วันที่ 8 เม.ย.2565 สำนักข่าวโกลบัลไทมส์และรอยเตอร์รายงานว่า นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐวัย 82 ปี ประกาศเลื่อนแผนการเดินทางเยือนไต้หวันแล้ว หลังผลตรวจเชื้อโควิด-19 ออกมาเป็นบวก
นายดรูว์ แฮมมิล โฆษกของนางเพโลซี (Drew Hammil spokesperson) กล่าวว่า “ท่านประธานสภาผู้แทนราษฎรมีผลตรวจโควิด-19 เป็นบวก แต่ท่านไม่มีอาการป่วยใดๆ โดยการที่ท่านได้รับการฉีดวัคซีนครบโดส รวมทั้งเข็มกระตุ้น ได้ช่วยป้องกันอาการป่วยจากโรคโควิด-19 ซึ่งในระหว่างนี้ท่านประธานจะเข้ารับการกักตัวตามคำแนะนำของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐ (CDC)”
นายแฮมมิลยังระบุว่า แผนการเดินทางเยือนภูมิภาคเอเชียของนางเพโลซีเป็นอันต้องถูกเลื่อนออกไป อันเนื่องจากการติดเชื้อโควิด-19 ในครั้งนี้
ก่อนหน้านี้ มีรายงานว่า นางเพโลซีจะนำคณะเจ้าหน้าที่จากสภาคองเกรสสหรัฐเดินทางเยือนญี่ปุ่นในวันพรุ่งนี้ ก่อนที่จะเยือนไต้หวันในวันอาทิตย์ที่ 10 เม.ย.
ทั้งนี้ การระงับแผนการเดินทางดังกล่าวจะช่วยปลดชนวนความตึงเครียดระหว่างจีนและสหรัฐ หลังจากที่นายจ้าว ลี่เจียน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน แถลงว่า จีนจะตอบโต้สหรัฐอย่างหนัก หากนางเพโลซีเดินทางเยือนไต้หวัน โดยจีนเรียกร้องให้สหรัฐยึดมั่นในนโยบายจีนเดียว และยกเลิกแผนการเดินทางดังกล่าว
หากประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ แนนซี เปโลซี ไปเยือนเกาะไต้หวัน จีนขู่ก่อนหน้านนี้แล้วว่าจะตอบโต้ด้วย “มาตรการที่เด็ดเดี่ยวและเข้มงวด” อย่างแน่นอน โดยกระทรวงการต่างประเทศจีนกล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ผู้เชี่ยวชาญชาวจีนกล่าวว่าจีนจะต้องตอบโต้ มิฉะนั้น สหรัฐฯ จะทำการยั่วยุมากขึ้นในอนาคต และผลที่ตามมาที่อาจเกิดจากการเยือนที่อาจกระทบความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐฯ
สื่อไต้หวันรายงานว่า “เปโลซีมีกำหนดจะมาถึงไต้หวันในวันอาทิตย์นี้” หลังจากมีกำหนดเดินทางไปญี่ปุ่นในปลายสัปดาห์นี้ เพื่อแสดงการสนับสนุนไต้หวันท่ามกลาง “ความกังวลเกี่ยวกับความสัมพันธ์ข้ามช่องแคบ เชื่อมโยงกับวิกฤตรัสเซีย-ยูเครน”
จ้าว ลี่เจี้ยน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศกล่าวในการแถลงข่าวประจำวันเมื่อวันพฤหัสบดีว่า หากเปโลซีไปเยือนเกาะแห่งนี้ “มันจะสร้างความเสียหายอย่างร้ายแรงต่อรากฐานของความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ และจะส่งสารผิดไปยังไต้หวัน ผู้แบ่งแยกดินแดน เรื่องนี้จีนขอคัดค้านอย่างหนักแน่นและได้ยื่นคำแถลงอย่างจริงจังต่อสหรัฐฯแล้ว ”
จ้าวกล่าวย้ำว่า “จีนจะตอบโต้ด้วยมาตรการที่แน่วแน่และเข้มงวด และผลที่ตามมาทั้งหมดจะตกเป็นภาระของสหรัฐฯ แต่เพียงผู้เดียว”
หม่า เสี่ยวกวง โฆษกสำนักงานกิจการไต้หวันของสภาแห่งรัฐของจีน (Ma Xiaoguang, spokesperson of the Taiwan Affairs Office of the State Council) กล่าวในแถลงการณ์เมื่อวันพฤหัสบดีว่า “เราเตือนผู้มีอำนาจของพรรค DPP ว่าควรยุติการสมรู้ร่วมคิดใดๆ กับกองกำลังต่างชาติในทันทีเพื่อแสวงหาการแบ่งแยกดินแดน และอาชญากรรมทั้งหมดที่เกิดขึ้นจะถูกลงโทษในที่สุด”
นักวิเคราะห์กล่าวว่ามาตรการตอบโต้จากจีน จะไม่เหมือนกับมาตรการกระตุ้นจากการเดินทางไปเกาะครั้งก่อนๆ โดยเจ้าหน้าที่ระดับล่างหรืออดีตเจ้าหน้าที่ของสหรัฐฯ นักวิเคราะห์เน้นว่าการตอบสนองจะต้องใช้กำลังมากพอที่จะเตือนสหรัฐฯ เกี่ยวกับความจริงจังของการท้าทายได้อย่างมีประสิทธิภาพ รากฐานทางการเมืองของความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ ย่อมกระทบกระเทือนอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง
ประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง บอกกับประธานาธิบดี โจ ไบเดน ของสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2565 ระหว่างสนทนากันผ่านวิดีโอที่ร้องขอโดยสหรัฐเองว่า การจัดการกับคำถามไต้หวันอย่างไม่ถูกต้อง จะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ทวิภาคี จีนหวังว่าสหรัฐฯ จะให้ความสนใจกับปัญหานี้อย่างเหมาะสม
สีกล่าวว่า “ปธน.โจ ไบเดนย้ำว่าสหรัฐฯ ไม่ได้พยายามทำสงครามเย็นครั้งใหม่กับจีน เพื่อเปลี่ยนระบบของจีน หรือฟื้นฟูพันธมิตรต่อต้านจีน และสหรัฐฯ ไม่สนับสนุน เอกราชของไต้หวัน หรือตั้งใจจะแสวงหาความขัดแย้งกับจีน ฉันถือคำพูดเหล่านี้อย่างจริงจัง”
ผู้เชี่ยวชาญชาวจีนกล่าวว่าหากเปโลซีไปเยี่ยมเกาะนี้ ผลที่ตามมาจะร้ายแรงกว่าการเยือนไต้หวันของนิวท์ กิงริชในปี 1997 มาก เนื่องจากแม้ว่า Gingrich จะเป็นประธานสภา แต่เขาเป็นพรรครีพับลิกันในขณะที่ฝ่ายบริหารของบิล คลินตันในขณะนั้นยังเป็นพรรคเดโมแครต แต่คราวนี้ ทั้งเปโลซีและไบเดนต่างก็เป็นสมาชิกพรรคเดโมแครต และเปโลซีจะไม่สามารถเดินทางได้หากไบเดนคัดค้าน นั่นหมายความว่าฝ่ายบริหารของไบเดนกำลังหักหลังจีนอย่างโจ่งแจ้ง เนื่องจากไบเดนล้มเหลวที่จะรักษาสัญญาของเขา
เตี้ยว แดหมิง(Diao Daming) รองศาสตราจารย์แห่งมหาวิทยาลัย Renmin แห่งประเทศจีนในกรุงปักกิ่งกล่าวว่าการที่ไบเดนยินยอมและรู้เห็นกับการเดินทางไปเกาะไต้หวันของเปโลซี นั้นถูกมองว่าเป็นการทำลายข้อตกลงอเมริกาที่มีต่อหลักการจีนเดียว
เตี้ยวกล่าวว่า “สหรัฐฯ อาจคิดว่าพวกเขาฉลาดและคิดว่าการเดินทางไปเกาะไต้หวันของเปโลซีจะเพิ่มความสามารถในการต่อรองกับจีน แต่พวกเขาเข้าใจผิด”
ซิน กว่าง(Xin Qiang) รองผู้อำนวยการ Center for American Studies ที่ Fudan University กล่าวว่าจีนจะตอบโต้อย่างรุนแรงแน่นอน มิฉะนั้น สหรัฐฯ จะทำอีกซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทั้งนี้สหรัฐฯ ประเมินความมุ่งมั่นและความกล้าหาญของจีนต่ำเกินไป
พันเอกตัน เคเฟย(Tan Kefei) โฆษกกระทรวงกลาโหมของจีนกล่าวในแถลงการณ์เมื่อวันพฤหัสบดีแถลงว่า “กองทัพปลดปล่อยประชาชนจะใช้มาตรการอันทรงพลัง เอาชนะการแทรกแซงของกองกำลังต่างชาติทุกรูปแบบ และความพยายามแบ่งแยกดินแดนของไต้หวันอย่างเด็ดขาด และปกป้องอธิปไตยของชาติและบูรณภาพแห่งดินแดนอย่างมั่นคง”
