เปิดเบื้องลึก “ผู้มีอิทธิพลเยอรมัน” นำ 14 ชาติอียูก่อกบฏ? ซื้อก๊าซรัสเซียด้วยเงินรูเบิล 1.6 ล้านล้านบาท
จากกรณีเมื่อวันที่ 26 เม.ย. 2565 สำนักข่าวรัสเซียทูเดย์และรอยเตอร์รายงานว่า เจ้าหน้าที่ในโปแลนด์และบัลแกเรีย เปิดเผยว่ารัสเซียกำลังระงับการส่งก๊าซธรรมชาติมายังประเทศของพวกเขา หลังจากทั้งสองประเทศปฏิเสธจ่ายค่าก๊าซของรัสเซียเป็นสกุลเงินรูเบิล
การระงับป้อนก๊าซครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ประกาศเมื่อเดือนที่แล้ว ว่าบรรดาผู้ซื้อต่างชาติ “ประเทศไม่เป็นมิตร” จะต้องจ่ายค่าก๊าซแก่ก๊าซพรอมด้วยสกุลเงินรูเบิล แทนดอลลาร์หรือยูโร โดยจนถึงตอนนี้มีเพียง ฮังการี ชาติเดียวที่ยอมจ่ายเป็นสกุลเงินรูเบิล
ต่อมาทางเพจ World Update ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีที่เยอรมัน แอบนำขาใหญ่ยุโรปก่อกบฎ EU ชำระค่าก๊าซเป็นรูเบิล โดยอ้างอิงจากแหล่งข่าว Bloomberg และสำนักข่าวรอยเตอร์ ระบุว่า
ศูนย์วิจัยพลังงานและอากาศบริสุทธิ์ (CREA) ประเมินว่า แค่เพียง 2 เดือนที่ผ่านมานับจาก ก.พ.65 สหพันธรัฐรัสเซีย มีรายได้จากการขายพลังงานน้ำมัน ก๊าซ และถ่านหิน ให้กับสหภาพยุโรป (EU) ได้รับชำระเงินแล้วกว่า 62,000 ล้านยูโร (2.24 ล้านล้านบาท) จากสถิติปีก่อน 2564 นับ 2 เดือนในเวลาเดียวกัน เฉพาะก๊าซ กลุ่ม EU นำเข้าจากรัสเซีย มูลค่า 23,212 ยูโร (8.44 แสนล้านบาท) แต่ปี 2565 ในเวลาเท่ากัน และกลุ่ม EU ประกาศต่อสื่อว่าคว่ำบาตรพลังงานรัสเซีย
แต่ในทางปฏิบัติหลังไมด์ กลุ่ม EU กลับคุกเข่าขอซื้อก๊าซรัสเซียเพิ่มขึ้นเป็น 44,000 ล้านยูโร (1.6 ล้านล้านบาท) หรือเพิ่มขึ้น 190% โดยจำแนกเป็น 3 ลำดับแรก คือ เยอรมนี เป็นผู้นำเข้ารายใหญ่ที่สุดใน EU ราว 9,000 ล้านยูโร , ตามมาด้วยอิตาลี 6,800 ล้านยูโร , เนเธอร์แลนด์ 5,600 ล้านยูโร ดังนั้นภายหลังจากชาติใน EU ประกาศฉากหน้าว่าแบนไม่ซื้อไม่จ่ายเงินรูเบิลค่าก๊าซ และน้ำมันให้รัสเซีย
แต่ในโลกความจริงมี 14 ชาติในกลุ่ม EU แอบทำตรงข้ามที่พูดอย่างสิ้นเชิง มี 4 ชาติหักหลังเพื่อนไปก่อนใคร จ่ายเป็นรูเบิลตรงๆ ให้รัสเซีย อีก 10 ชาติก็แอบเปิดบัญชีธนาคาร 2 บัญชีกับ Gazprombank บัญชีแรกเป็นเงินยูโร อีกบัญชีเป็นเงินรูเบิล จากนั้นชำระค่าก๊าซเป็นยูโรเข้าบัญชีแรก ทางธนาคารรัสเซียก็โอนแปลงเป็นเงินรูเบิลเข้าบัญชีที่สอง แล้วโอนต่อไม่ผ่านระบบ SWIFT จ่ายค่าพลังงานให้ Gazprom รัฐวิสาหกิจรัสเซีย หมุนเข้าคลังรัฐบาลไป จึงมี EU อีก 13 ประเทศพาลซื่อถูกหลอกให้หลงเชื่อไม่ซิกแซกแบบชาติรุ่นเดอะขาใหญ่
นายแกร์ฮาร์ท ชเรอเดอร์ อดีตนายกรัฐมนตรีเยอรมนี ปัจจุบันเขาคือ หนึ่งในเจ้าของบริษัทพลังงานน้ำมันและก๊าซ ที่ทำธุรกิจในรัสเซีย แม้เขาจะพ้นเส้นทางการเมืองไปแล้วแต่เขายังชักใยและมีอำนาจในรัฐบาลเยอรมนีมาทุกสมัย การตัดสินใจใดเกี่ยวกันการคว่ำบาตรพลังงานรัสเซีย เขาจะขัดขวางทุกวิธีทางผ่านทางพรรคการเมืองที่มีสายสัมพันธ์โยงใยซับซ้อนกัน เขาระบุว่า ”เยอรมนีต้องการพลังงานจากรัสเซียและไม่สามารถแยกตัวออกจากมอสโกได้”
คำประกาศิตจากเขา สั่นสะเทือนรัฐบาลเยอรมนีอย่างมาก เก้าอี้นายกรัฐมนตรีนายโอลาฟ ชอลซ์ ที่โปรสหรัฐแค่ไหนก็ไม่อาจต้านทานอำนาจเจ้าพ่อพลังงานตัวจริงเยอรมนีอย่างนายแกร์ฮาร์ท ชเรอเดอร์ ได้ แม้รัฐมนตรีบางคนในรัฐบาลเยอรมนี จะให้ประชาชนห่มผ้าหนาๆ ยามหนาว หรืออาบน้ำให้น้อยลง แต่นั่นย่อมไม่ใช่วิถีที่ชาวเยอรมนีต้องการ ล่าสุดบริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่ของเยอรมนี Uniper ประกาศซื้อก๊าซรัสเซียต่อโดยนำยูโรไปแลกรูเบิล ใครอย่ามาแหยม
ส่วนรัฐบาลสโลวาเกีย และสาธารณรัฐเช็ก ได้หยุดอุดหนุนก๊าซธรรมชาติเพื่อให้ความร้อนส่วนกลาง และความอบอุ่นกับประชาชนเรียบร้อยแล้ว โดย รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจของสโลวาเกีย อ้างว่าเป็นวิธีการลดการพึ่งพาก๊าซจากรัสเซีย จึงต้องระงับการใช้ก๊าซในระบบทำความร้อน ขอให้ประชาชนช่วยเหลือตนเองต่อความเหน็บหนาว ส่วนบัลกาเรีย ที่พึ่งพิงก๊าซรัสเซีย 90% และเพิ่งถูกบริษัท Gazprom รัสเซีย ตัดการส่งก๊าซไปแล้ว เพราะเบี้ยวชำระหนี้เป็นเงินสกุลรูเบิลนั้น ทางรัฐบาลเริ่มเสียงอ่อยหน้าเจื่อน เพราะไม่คิดว่ารัสเซียจะเอาจริง ทางการบัลกาเรีย ยอมรับว่าสต็อคก๊าซอยู่ได้ไม่เกิน 1 เดือนเท่านั้น
อังกฤษ ประกาศว่า”จะยืนหยัดเคียงบ่าเคียงไหล่” กับโปแลนด์ และบัลแกเรีย แต่ถ้าจะให้ช่วยเรื่องก๊าซ..อังกฤษ ขอบายเพราะไม่มีก๊าซพอใช้เหมือนกัน..สรุป..ชาติยุโรปขาใหญ่เล่นบท “ทศกัณฑ์หลายหน้า” ก่อกบฎเงียบต่อ EU จนแตกเป็นเสี่ยง แต่ชาติยุโรปเล็กๆ พาลซื่อเล่นบทหน้าเดียว หลอกซ้อนหลอกแม้ในกลุ่ม EU ด้วยกันเอง เตะเงินรูเบิลเขาประตูรัสเซียเต็มๆ ดูเหมือนขาใหญ่ยุโรปบางชาติจะแอบขยิบตากับรัสเซีย เพื่อหักหลังสหรัฐอีกด้วย