มะกันแตกเละ!! ทรัมป์ได้ทีขี่ปูตินไล่บี้ไบเดน ท้าแฉให้หมดเรื่องสกปรกครอบครัวผู้นำ

1237

อดีตปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ผู้อื้อฉาว โวยดังๆผ่านสื่อไปถึงปูตินท้าให้เปิดเผยเรื่อง      ทุจริตคอรัปชั่นเกี่ยวกับครอบครัวของไบเดนที่ปัจจุบันนี้อื้อฉาวยิ่งกว่า ในยุคแห่งข่าวสารครองโลก ข่าวการมีส่วนทุจริตของบุตรชายหัวแก้วหัวแหวนของผู้นำสหรัฐ ที่เกี่ยวพันกับรัสเซีย-ยูเครน ฉุดเครดิตอเมริกาอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน  มันย้อนแย้งกับการเป็นต้นแบบเสรีภาพ-ประชาธิปไตยอย่างยิ่ง ผู้นำสหรัฐชี้นิ้วประณามผู้นำประเทศอื่นๆที่ไม่ยอมสยบอยู่ใต้อำนาจสารพัด แต่กลบเรื่องมืดๆของครอบครัวไม่มิด แบบนี้หรือจะนำทัพนาโต้สู้ศึกกับรัสเซียและพันธมิตรตะวันออกที่รวมกันแล้วทรงพลังอำนาจ 

วันที่ 30 มี.ค. 2565 ที่วอชิงตัน ดีซี สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นและเอ็นบีซีนิวส์รายงานว่า ในการให้สัมภาษณ์ของอดีตปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งเผยแพร่เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา  เรียกร้องให้ปธน.รัสเซีย วลาดิเมียร์ ปูติน เปิดเผยข้อมูลลับที่สร้างความเสียหายใดๆ เกี่ยวกับครอบครัวปธน.โจ ไบเดน เป็นการขอความช่วยเหลือทางการเมืองภายในประเทศจากคู่ต่อสู้ของสหรัฐอย่างรัสเซีย และนี่เป็นมุมมองของสื่อที่เป็นเครื่องมือทรงอำนาจของรัฐบาลสหรัฐฯมาทุกยุคทุกสมัย ขณะเดียวกันก็สะท้อนความแตกแยกภายในของสหรัฐฯอย่างไม่เคยมีมาก่อน

ซีเอ็นเอ็นระบุว่า นี่เป็นตัวอย่างล่าสุดของความตั้งใจของทรัมป์ที่จะเรียกร้องและรับความช่วยเหลือทางการเมืองจากมหาอำนาจต่างประเทศ แม้กระทั่งจากปูตินซึ่งปัจจุบัน ตัดสินใจปฏิบัติการทางทหารบุกยูเครนและถูกสหรัฐ-พันธมิตรคว่ำบาตร

ในการให้สัมภาษณ์กับจัสต์เดอะนิวส์(JustTheNews) สื่อสหรัฐฯ ทรัมป์ได้ผลักดันข้อเรียกร้องที่ไม่ได้รับการพิสูจน์เกี่ยวกับการติดต่อทางธุรกิจของฮันเตอร์ ไบเดนในรัสเซีย และขอให้ปูตินเปิดเผยข้อมูลใดๆ ที่บุตรชายของไบเดนอาจเกี่ยวข้องกับสถานการณ์ดังกล่าว 

ทรัมป์กล่าวว่า “ฉันคิดว่าปูตินน่าจะรู้คำตอบสำหรับเรื่องนี้” ทรัมป์กล่าวโดยอ้างถึงการติดต่อที่อาจเกิดขึ้นของฮันเตอร์ ไบเดนในรัสเซีย “ฉันคิดว่าเขาควรปล่อยข้อมูลพวกนี้ และ ฉันคิดว่าพวกเราน่าจะรู้คำตอบนั้นดี”

เป็นความจริงที่ฮันเตอร์ ไบเดนได้รับค่าจ้างอย่างงาม จากงานที่ปรึกษาที่เขาทำในต่างประเทศ รวมทั้งยูเครนและจีน ในขณะที่พ่อของเขา ประธานาธิบดีโจ ไบเดน เป็นรองประธาน ล่าสุดกระทรวงยุติธรรมมีการสอบสวนทางอาญาอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับการติดต่อเหล่านี้และอาชญากรรมทางการเงินที่อาจเกิดขึ้น

แต่ไม่มีหลักฐานใดที่สนับสนุนคำกล่าวอ้างของทรัมป์ที่ว่า ครอบครัวไบเดนมีส่วนร่วมในการทุจริตหรือมีอิทธิพลต่อนโยบายของสหรัฐฯ เพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว และประธานาธิบดีก็ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในการสอบสวน ด้านฮันเตอร์ ไบเดน ปฏิเสธการกระทำผิดกฎหมาย และบอกว่าเขาจะเคลียร์ตัวเองได้อย่างดีเมื่อการไต่สวนคดีอาญาสิ้นสุดลง

การอุทธรณ์ของทรัมป์ต่อปูตินเป็นการตอกย้ำถึงความคิดเห็นของเขาในเดือนกรกฎาคม 2559 ซึ่งเขากล่าวว่า”รัสเซีย หากคุณกำลังฟังอยู่”และกระตุ้นให้ปูตินแฮ็คอีเมลส่วนตัวของฮิลลารี คลินตัน เป็นจุดเริ่มต้นของความพยายามมานานหลายปีโดยทรัมป์เพื่อเพิ่มโอกาสทางการเมืองด้วยความช่วยเหลือจากต่างประเทศ

การรณรงค์ของทรัมป์ในปี 2559 ยังครอบคลุมและใช้ประโยชน์จากการดำเนินการแทรกแซงการเลือกตั้งของรัสเซียกับคลินตัน ตัวอย่างเช่น การรณรงค์ทางอี-เมลเพื่อประชาธิปไตยจะถูกแฮ็กและรั่วไหลโดยกองทัพรัสเซีย และสมาชิกของวงในของทรัมป์ก็พบกันกับตัวแทนชาวรัสเซียที่สัญญาว่าจะแฉคลินตันในระหว่างการหาเสียง

ในปี 2019 ทรัมป์เคยกดดันปธน.โวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ให้เปิดการสอบสวนคดีทุจริตต่อโจ ไบเดน ซึ่งเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งแข่งกับทร้มป์ในขณะนั้น และระงับเงินช่วยเหลือทางทหารของสหรัฐฯเกือบ 400 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการที่สหรัฐอุดหนุนยูเครน เหตุการณ์นี้นำไปสู่การฟ้องร้องครั้งแรกต่อทรัมป์โดยพรรคเดโมแครต

และในระหว่างการหาเสียงในปี 2020 พันธมิตรชั้นนำของทรัมป์บางคนร่วมมือกับสายลับรัสเซียที่เป็นที่รู้จักในการขายข้อมูลบิดเบือนเกี่ยวกับไบเดนและครอบครัวของเขา รวมถึงการกล่าวอ้างเรื่องการทุจริตแบบเดียวกันกับที่ทรัมป์กล่าวถึงในการสัมภาษณ์ครั้งใหม่

คลิปของทรัมป์ที่ขอความช่วยเหลือจากปูตินถูกเผยแพร่โดยเว็บไซต์ข่าวที่ก่อตั้งโดยจอห์น โซโลมอน นักข่าวที่สนับสนุนทรัมป์ ซึ่งการรายงานข่าวก่อนหน้านี้เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างไบเดนส์กับยูเครนนั้นไม่น่าไว้วางใจ เขาเปิดเผยกับ CNN ว่าการสัมภาษณ์ถูกบันทึกเทปเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาที่มาร์อะลาโก( Mar-a-Lago) ที่ทรัมป์อยู่

จับตาดูข่าวทุจริต-คอรัปชั่นของผู้นำสหรัฐและครอบครัวว่าจะลงเอยแบบไหน เพราะฝั่งคู่แข่งทางการเมืองอย่างพรรครีพับลิกันไม่อยู่เฉยแน่ เรื่องฉาวโฉ่แบบนี้ คืองานร้อนที่ฟาดหน้าใส่ผู้นำสหรัฐฯไม่หยุด ซ้ำเติมคะแนนนิยมดิ่งเหวลงต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตามไม่ว่าผู้นำสหรัฐจะเป็นโจ ไบเดน หรือโดนัลด์ ทรัมป์ ก็แค่ฉากหน้าของระบบทุนนิยมผูกขาดของสหรัฐฯ ซึ่งปัจจุบันสั่นคลอนและถูกท้าทายโดยพลังอำนาจใหม่ ที่ต้องการปลดแอกจากการเป็นทาสของระบบผูกขาดเปโตรดอลลาร์อย่างเข้มข้น!!