หลังจากที่ มิคาอิล โพโดยัค ที่ปรึกษาประธานาธิบดียูเครน วิพากษ์วิจารณ์สหภาพยุโรปสำหรับการส่งมอบ “อาวุธผิดประเภท” แก่เคียฟ ท่ามกลางความขัดแย้งที่ลากยาวระหว่างประเทศกับรัสเซีย
โดยที่ปรึกษาของประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ใช้ทวิตเตอร์ระบายความผิดหวัง ทั้งในแง่ของประเภทของอาวุธที่ส่งมอบ และความเร็วของการส่งมอบ พร้อมกับปิดท้ายด้วยถ้อยคำเหมือนเป็นคำเตือน โดยระบุว่า “ประชาธิปไตยจะไม่ชนะจากการเล่นเกมนี้ ยูเครนต้องการอาวุธ ไม่ใช่ในเวลา 1 เดือน แต่เดี๋ยวนี้เลย”
ขณะที่การมอบการสนับสนุนในระดับอียูแล้ว ชาติสมาชิกแต่ละชาติของสหภาพยุโรป ยังยกระดับการสนับสนุนด้านการทหารแก่เคียฟด้วยเช่นกัน ในนั้นรวมถึงเยอรมนี ประเทศที่ร่ำรวยที่สุดของอียู ได้เปลี่ยนแปลงนโยบายครั้งใหญ่ เปลี่ยนจุดยืนจากที่ไม่มอบอาวุธร้ายแรงแก่เคียฟ และเพิ่มการใช้จ่ายกลาโหมเพื่อช่วยเหลือยูเครน แม้มีคำร้องขอหลายต่อหลายครั้งจากเคียฟ แต่ เบอร์ลิน ปฏิเสธส่งมอบอาวุธจู่โจมใด ๆ แก่เคียฟ อย่างเช่น รถถังและยานเกราะอื่น ๆ
แม้ตะวันตกกำลังมอบแรงสนับสนุนทุกอย่างแก่เคียฟ แต่ทาง เซเลนสกี กลับร้องขอมากกว่านั้นอีก แต่บรรดาพันธมิตรยังคงลังเลในประเด็นนี้ เนื่องจากไม่ต้องการเสี่ยงเผชิญหน้าโดยตรงกับรัสเซีย ซึ่งเป็นเหตุผลเดียวกับที่พวกเขาปฏิเสธบังคับใช้เขตห้ามบินเหนือท้องฟ้ายูเครน
ล่าสุดทางด้านนายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ ได้โพสต์ข้อความ ถึงประเด็นนี้ ผ่านเฟซบุ๊ก Nantiwat Samart ระบุว่า ลูกไก่ในกำมือ กองกำลังรัสเซียยังคงโจมตีถล่มเป้าหมายในยูเครน หลังจากเพลามือลงได้เพียงไม่กี่วัน ก่อนหน้านี้ รัสเซียถล่มโรงงานซ่อมสร้างปืนต่อสู้รถถัง ที่ชายแดนกรุงเคียฟ
เมื่อคืนที่ 16 เมษายน รัสเซียได้ถล่มโรงงานทำกระสุนที่เมือง Brovary ชานกรุงเคียฟ แถมด้วยอีก 68 เป้าหมายทางทหาร รวมทั้งระบบเรดาร์สำหรับจรวดต่อสู้อากาศยาน S300 อีก 2 แห่ง และคลังอาวุธและคลังน้ำมัน
นอกจากนั้น กลาโหมรัสเซียยังได้ยื่นคำขาดให้กำลังทหารยูเครนที่ยังหลงเหลืออยู่ในเมืองมาริอูโปล ให้วางอาวุธและมอบตัวภายในวันที่ 17 เมษายน แล้วจะไว้ชีวิตไม่ทำร้าย รับประกันความปลอดภัย
ทางการรัสเซียดักฟังการติดต่อสื่อสารของกองกำลังที่หลงเหลือในมาริอูโปล และทราบว่า ขาดอาหารและน้ำ และอยู่ในสถานการณ์ที่คับขัน จึงได้ติดต่อถึงกองกำลังดังกล่าวให้ยอมแพ้และมอบตัววางอาวุธ แต่กำลังดังกล่าวจะขออนุญาตจากกรุงเคียฟก่อน แต่ทางกรุงเคียฟไม่อนุญาตและจะลงโทษตามกฎสงคราม เมืองไทยเรียกว่า หนีอริราชศัตรูซึ่งหน้า
ทางการรัสเซียประเมินว่ากองกำลังยูเครนและทหารรับจ้างต่างชาติน่าจะเสียหายประมาณ 4 พันคน