จากกรณีที่รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ ออกมาเปิดเผยว่า อังกฤษจะยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรต่อบุคคลและบริษัทรัสเซีย หากรัสเซียถอนตัวออกจากยูเครนและให้คำมั่นว่าจะยุติการโจมตียูเครน ทำให้นานาประเทศต่างจับจ้อง รอลุ้นท่าทีของปูติน ผู้นำรัสเซีย ขณะที่ฝั่งประเทศชาติตะวันตก ที่เคยร่วมคว่ำบาตรรัสเซียก่อนหน้านี้ กำลังหาช่องทางบีบรัสเซียเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย
ล่าสุดทางด้านนายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์เฟซบุ๊ก Nantiwat Samart ระบุถึงประเด็นนี้ด้วยว่า “สู้ทุกแนวรบ คนที่อ่านและเชื่อข่าวจากตะวันตก จะได้ภาพว่า รัสเซียน่าจะแพ้แล้ว รุกคืบต่อไปไม่ได้ในยูเครน นายพลรัสเซียตายหลายคน มีข่าวลือปลดผู้นำทหารรัสเซีย
อยากจะแก้ตัวแทนรัสเซียว่า นายพลรัสเซียไม่ใช่พวกนั่งทำงานในห้องแอร์ แต่ออกไปบัญชาการรบเอง นั่นอาจเป็นจุดอ่อนให้ตะวันตกตรวจพบจากดาวเทียมจารกรรมและส่งข่าวให้ฝ่ายยูเครน นั่นคือการรบต้องมีการสูญเสีย และรัสเซียไม่ได้รุกรานชาติอื่นมานาน ยูเครนจึงเปรียบเหมือนสนามซ้อมรบใหญ่ของรัสเซีย ทำให้การรุกของทหารราบอาจติดขัดบ้าง
ช่วงนี้จับตาดูให้ดี เมื่อการสู้ในสนามรบไม่ได้เปรียบ ความพยายามลอบสังหารและการโค่น ล้มผู้นำรัสเซียด้วยมวลชนหรือการรัฐประหาร ซึ่งเป็นงานถนัดอีกงานของตะวันตก จะเข้มข้นมากขึ้น นั่นคือเหตุผลว่า ทำไมปูตินต้องเปลี่ยนทีมอารักขาผู้นำยกชุด โจไบเดนถึงกับพูดในระหว่างการเยือนยุโรปว่า ปูตินจะไม่ได้เป็นผู้นำรัสเซียอีกต่อไป รวมทั้งการพยายามโค่นล้มผู้นำ กลุ่มประเทศที่ไม่ร่วมบอยคอตไม่แซงชั่นรัสเซีย ไม่ร่วมมือกับตะวันตก อาจต้องเผชิญหน้ากับบรรดาม็อบต่าง ๆ กดดันและถูกโค่นล้มในวิถีที่ไม่ปกติ ไม่ได้ด้วยเล่ห์ต้องเอาด้วยมนต์”
