จากที่นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี จรยุทธ์พื้นที่ บ้านปูลาโต๊ะบีซู ต.ศาลาใหม่ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส เพื่อรับฟังปัญหาและชี้แจงนโยบายเกษตรพลังงาน
ทั้งนี้นพ.วรงค์ กล่าวว่า ประชาชนในพื้นที่บ้านปูลาโต๊ะบีซู ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพประมงพื้นบ้าน ซึ่งรายได้ไม่แน่นอน ส่งผลต่อปัญหาหนี้สิน ที่ดินที่อยู่อาศัย วนเป็นวงจรความยากจน และหากไม่มีการปรับเปลี่ยน ชีวิตก็คงอยู่แบบเดิม
“พรรคไทยภักดีจึงนำเสนอนโยบาย จะทำให้พื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นพื้นที่เศรษฐกิจพลังงานสะอาด ให้เกษตรกรที่ไม่มีที่ดินทำกินได้รับการจัดสรรที่ดิน
และให้เกษตรกรเข้าร่วมโครงการพืชพลังงานจากเนเปียร์ซึ่งขณะนี้พรรคไทยภักดีมีนวัตกรรมเทคโนโลยีที่สามารถทำให้ต้นทุนการผลิตไฟฟ้าถูกลงกว่าอดีต ซึ่งในอนาคตรายได้หลักจะมาจากเกษตรพลังงาน
ขณะที่รายได้เสริมก็มาจากอาชีพประมงพื้นบ้าน พรรคไทยภักดีมองว่า การแก้ปัญหาหนี้สินที่ดีไม่ใช่การพักหนี้แต่ต้องให้มีรายได้เพิ่ม
อย่างไรก็ตาม นพ.วรงค์ ยังกล่าวอีกว่า นวัตกรรมเกษตรพลังงานเกิดขึ้นแล้วแต่ไม่ได้รับการส่งเสริมจากกระทรวงพลังงาน ไทยภักดีจึงต้องมาต่อสู้ หากโครงการนี้เกิดได้ค่าไฟฟ้า แก๊สหุงต้ม จะถูกลงแน่นอน
ด้านนายมูหัมมัดไชดี เจ๊ะแว ประธานสภา อบต.ศาลาใหม่ กล่าวว่า ประชากรบ้านปูลาโต๊ะบีซู มีประมาณกว่า 700 คนอาชีพหลักคือ ประมงพื้นบ้าน แต่รายได้ไม่แน่นอนขึ้นอยู่กับสภาวะธรรมชาติ ซึ่งปีนี้มรสุมเข้า ชาวประมงยังไม่สามารถออกเรือได้
“นอกจากนี้ยังมีปัญหา หนี้สิน ที่ดินอยู่อาศัย ซึ่งประมาณ 40 % ของประชากรเท่านั้นที่มีที่ดินเป็นของตัวเอง แต่ก็กำลังเผชิญปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง ขณะที่เยาวชนก็มีการศึกษาแค่ภาคบังคับ จบมาต้องไปหางานทำที่มาเลเซีย มีไม่ถึง 10 % ที่มีโอกาสได้รับการศึกษาต่อ”