สหรัฐฯไล่บี้รัสเซียในทุกเวที โดยเฉพาะเวทีเศรษฐกิจอย่างการประชุมกลุ่มจี 20 กำลังจะจัดในปลายปีนี้ มีอินโดนิเซียเป็นประธานและจัดงานที่บาหลี แค่ปธน.ปูตินตอบยืนยันเข้าร่วม สหรัฐก็เปิดท่าทีเตรียมถล่มทันที แต่ล่าสุด จีนออกโรงปกป้องรัสเซีย หลังมีกระแสข่าวสหรัฐและพันธมิตรเตรียมเสนอขับให้พ้น ‘จากกลุ่มจี20’ รัฐบาลปักกิ่งยืนยันว่า จะไม่ยอมให้ประเทศใดสามารถขับประเทศหนึ่งออกจากกลุ่มได้ตามอำเภอใจ คาดจะถูกวีโต้จากอินเดียและซาอุดิอาระเบียและประเทศสมาชิกอื่นๆด้วย
เมื่อวันที่ 23 มี.ค.2565 สำนักข่าวซีจีทีเอ็นของจีนรายงานว่า หวัง เหวินปิน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน (Chinese Foreign Ministry spokesman :Wang Wenbin) กล่าวถึงกระแสข่าวที่ สหรัฐและพันธมิตรตะวันตกที่เป็นสมาชิก กลุ่มประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ “จี20” ต้องการดำเนินการขับรัสเซียออกจากการเป็นสมาชิก ว่าไม่มีสมาชิกประเทศใดมีสิทธิถอดถอนประเทศอื่น ออกจากการเป็นสมาชิกได้ตามอำเภอใจ กลุ่มจี20 ควรเป็นองค์กรตัวอย่าง ของความร่วมมือแบบพหุภาคี และความเป็นเอกภาพอย่างแท้จริง
หวัง กล่าวย้ำว่า รัสเซีย “ถือเป็นหนึ่งในสมาชิกสำคัญ” ของ จี20 ซึ่งยังคงมีเรื่องสำคัญให้ต้องหารือและร่วมมือกันอีกมาก หนึ่งในนั้นคือการร่วมกันฟื้นฟูเศรษฐกิจโลก หลังผ่านพ้นวิกฤติการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
เจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านนโยบายความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาว ให้ความเห็นต่อกระแสข่าวดังกล่าวเพียงว่า สหรัฐและพันธมิตร “ไม่สามารถมีความร่วมมือระดับปกติ” กับรัสเซีย ทั้งในด้านองค์กรและประชาคมระหว่างประเทศทุกแห่ง
ซัลลิแวนกล่าวว่า “สหรัฐฯเชื่อว่าสถานะของรัสเซียในสถาบันระหว่างประเทศและในประชาคมระหว่างประเทศ ไม่สามารถทำธุรกิจได้ตามปกติ แต่เราอยากจะปรึกษากับพันธมิตรของเรา ก่อนที่จะทำสิ่งใด และออกแถลงการณ์เพิ่มเติม”
ขณะที่ กระทรวงการต่างประเทศของอินโดนีเซียยังปฏิเสธให้ความเห็นอย่างเป็นทางการ ด้านนางลุดมิลา โวโรบีวา(Lyudmila Vorobieva) เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำกรุงจาการ์ตา ยืนยันว่า แผนการของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ในการเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำจี20 ที่เกาะบาหลี ในเดือน พ.ย.นี้ “ไม่มีการเปลี่ยนแปลง” และเตือนว่า ความพยายามขับรัสเซียออกจากจี20 จะยิ่งส่งผลกระทบต่อกลไกความร่วมมือระหว่างประเทศ
ต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ปธน.วลาดิมีร์ ปูตินได้ยืนยันการเข้าร่วมประชุมกับกลุ่มจี 20 เดือนพฤศจิกายน 2565 ซึ่งปีนี้ ประเทศอินโดนิเซียเป็นประธานและเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม เมื่อข่าวแพร่ออกไปสหรัฐฯก็เคลื่อนไหวทันที
ด้านดมิทรี เปสคอฟโฆษกเครมลิน กล่าวในระหว่างการแถลงข่าวเมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่า “เป็นที่ทราบกันดีว่าสหรัฐฯจะออกแรงกดดันอย่างเปิดเผยและแทบจะไม่มีการเจรจาทางการทูตต่อทุกประเทศในแง่ของการต่อต้านประเทศของรัสเซียอย่างรอบด้าน แต่เชื่อมั่นว่าประเทศสมาชิกอื่นๆจะไม่เห็นด้วย”
ลุดมิลา โวโรเบียวา(Lyudmila Vorobieva) เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำอินโดนีเซียกล่าวว่า “ปธน.ปูตินตั้งใจจะเดินทางมายังเกาะบาหลีของอินโดนีเซียเพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอด จี20 ในเดือนพฤศจิกายนแน่นอน แต่ก็จะขึ้นอยู่กับหลายสิ่งหลายอย่าง รวมถึงสถานการณ์ COVID ซึ่งกำลังดีขึ้น แต่ณ.ตอนนี้ ความตั้งใจของเขาคือจะเข้าร่วมประชุม”
เมื่อสื่อมวลชนถามเกี่ยวกับข้อเสนอของสหรัฐให้ขับรัสเซียออกจาก จี20 เธอกล่าวว่า “จี20 เป็นเวทีสนทนาเพื่อหารือเกี่ยวกับประเด็นทางเศรษฐกิจ ไม่ใช่วิกฤตอย่างยูเครน แน่นอนว่าการขับไล่รัสเซียออกจากฟอรัมประเภทนี้ จะไม่ช่วยให้ปัญหาทางเศรษฐกิจของโลกได้รับการแก้ไข ในทางตรงกันข้าม ถ้าไม่มีรัสเซียก็คงทำได้ยาก”
มาดูภูมิหลังของกลุ่ม จี20 ที่มีบทบาททางเศรษฐกิจที่สำคัญเชื่อมต่อระหว่างยุโรปและภูมิภาคอื่นๆ สมาชิกประกอบด้วยผู้แทนสหภาพยุโรป และอีก 19 ประเทศ ได้แก่ ประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 8 ประเทศ คือ สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร แคนาดา ฝรั่งเศส อิตาลี ญี่ปุ่น เยอรมนี ออสเตรเลีย และประเทศกำลังพัฒนาขนาดใหญ่ 11 ประเทศได้แก่ จีน อินเดีย รัสเซีย ซาอุดีอาระเบีย แอฟริกาใต้อาร์เจนตินา บราซิล เม็กซิโก อินโดนีเซีย เกาหลีใต้ และตุรกี ทั้งนี้ ขนาดเศรษฐกิจของสมาชิก จี20 คิดเป็นร้อยละ 90 ของเศรษฐกิจโลก และมีจำนวนประชากรรวมกันประมาณสองในสามของโลก
เดิม จี20 เป็นการประชุมระดับ รมว. คลัง และผู้ว่าการธนาคารกลาง โดยมีผู้อำนวยการ IMF และประธานธนาคารโลก เข้าร่วมโดยตำแหน่ง อย่างไรก็ตาม วิกฤตเศรษฐกิจโลกในปี 2551 ส่งผลให้มีการยกระดับการประชุม จี20 เป็นระดับผู้นำ โดยจัดขึ้นครั้งแรกเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2551 ที่วอชิงตัน ดี.ซี. สหรัฐอเมริกา เพื่อเป็นเวทีหลักสำหรับผู้นำประเทศสมาชิก ในการหารือประเด็นเศรษฐกิจระหว่างประเทศ
ประธาน จี20 มาจากการหมุนเวียนระหว่างประเทศสมาชิก โดยมีประเทศที่จะดำรงตำแหน่งประธานจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมระดับผู้นำ จี20 ด้วย
