บริษัทลาซาด้า ยังถูกโจมตีและสอบถามอย่างต่อเนื่อง หลังปล่อยโฆษณาโปรโมทแคมเปญลดราคาสินค้าพาดพิงสถาบันฯ
ขณะนี้โลกโซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะในเฟซบุ๊ก ได้เกิดกระแสแบนลาซาด้าแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซชื่อดัง หลังจากที่ลาซาด้าได้มีแคมเปญลดราคาสินค้าพิเศษ แต่พบว่า เน็ตไอดอลชื่อดัง นารา อนิวัต ประทุมถิ่น หรือ นารา เครปกะเทย ได้ทำคลิปวิดิโอและภาพนิ่งโปรโมทแคมปเปญดังกล่าวของลาซาด้า แต่ทั้งคลิปวิดิโอและภาพนิ่ง กลับมีเนื้อหาที่จงใจพาดพิงสถาบันเบื้องสูง
อีกทั้งเมื่อตรวจสอบในเพจเฟซบุ๊กของนารา เครปกะเทย ซึ่งได้โพสต์ภาพโปรโมทสินค้าที่จงใจพาดพิงสถาบันเบื้องสูง ก็มีบรรดาลูกเพจเข้ามาคอมเม้นท์ด้วยข้อความที่ไม่เหมาะสม แต่ก็มีบางส่วนได้เข้ามาตำหนินารา และรู้สึกผิดหวังต่อการกระทำของเน็ตไอดอลชื่อดัง
ซึ่งการกระทำของนารา ได้สร้างความไม่พอใจอย่างยิ่งต่อประชาชนผู้จงรักภักดี ต่างวิจารณ์นาราอย่างรุนแรง และยังทำให้เกิดกระแสแบนลาซาด้า พร้อมลบแอปพลิเคชั่นลาซาด้าออกจากโทรศัพท์มือถือ ขณะที่บางคนเรียกร้องให้มีการดำเนินการทางกฎหมาย รวมถึงผู้บริหารของลาซาด้าควรออกมาชี้แจง ซึ่งความเห็นของผู้ใช้เฟสบุ๊กต่อเรื่องนี้ เช่นทำการตลาดแบบแซะสถาบัน ก็จะได้ลูกค้าแค่กลุ่มจัณฑาลด้วยกันแค่นั้น ให้ลูกค้าผู้ดีเขาไปซื้อของผ่านช่องทางอื่นดีกว่า , ไม่ควรจบที่ลบ clip และเลิกใช้บริการ app บ้านเมืองมีขื่อมีแปมีกฎหมาย ออกมาขอโทษบอกรู้เท่าไม่ถึงการแล้วจบ แค่นั้นหรือ , กรอบความคิดคนทำโฆษณาแบบนี้ คือ คนรุ่นใหม่ที่มีความคิดแอบแฝงอย่างปฏิเสธไม่ได้ สังคมนี้มันต่ำลงทุกวันจนน่าใจหาย
สำหรับ นารา เครปกระเทย เป็นที่ทราบกันดีว่า มีจุดยืนทางการเมืองอยู่ฝั่งเดียวกับม็อบ 3 นิ้ว และต่อต้านรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ ล่าสุดเจ้าตัวได้สวมเสื้อยืดที่สกรีนรูปหน้าพลเอกประยุทธ์ไปเกณฑ์ทหาร
จากการตรวจสอบข้อมูลของบริษัท ลาซาด้า โซลูชั่น (ประเทศไทย) จำกัด ระบุมีการขอจดเลขทะเบียนประเภทนิติบุคคล บริษัทจำกัด ในวันที่ 31 มีนาคม 2563 ด้วยทุนจดทะเบียน 6,275,000 บาท มีสถานะนิติบุคคล ยังดำเนินกิจการอยู่ ที่ตั้งเลขที่ 689 อาคารภิรัชทาวเวอร์ ชั้น 29 ห้องเลขที่ 2901 ถนนสุขุมวิท แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร หมวดธุรกิจจดทะเบียน
ระบุเป็นการวิจัยและพัฒนาเชิงทดลองด้านวิศวกรรมและเทคโนโลยีอื่นๆ ซึ่งมิได้จัดประเภทไว้ในที่อื่น โดยมีวัตถุประสงค์การจดทะเบียน เพื่อประกอบธุรกิจให้การบริการนวัตกรรมด้านธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอินเตอร์เน็ตและพานิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ในหมวดธุรกิจ การขายปลีกทางอินเทอร์เน็ต มีกรรมการ 3 คนคือ นางสาวหมิง ลี ชุน , นายคาร์ล แม็กนัส วัลเดมาร์ เอกบอม และนายหลัว เว่ย
ทั้งนี้ในส่วนข้อมูลมูลค่าหุ้นและสัดส่วนการลงทุนจำแนกตามสัญชาติ (ข้อมูลปี 2561- 2565) ระบุลำดับที่ 1 สัญชาติไทย มีจำนวนหุ้น 3,200 หุ้น มีมูลค่าการลงทุน 3,200 ล้านบาท หรือคิดเป็น 51%
ลำดับที่2 สัญชาติสิงคโปร์ 3,074 หุ้น มีมูลค่าการลงทุน 3,074 ล้านบาทหรือคิดเป็น 48.99%
และลำดับที่ 3 สัญชาติจีน 1 หุ้น มีมูลค่าการลงทุน 1,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 0.02 % รวมทุกสัญชาติ มีจำนวนหุ้น 6,275 หุ้น หรือเท่ากับมูลค่าในการลงทุนทั้งหมด 6,275 ล้านบาท