ชัดเจนแล้ว ล่าสุด ศาลฯ ได้มีคำสั่งให้ทำการปิดช่อง “วอยซ์ทีวี” ทุกแพลตเฟอร์มในสื่อออนไลน์ ส่วนอีก 3 สำนักข่าว ยังพิจารณา
นายภุชพงค์ โนดไธสง รองปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เปิดเผยว่า หลังจากที่กระทรวงดิจิตอลฯ ได้ส่งหลักฐานเป็นคลิปวีดีโอ ภาพนิ่ง ที่เป็นการนำเสนอข่าวของสำนักข่าว 5แห่ง ประกอขด้วย voice tv, the standard, the reporters, ประชาไทและ เยาวชนปลดแอก free youth ในระหว่างการชุมนุมของคณะราษฏร
ซึ่งได้ส่งให้ศาลเมื่อวันศุกร์ 16 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยทางกระทรวงดิจิตอลฯพิจารณาแล้วว่าข้อมูลที่ส่งให้ศาลนั้นพบเข้าข่ายความผิดพรบ.คอมพิวเตอร์ฯ ม.14 นำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จ และฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง
โดยในวันนี้ศาลมีคำสั่งให้ปิดทุกแพลตเฟอร์มในสื่อออนไลน์ของสำนักข่าวvioce tv ส่วนสำนักข่าวอื่นๆ อีก4 สำนัก ได้ส่งหลักฐานไปพร้อมกัน แต่ขณะนี้ยังไม่มีคำสั่งจากศาล
นอกจากนี้รองปลัดกระทรวงดิจิตอลฯ เปิดเผยเพิ่มเติมว่า หลักจากนี้จะส่งคำสั่งศาลไปให้เจ้าของแพลตฟอร์มต่างๆ พิจารณาดำเนินตามคำสั่งของศาล ส่วนสำนักข่าวvioce tv ยังสามารถนำเสนอข่าวได้ แต่ต้องดำเนินการเปิดแอคเคาร์ใหม่ และต้องนำเสนอข่าวหรือข้อมูลให้เป็นไปตามกฎหมายอย่าฝ่าฝืนคำสั่ง ส่วนโปรแกรมเทเลแกรม ที่กลุ่มผู้ชุมนุมใช้ในการนัดหมายชุมนุมนั้น ทางกระทรวงได้มีคำสั่งปิดให้บริการ จำนวน 4แอคเคาท์
อย่างไรก็ตาม ทางกระทรวงดิจิตอลฯ ยืนยันว่ามีอำนาจในการปิดกั้นไม่อนุญาตให้ใช้โปรแกรมเทเลแกรม แต่ขณะนี้ยังคำนึงถึงผู้ที่ใช้งานในด้านการค้าและประโยชน์อื่นๆ ดังนั้นจึงสั่งปิดเพียงแอคเคาท์ ที่กระทำผ่าฝืนเท่านั้น
พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษก ตร.เปิดเผยว่า ทางกอร.ฉ. ได้ประสานกับทางกระทรวงดิจิตอลฯ ให้ดำเนินการเปิดแอคเคาท์ที่ฝ่าฝืนพรก.ฉุกเฉินจำนวน58 แอคเคาท์ ประกอบด้วย เฟสบุ๊ค ทวิตเตอร์และเว็ปไซต์ ทั้งนี้ยังพบการกระทำในลักษณะที่เรียกว่า looting หรือการปล้นสะดม
ซึ่งเป็นการชุมนุมชักชวนให้เข้าไปทำลายทรัพย์สินของทางราชการหรือร้านค้า ซึ่งถือว่ากระทำเช่นนี้เป็นการยุยงปลุกปั่นในโลกออนไลน์ ถือว่ามีความผิดตามพรก.ฉุกเฉินและความผิดข้อหาลักทรัพย์จึงขอเตือนให้กลุ่มผู้ชุมนุมอย่ากระทำดังกล่าว พร้อมกันนี้ขอขอบคุณกลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วนที่คอยห้ามปรามกลุ่มที่จะกระทำผิดดังกล่าวด้วยเช่นกัน