จากที่วันนี้ (11พ.ย.63) นายณรงค์ ทรงอารมณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวถึง มหาเถรสมาคม (มส.) มีมติเร่งด่วนให้ทำหนังสือแจ้งไปยังวัดทั่วประเทศ ห้ามพระภิกษุ สามเณร ยุ่งเกี่ยวกับกิจกรรมทางการเมือง นั้น
ทั้งนี้หากฝ่าฝืนคำสั่งหรือมติ มส.ให้เจ้าคณะปกครองดำเนินการทันที ยืนยัน พศ.และมส.ไม่ได้นิ่งนอนใจ ตั้งแต่มีภาพพระภิกษุ สามเณรเข้าร่วมการชุมนุม ได้ส่งหนังสือไปยังเจ้าคณะผู้ปกครองแล้วประมาณ 2-3 ครั้ง ถึงการดูแลปกครองไม่ให้พระภิกษุสามเณรเข้าร่วมชุมนุม แต่ยังมีพระเณรเข้าร่วมการชุมนุมอยู่ จึงต้องออกเป็นมติ มส.ที่ชัดเจน 4 ข้อ
1.ให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ แจ้งเจ้าคณะผู้ปกครองดำเนินการกับพระภิกษุสงฆ์ สามเณรที่เข้าข่ายและฝ่าฝืนคำสั่ง เรื่องห้ามพระภิกษุสามเณรเกี่ยวข้องกับการเมือง พ.ศ.2538
2.มีมติมอบถวายสมเด็จพระพุฒาจารย์ (สนิท ชวนปญฺโญ) เจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร ซึ่งเป็นประธานการรมการฝ่ายการปกครองสงฆ์ ให้วางแนวทางการป้องกัน การชุมนุมของพระภิกษุ สามเณร เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาในระยะยาว
3.มีมติให้นำรายชื่อผู้ฝ่าฝืนของพระภิกษุสงฆ์ สามเณร ส่งให้เจ้าคณะผู้ปกครอง เพื่อพิจารณาทางพระธรรมวินัยต่อไป
4.ให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ แจ้งประสานหน่วยงานที่มีหน้าที่ทางกฎหมาย ตรวจสอบสถานะพระที่เข้าร่วมชุมนุม ทุกรูป เพื่อป้องกันพระปลอมเข้าร่วมชุมนุมเพราะจะทำให้ศาสนา เกิดความเสียหาย
ส่วนการเอาผิดกับพระภิกษุสามเณร ที่กระทำผิดทางพระธรรมวินัยจะต้องถึงขั้นให้ลาสิกขาหรือไม่ ให้อยู่กับการพิจารณของเจ้าคณะผู้ปกครอง ตั้งแต่ว่ากล่าวการตักเตือน และให้สึก เบื้องต้นจากภาพที่มีพระภิกษุ และสามเณรเข้าร่วมชุมนุม ประมาณ 7 รูป พบรายชื่อเป็นพระจริง 1 รูป เณรจริง 1 รูป ส่วนที่เหลืออยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบ ว่าใช่พระจริงหรือไม่ โดยจะส่งหนังสือถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หากพบเป็นพระปลอม ให้ดำเนินการตามกฏหมายอาญาต่อไป
นอกจากนี้ นายณรงค์ ยังกล่าวถึงกรณีพระภิกษุ ชูป้ายในระหว่างการชุมนุม ทวงคืนคิ้ว หรือเอาคิ้วคืนมานั้น พระสงฆ์ที่เข้ามาบวช ไม่ได้มีใครบังคับ เข้ามาด้วยความสมัครใจ และกฏบอกไว้ชัดเจนว่าต้องโกนคิ้ว หากยอมรับระเบียบไม่ได้ ก็แค่ลาสิกขาเพราะการบวชไม่ได้มีใครบังคับ มาบวชด้วยความสมัครใจ