ส่งออกพึ่งได้!! พาณิชย์ตีปี๊ปมี.ค.โต19.5% มูลค่ากว่า 28,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สูงสุดในรอบ30ปี คาดทั้งปีโต 4%

818

นายกฯสั่งพาณิชย์เพิ่มช่องส่งออกผลไม้ไทย ชี้เป้าตลาดกลุ่ม FTA เหมาะสม ขณะกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงการส่งออกไทยในเดือนมีนาคม 2565 ว่า  การส่งออกในเดือนนี้ขยายตัว 19.5% หรือมีมูลค่า 28,859.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นเงินบาทมีมูลค่า 922,313 ล้านบาท โดยเป็นการขยายตัวในรอบ 30 ปีนับตั้งแต่ปี 2534 คาดทั้งปีบรรลุเป้าหมายที่ 4%

วันที่ 26 เม.ย.2565 กระทรวงพาณิชย์เปิดเผยว่า ไตรมาสแรกของปีนี้ (มกราคม-มีนาคม) ส่งออกไทยโต14.9% หรือมีมูลค่า73,601.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 2,401,444 ล้านบาท  ทั้งนี้การที่ส่งออกไทยขยายตัวเป็นบวกมาจากความร่วมมือกันระหว่างกระทรวงพาณิชย์กับภาคเอกชนในรูปแบบกรอ.พาณิชย์ในการผลักดันการส่งออกไทย รวมถึงการฟื้นความสัมพันธ์การค้าระหว่างซาอุดิอาระเบีย  

ส่งออกไทยยังไม่ได้รับผลกระทบจากสงครามรัสเซีย-ยูเครนโดยตรงมาก  ทางกระทรวงพาณิชย์มีการติดตามสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด และต้องร่วมแก้ปัญหาร่วมกับเอกชนต่อไป พร้อมทั้งประสานข้อมูลของทูตพาณิชย์ทั่วโลกว่าจะมีผลกระทบด้านไหนเพื่อเตรียมการรับมือ

ทั้งนี้สิ่งที่ต้องติดตามที่จะกระทบต่อการส่งออกไทย คือ สถานการณ์สงครามรัสเซีย-ยูเครน ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อ โลจิสติกส์ ค่าระวางเรือ ตู้คอนเทนเนอร์ เป็นสิ่งที่กระทรวงพาณิชย์จะต้องติดตามกับภาคเอกชนเพื่อแก้ปัญหาร่วมกันต่อไปในรูปของคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนด้านการพาณิชย์ (กรอ.พาณิชย์) ซึ่งเป้าทั้งปีที่กระทรวงมองไว้ ที่4% ไม่น่าไกลเกินเอื้อมซึ่งสอดคล้องกับภาคเอกชนที่มองว่าการส่งออกไทยในปีนี้จะขยายตัวไปในทิศทางที่ดี

นอกจากนี้ ด้านโฆษกรัฐบาลเปิดเผยว่า นายกฯ พอใจการส่งออกผลไม้ ส่งออกมะม่วงไทยอันดับที่ 2 ในอาเซียน และอันดับ 7 ของโลก ให้กระทรวงพาณิชย์เร่งขยาย FTA ส่งออกเพิ่มเติม ส่งเสริมพันธุ์ผลไม้ไทยให้เป็นที่นิยมในตลาดโลก

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พอใจมูลค่าการส่งออกมะม่วงสดของไทย ซึ่งปัจจุบันขยายตัวเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 15 ในช่วง 2 เดือนแรกของปี 2565 โดยไทยถือเป็นผู้ส่งออกมะม่วงเป็นอันดับที่ 2 ในอาเซียน และเป็นอันดับ 7 ของโลก สะท้อนความนิยมของผลไม้ไทยซึ่งมีศักยภาพในตลาดโลก 

โดยพร้อมสนับสนุนการขยายช่องทางทางการค้าเพิ่มเติมผ่านการเจรจาการค้าเสรี และข้อตกลงทางการค้าเสรี FTA ทั้งนี้ในปี 2564 ไทยส่งออกมะม่วงสดมูลค่ารวม 95 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งขยายตัวกว่า 52% จากปี 2563 ต่อเนื่องจนในช่วง 2 เดือนแรกของปี 2565 ไทยส่งออกมะม่วงสดมูลค่ารวม 11 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวมากถึง 15% จากช่วงเดียวกันของปี 2564

โดยจากข้อมูลของกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า มะม่วงไทยได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในตลาดต่างประเทศ เนื่องจากเป็นผลไม้ที่ให้ผลผลิตตลอดทั้งปี สามารถเก็บเกี่ยวได้โดยไม่ต้องรอฤดูกาล อีกทั้งยังมีคุณภาพดี รสชาติอร่อย หอมหวาน มีพันธุ์มะม่วงที่หลากหลาย อาทิ มะม่วงน้ำดอกไม้ เขียวเสวย มหาชนก และโชคอนันต์ โดยเฉพาะตลาดคู่เจรจา FTA ของไทยทั้ง 15 ประเทศที่มีมูลค่าการส่งออกสัดส่วนสูงถึง 98% ของการส่งออกมะม่วงสดทั้งหมด ได้แก่ อาเซียน 7 ประเทศ (อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ บรูไน เวียดนาม เมียนมา และมาเลเซีย) จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อินเดีย ชิลี เปรู และฮ่องกง

นายธนกร กล่าวว่า นายกรัฐมนตรียังเน้นย้ำแนวทางในการทำงาน ให้การส่งออกมะม่วงมีความต่อเนื่องรองรับกับช่วงได้รับกระแสความนิยม และความต้องการทางตลาดในแต่ละประเทศ โดยได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการ มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์พิจารณาขยายช่องทางการค้าและส่วนแบ่งทางการตลาดเพิ่มเติมในประเทศคู่เจรจา FTA รวมทั้งให้การสนับสนุน ส่งเสริมให้ผู้ประกอบการไทยพัฒนาเพิ่มเติมรูปแบบ ช่องทาง ของสินค้าในการส่งออก ทั้งในด้านการออกแบบ การแปรรูปสินค้าเพื่อให้สามารถเพิ่มมูลค่าและขยายกลุ่มเป้าหมายในตลาดต่างประเทศได้มากขึ้น

ตลอดจนควบคุมมาตรฐานสินค้าและพัฒนาคุณภาพการผลิตให้อยู่ในเกณฑ์ที่กำหนด เช่น การรับรองตามมาตรฐาน GAP หรือการขึ้นทะเบียนตามมาตรฐานการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บริโภคและเป็นยกระดับราคาผลผลิตให้แก่เกษตรกรและผู้ประกอบการ ซึ่งนายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นว่าด้วยคุณภาพที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ของมะม่วงไทยจะเป็นอีกสินค้าเกษตรที่สามารถส่งออกได้ต่อเนื่องในระยะยาว รวมทั้งยังสามารถสร้างรายได้ให้แก่ภาคการเกษตรของไทยได้อย่างยั่งยืนอีกด้วย