“สหรัฐฯ-ยุโรป” ล้าหลังกว่าหลายเท่า ไม่มีศักยภาพต้าน “รัสเซีย” หลังเปิดตัวขีปนาวุธรุ่นใหม่ ยังไม่มีสิ่งใดในโลกต้านทานได้

1904

เทียบชัดๆ!? “สหรัฐฯ-ยุโรป” ล้าหลังกว่าหลายเท่า ไม่มีศักยภาพต้าน “รัสเซีย” หลังเปิดตัวขีปนาวุธรุ่นใหม่ ยังไม่มีสิ่งใดในโลกต้านทานได้!?

เรียกได้ว่าต้องจับตาอย่างใกล้ชิด เพราะการเมืองในระดับโลกกำลังระอุ เดินหน้าเข้าใกล้การปะทะไปทุกขณะ ทั้งฝั่งมหาอำนาจสหรัฐฯ ที่มียุโรปคอยหนุนหลัง และ รัสเซีย ที่มีศักยภาพด้านอาวุธไม่น้อยหน้าใครในโลก

ล่าสุดทางด้านของ เพจสาธารณะ World Update ได้รายงานเกี่ยวกับเรื่อง “รัสเซีย ทดสอบยิงขีปนาวุธข้ามทวีปฉายา”ซาตาน” ไม่มีระบบใดจะต่อต้านได้อีกแล้ว” โดยมีรายละเอียดว่า

ที่ผ่านมาสหรัฐ ทำการทดสอบอาวุธ Hypersonic ความเร็วเหนือเสียงหลายครั้ง สวนใหญ่ล้มเหลวระบบผิดพลาดเกิดการระเบิดเสียหายขณะยิงขึ้น ช่วงกลางเดือน มี.ค.65 สหรัฐฯ ทำการทดสอบขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิกอีกครั้ง แต่สามารถเคลื่อนที่เร่งความเร็วเหนือเสียงได้เพียง 5 เท่า (ราว 6,150 กม/ชม) ทำความสูงราว 20,000 เมตร และยิงได้ระยะทำการพิสัยกลางพอๆ ขีปนาวุธเกาหลีเหนือเท่านั้น

ด้วยความเร็วยังต่ำจึงไม่สามารถหลบหลีกระบบต่อต้านอากาศยานรัสเซียที่เร็วกว่าได้ ต่อมาวันที่ 1 เม.ย.65 กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ยกเลิกการทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีป (ICBM ) ไปเพราะเกิดเหตุขัดข้องทางเทคนิค

ด้วยความล้มเหลวถี่รัวๆ หลายครั้ง สหรัฐฯ , สหราชอาณาจักร และออสเตรเลีย จึงใช้วิธี “ประโคมข่าว” แก้หน้าแทนการลงมือปฏิบัติจริง โดยประกาศข่าวใหญ่โตว่าจะร่วมมือกัน “จะเริ่มความร่วมมือใหม่ในการวิจัยว่าด้วยอาวุธความเร็วเหนือเสียง (Hypersonic) รวมถึงวิธีที่จะรับมือกับอาวุธพิฆาตเหล่านี้”

ในขณะที่อังกฤษ ยังไม่มีเทคโนโลยีความรู้ใดด้านนี้เลย ทั้ง 3 ชาติคาดหวังว่าจะเริ่มประจำการอาวุธใหม่ได้เร็วสุดในปี 2029 หรืออีก 7 ปีหน้า แต่ยังไม่รู้ว่าจะสำเร็จหรือไม่ ทำความเร็วได้แค่ไหนเพราะเป็นเรื่องอนาคต

ล่าสุดกระทรวงกลาโหมของสหพันธรัฐรัสเซีย ไม่คุยโวมากแต่เน้นปฏิบัติจริงยิงทดสอบขีปนาวุธทางยุทธศาสตร์ข้ามทวีป RS-28 Sarmat Inter-Continental Ballistic Missile หรือที่ชาติตะวันตกรู้จักกันในนาม “ซาตาน II” ออกจากฐานปล่อยอวกาศ Plesetsk ทางตอนเหนือของรัสเซีย

ขีปนาวุธดังกล่าวได้บินไปทั่วประเทศรัสเซียที่กว้างใหญ่ จากนั้นหัวรบเฉื่อยลงแตะพื้นในพื้นที่ๆ กำหนดที่สนามฝึกคูรา บนคาบสมุทรคัมชัตกา ทางตะวันออกของรัสเซีย

ขีปนาวุธทางยุทธศาสตร์แบบใหม่นี้ถูกตั้งค่าให้มาแทนที่รุ่น R-36M/R-36M2 Voevoda ICBMs โดยรุ่นซาร์มัต (Sarmat) นี้มีน้ำหนักราว 200 ตัน พิสัยทำการมากกว่า 18,000 กม. สามารถยิงข้ามอ้อมขั้วโลกเหนือ หรือไต้ ไปตกใส่เป้าหมายประเทศใดก็ได้ ความเร็วเหนือเสียง Hypersonic สูงสุดกว่า 20 เท่า ( 24,600 กม./ชม.)

สามารถป้องกัน หลบหลีก ระบบต่อต้านอากาศยานทุกชนิดของสหรัฐ และ NATO ได้ เช่น ระบบ THAAD , Patriot และอื่นๆ สามารถบรรทุกอาวุธได้มากกว่า และสามารถติดตั้งหัวรบนิวเคลียร์รูปแบบใหม่ได้

การทดสอบนี้เพื่อสำหรับการนำอาวุธใหม่มาใช้ประจำการในกองกำลังทางยุทธศาสตร์ของรัสเซีย พร้อมเสมอสำหรับยิงจริงใส่พิกัดเป้าหมายได้ทันทีเมื่อได้รับคำสั่งจากสายบังคับบัญชา ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย เรียกการเปิดตัวครั้งนี้ว่าเป็น “เหตุการณ์ที่สำคัญยิ่ง” สำหรับรัสเซีย และแสดงความยินดีกับกองทัพที่ประสบความสำเร็จในการทดสอบการยิง “ระบบใหม่นี้มีลักษณะทางยุทธวิธีและทางเทคนิคที่ยอดเยี่ยม และสามารถเจาะระบบป้องกันขีปนาวุธที่ทันสมัยทั้งหมดในโลกได้ จะไม่มีสิ่งที่คล้ายคลึงกันในโลกนี้และจะไม่มีอีกต่อไป”

ฝ่ายสหรัฐและพันธมิตรเพิ่งจะเริ่มคิดวิจัยว่าจะทำอย่างไรดีจะให้อาวุธ Hypersonic ฝ่ายตนเร็วกว่าเสียง 5 เท่า และยิงพิสัยไกลอ้อมโลกกับเขาได้บ้าง แต่ของรัสเซีย เขาพัฒนารุ่นนี้เสร็จมากว่า 2 ปี จากนั้นปรับแต่งพร้อมยิงวันนี้ความเร็วเหนือเสียงกว่าเสียง 20 เท่าเข้าไปแล้ว

นี่คือเหตุผลสำคัญที่สหรัฐ และพวกที่คุม “ระเบียบโลกเก่า” ได้แต่แอบดันหลังยูเครนให้สู้ต่อไปแล้วส่งอาวุธป๋องแป๋งมาให้ แต่ตัวเองไม่กล้ายกกำลังไปลงสนามรบเองแบบในอิรัก ซีเรีย เพราะห่างชั้นกับรัสเซียสุดกู่ นี่ยังไม่รวมกองทัพจีนที่เพิ่งยิงทดสอบขีปนาวุธ Hypersonic รุ่นใหม่จากเรือกลางทะเลสำเร็จไปแล้ว..ศักยภาพขีปนาวุธสหรัฐตอนนี้แค่จะสู้กับเกาหลีเหนือยังหืดขึ้นคอ แต่ถ้าเจออาวุธของรัสเซีย กับจีน รุมเข้าไปนี่แผนที่โลกเปลี่ยนเลยนะ