝั่งขวา ของไครเมียร์ และ ~สถาปนาความมั่นคงของ3รัฐใหม่ในพื้นที่ดอนบาส ~ทำให้รัสเซียมีพื้นแผ่นดินเชื่อมต่อเนื่องกันตลอดแนวฝั่งทะเลดำ และสามารถคุมยุทธศาสตร์ทะเลดำได้ด้วย การสงครามในพื้นที่ดังกล่าวจึงเป็นสงครามระหว่างนาโต้กับรัสเซียโดยตรง เพียงแต่ไม่พูดความจริงกัน และขณะนี้ความจริงก็ปรากฏชัดเจนแล้ว

5 เป้าหมายต่อไปก็คือ ~การยึดครองพื้นที่ด้านเหนือของยูเครนตะวันออกที่ติดกับพื้นที่ดอนบาส และ ~การยึดพื้นที่ด้านเหนือของยูเครนตะวันตก ที่ติดกับเมืองมาคูเลียฟริมทะเลดำ

6 สำหรับ สมรภูมิกรุงเคียฟนั้น ในช่วงแรก เป็นสงครามลวงเพื่อตรึงกำลังทหารยูเครนแสนกว่าคน และกำลังของนาโต้ในรูปอาสาสมัครที่คุ้มกันกรุงเคียฟ และนาโต้หลงกลตั้งป้อมต่อสู้อย่างขนานใหญ่ที่กรุงเคียฟ จึงทำให้รัสเซียสามารถยึดพื้นที่ ภาคตะวันออกและภาคใต้ ได้อย่างรวดเร็ว!!!! นี่คือการใช้กลศึก”ทำทีจะตีเหนือ แท้จริงตีใต้”

เมื่อการยึดพื้นที่ภาคตะวันออกและภาคใต้เสร็จสิ้นโดยพื้นฐาน รัสเซียจึงรีบถอนกำลังที่รายล้อมกรุงเคียฟกลับยูเครนตะวันออกอย่างรวดเร็วและทันที เพื่อมาตั้งรับกองกำลังของนาโต้ ที่จะเคลื่อนย้ายจากกรุงเคียฟลงมาช่วยพื้นที่ภาคใต้และภาคตะวันออกที่ถูกรัสเซียยึดไปแล้ว ไม่ใช่การ”ถอยหนีแบบผึ้งแตกรัง” ดังที่เข้าใจกันผิดๆ

ขณะนี้นาโต้เริ่มไหวตัวทัน จึงรีบเคลื่อนกำลังจากกรุงเคียฟ มาช่วยกองกำลังทางด้านใต้และตะวันออก แต่ก็สายไปแล้ว เพราะกองกำลังรัสเซียที่เคยรายล้อมกรุงเคียฟได้มาตั้งรับไว้อย่างแน่นหนาอยู่แล้ว

ในขณะที่นาโต้กำลังเคลื่อนกำลังจากกรุงเคียฟ รัสเซียได้เปิดศึกยิงถล่มรอบกรุงเคียฟโดยขีปนาวุธระยะไกลอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งสร้างความละล้าละลัง ให้แก่นาโต้มาก เพราะหากจะเดินหน้าไปก็เกรงว่ากรุงเคียฟจะถูกตีแตก จะหยุดอยู่ครึ่งๆกลางๆก็ทำอะไรไม่ถูก ซึ่งต้องดูว่านาโต้จะตัดสินใจการใช้กำลังตรงนี้อย่างไร การโจมตีกรุงเคียฟครั้งนี้รัสเซียอ้างว่า ยูเครนรุกรานดินแดนรัสเซีย จึงประกาศเป้าหมายที่จะถล่มศูนย์บัญชาการ คือ ทำเนียบรัฐบาล และกระทรวงกลาโหม ของยูเครน

จึงทำให้ไบเด้นซึ่งเคยประกาศว่าจะไปเยือนกรุงเคียฟต้องยกเลิกกำหนดการนั้นอย่างกระทันหัน เพราะทราบดีว่าอาจจะถูกถล่มได้ โดยไม่รู้ตัว

7 ขณะนี้อังกฤษได้สูญเสียฐานทัพ ที่เมืองต่อเรือ ด้านซ้ายบนของไครเมียร์ไปแล้ว เท่ากับการลงทุนของอังกฤษทั้งหมดตลอด 8 ปีที่ผ่านมาสูญสิ้นทั้งหมด

อังกฤษจึงต้องเคลื่อนกองเรือพิฆาต เข้าไปในทะเลดำ เพื่อปฏิบัติภารกิจแทนฐานทัพที่เมืองต่อเรือดังกล่าว  จึงเป็นเหตุให้รัสเซีย สั่งติดตั้งขีปนาวุธความเร็วสูงของกองเรือในทะเลดำ  เป้าหมายก็เพื่อจัดการกับกองเรือของอังกฤษนั่นเอง

และแน่นอนว่าถ้าจะมีปฏิบัติการดังกล่าว ก็คงปฏิบัติการพร้อมกันกับการถล่มอังกฤษและโปแลนด์!!! สถานการณ์ล่อแหลมนี้ให้จับตาท่าทีของเยอรมันฝรั่งเศสและอิตาลีให้ดี เพราะอาจจะเกิดการพลิกขั้ว หันไปจับมือกับรัสเซีย ซึ่งจะทำให้นาโต้ล่มสลายทันที”