อ.ส้มหวาน หนุนเยาวชนปลดแอก เดินหน้าชูแนวคิด “คอมมิวนิสต์” ให้สุด!?!

3909

อาจารย์ส้มหวาน หนึ่งในอาจารย์ที่นัดหยุดสอน หนุนเยาวชนปลดแอก เคลื่อนไหวประกาศชูแนวคิดคอมมิวนิสต์ให้สุด ลั่น ปักหมุดแรกที่รัฐสวัสดิการ

จากกรณีที่กลุ่มเยาวชนปลดแอก ได้มีการเผยแพร่โลโก้ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของคอมมิวนิสต์ พร้อมข้อความประกาศชูแนวคิดสาธารณรัฐ ถือเป็นการเปิดหน้าเปิดตัวอย่างชัดเจนว่า กลุ่มผู้ชุมนุมมีความต้องการระบอบสาธารณรัฐ มีพฤติกรรมล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ทำให้เกิดความขัดแย้งของแกนนำม็อบ เนื่องจากบางคนไม่เห็นด้วยกับการเคลื่อนไหวดังกล่าว

ล่าสุดทางด้าน ผศ.ดร.ษัษฐรัมย์ ธรรมบุษดี อาจารย์ประจำวิทยาลัยสหวิทยาการ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ หนึ่งในอาจารย์ที่นัดหยุดสอนเพื่อเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออกและปฏิรูปสถาบัน ได้ออกมาโพสต์ข้อความถึงกรณีการเคลื่อนไหวของเยาวชนปลดแอกที่มีการประกาศชูแนวคิดคอมมิวนิสต์ โดยระบุข้อความว่า

ทุนนิยมคือระบบที่อัปลักษณ์ล้มเหลว แม้แต่นักเศรษฐศาสตร์รางวัลโนเบลยังยอมรับ เราจำเป็นต้องหาระบบเศรษฐกิจการเมืองที่ดีกว่าเสมอ
เรื่องพื้นฐานที่เราต้องยอมรับคือ เศรษฐกิจและการเมืองคือเรื่องเดียวกัน
ปลดแอกให้สุด แล้วปักหมุดแรกที่รัฐสวัสดิการ
#เยาวชนปลดแอก
นอกจากนี้ ยังได้มีการโพสต์ข้อความต่อไปอีกว่า มักจะมีคนกลุ่มหนึ่งที่มีนิสัยชอบไล่คนรุ่นใหม่ไปอ่านหนังสือ ไล่ให้ไปศึกษาให้ถ่องแท้ ฯลฯ คำอธิบายแบบนี้โคตรล้าหลัง และดูถูกผู้คนเพราะ
1.คุณรู้ได้อย่างไรว่าเขาไม่อ่าน เขาอาจจะอ่านแล้วคิดไม่เหมือนคุณ
2.เขาอาจไม่ได้อ่านเล่มเดียวกับพวกคุณ และคุณก็ไม่ได้อ่านเล่มเดียวกับพวกเขา หนังสือเล่มไหนศักดิ์สิทธิ์กว่ากัน ?
3.ถึงเขาไม่อ่านอะไรเลย แล้วประสบการณ์ ความคิดของพวกเขาไม่มีค่าอะไรเลยเหรอสำหรับพวกคุณ ประสบการณ์การประจานความจนตอนกู้ กยศ. ต้องอ่านทฤษฎีเล่มใดแล้วบอกว่าเขาควรพูด ประสบการณ์สูดควันพิษบนรถเมล์ ประสบการณ์การถูกกดขี่จากสังคมชายเป็นใหญ่ ประสบการณ์สูดไอพิษจากเหมืองและโรงไฟฟ้า หรือประสบการณ์การที่พ่อแม่ต้องทำงานหนักเพื่อส่งพวกเขาเรียน คนที่อายุ 30-50 แล้วมีบ้าน มีงาน มีรถ มีครอบครัว
ยังมีหน้าไล่ให้คนรุ่นใหม่ที่ทุกข์ทน ไปอ่านหนังสือให้เห็นความน่ารักของทุนนิยม หัวใจคุณทำด้วยอะไร
ถ้าคุณไม่พอใจกับสิ่งที่เยาวชนปลดแอกเสนอ มีทางที่ผมแนะนำครับ
พิสูจน์ว่าทำให้ระบบเศรษฐกิจนี้มันสามารถดีได้สำหรับทุกคนไม่ใช่แค่คนโชคดี และเกิดมารวย ด้วยการเก็บภาษีกลุ่มคนมั่งคั่ง 3.5% ของทรัพย์สิน แล้วสร้างรัฐสวัสดิการถ้วนหน้าเลย (สถาบันพระมหากษัตริย์ต้องเสียปี ละ30,000 ล้านบาท เช่นเดียวกับตระกูลเจ้าสัวคนอื่นๆ เจ้าสัวซีพี ก็ประมาณ 30,000 ล้านบาทต่อปีเช่นเดียวกัน อันนี้คือภาษีส่วนเพิ่มจากทุกตัว)
ทำให้คนเรียนฟรีถึงปริญญาเอก รถเมล์ฟรีถึงหน้าบ้าน เงินเดือนเยาวชน บำนาญถ้วนหน้า
แต่ถ้าไม่ทำ ทำไม่ได้ แล้ววนกลับมาที่ว่าพวกเขาไม่พยายามมากพอ ไม่ขยันพอ ไม่เก่งมากพอ
ผมว่าเรากำลังอยู่คนละขบวนรถไฟสายการเปลี่ยนแปลงแน่นอน